บลจ.ยูโอบี เชียร์ ลงทุนทองคำ "กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลด์ ฟันด์ (UOBSG)" และ "กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลด์ ฟันด์ - H (UOBSG-H)" ชี้ สิ้นปีนี้ราคาอาจจะสูงถึง 2,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ไทย) จำกัด เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนในทองคำว่า การลงทุนในทองคำ ถือเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่ได้รับความนิยมมาก ถึงแม้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ราคาทองคำจะมีแนวโน้มปรับตัวสูงเพิ่มขึ้น แต่นักลงทุนยังคงให้ความสนใจลงทุนในทองคำ ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในทองคำของธนาคารกลางที่มีสัดส่วนการจัดสรรทุนสำรองระหว่างประเทศจากเดิมที่ด้วยทองคำมากขึ้น โดยประเทศสหรัฐอเมริกาได้จัดสรรสัดส่วนทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศสูงถึง 76.7% (World Council ณ มีนาคม 2555) นอกจากนี้มูลค่าตลาดทองคำยังมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับตลาดหุ้น หรือตลาดตราสารหนี้ จึงทำให้นักลงทุนมองว่าการลงทุนในทองคำยังมีโอกาสเติบโตได้อีก และนักวิเคราะห์จากสถาบันการเงินชั้นนำได้คาดการณ์ราคาทองคำโลกในสิ้นปีนี้อาจจะสูงถึง 2,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์
ทั้งนี้ บลจ.ยูโอบี มีกองทุนรวมที่ลงทุนในทองคำ คือ กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลด์ ฟันด์ (UOBSG) และ กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลด์ ฟันด์ - H (UOBSG-H) กองทุนจะเน้นการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน SPDR Gold Trust (กองทุนหลัก) ซึ่งทั้งสองกองทุนจะเน้นในทองคำแท่ง เพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของราคาทองคำในตลาดโลกหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายทั้งหมดของกองทุน แต่สำหรับท่านที่มีความกังวลด้านความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนนั้น สามารถลงทุนในกองทุน UOBSG-H ที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศอีกด้วย (ซึ่งจะปฏิบัติให้เป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่ คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด)
บลจ. ยูโอบี แนะนำว่า การลงทุนในทองคำไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตามถือเป็นการลงทุนที่น่าสนใจในยามที่ตลาดทุนยังคงมีความผันผวนสูงและความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อเริ่มกลับมา เนื่องจากการลงทุนในทองคำช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้ ในปัจจุบันมีหลากหลายช่องทางที่นักลงทุนสามารถลงทุนทองคำได้ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนทองคำแท่ง ซึ่งจะมีความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยในการเก็บรักษา ส่วนการลงทุนในตราสารอนุพันธ์ (Gold Futures) จะใช้เงินลงทุนน้อย แต่นักลงทุนจะต้องสามารถรับความเสี่ยงได้สูง หรือการลงทุนผ่านกองทุนรวม ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่นักลงทุนได้ให้ความสนใจ เนื่องจากสามารถลงทุนได้ทุกวัน ไม่มีความเสี่ยงในเรื่องของความปลอดภัยในการเก็บรักษา และใช้เงินลงทุนขั้นต่ำที่น้อยกว่าการซื้อทองคำแท่ง
