ASTVผู้จัดการรายวัน - ยูโอบีเดินหน้ารุกพริวิเลจ แบงก์กิ้งตั้งเป้าสินทรัพย์โต 30% จาก 1.2 แสนล้านเป็น 1.5 แสนล้านในช่วงที่เหลือของปี พร้อมแนะทองคำ-สินค้าโภคภัณฑ์ยังน่าลงทุน คาดดัชนีหุ้นแตะ 1,300 จุดในปีนี้
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือข่ายสาขาและบริการ ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีธนาคารมีแผนงานที่จะรุกธุรกิจพริวิเลจ แบงก์กิ้งอย่างต่อเนื่อง หลังประสบความสำเร็จในการขยายฐานลูกค้ามาจากก่อน โดยตั้งแต่สิ้นปีที่ผ่านมาจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ธนาคารเพิ่มปริมาณสินทรัพย์จาก 9 หมื่นล้านบาท มาเป็น 1.2 แสนล้านบาท และในช่วงที่เหลือของปี 2555 นี้ ได้ตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตสูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ระดับ 30% หรือมีปริมาณสินทรัพย์บริหาร 1.5 แสนล้านบาท รวมถึงเพิ่มจำนวนลูกค้าอีก 20% จากปัจจุบันที่มีฐานลูกค้ากลุ่มนี้อยู่ประมาณ 3 หมื่นราย
"ลูกค้าในกลุ่มนี้ธนาคารตัดยอดสินทรัพย์ที่มีธุรกรรมกับธนาคารที่ 3 ล้านบาท ซึ่งอาจจะเป็นระดับที่ค่อนข้างต่ำ เแต่เนื่องจากธนาคารต้องการเปิดกว้างให้กับลูกค้ามากขึ้น โดยวงเงินเฉลี่ยต่อรายอยู่ที่ 10 ล้านบาท"
ทั้งนี้ กลยุทธที่ธนาคารจะเน้นในปีนี้ ธนาคารจะเน้นจุดยืนที่จะเป็นผู้นำในการให้คำแนะนำในการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆที่หลากหลายขึ้น และบริการเชื่อมโยงเครือข่ายในภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิก ซึ่งในจุดนี้จะมีความสำคัญเพิ่มขึ้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้าหลังจากมีการเปิดเสรีประชาคมอาเซียน(AEC)
สำหรับทิศทางการลงทุนในระยะสั้นและปานกลาง ธนาคารยังแนะนำการลงทุนในทองคำซึ่้งในช่วงที่ผ่านมาแม้ราคาจะลดลงบ้าง แต่แนวโน้มก็ยังปรับตัวขึ้นได้อยู่ โดยคาดว่าในปีนี้น่าจะทะลุ 19,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และสินค้าโภคภัณฑ์ที่ยังมีจังหวะการลงทุนที่ดี ขณะที่ภาวะตลาดหลักทรัพย์ในปีนี้ ดัชนีน่าจะปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1,300 จุดได้ ซึ่งในส่วนนี้ธนาคารก็มีผลิตภัณฑ์ด้านกองทุนครอบคลุมอยู่ไว้แล้ว
ด้านนางสาวณัชชา สุนทรธาราวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารยูโอบีกล่าวว่า ธนาคารประเมินอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยปีนี้ที่ 5% จากปีก่อนที่เติบโตเพียง 0.1% โดยมีแรงหนุนจากการใช้จ่ายในประเทศทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชนเป็นหลัก ขณะที่ปัจจัยที่ยังต้องติดตามเป็นกรณีของเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน แต่เชื่อว่ายังอยู่ในภาวะที่บริหารจัดการได้ จึงคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะทรงตัวในระดับปัจจุบันคือ 3% ไปจนถึงสิ้นปีนี้
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือข่ายสาขาและบริการ ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีธนาคารมีแผนงานที่จะรุกธุรกิจพริวิเลจ แบงก์กิ้งอย่างต่อเนื่อง หลังประสบความสำเร็จในการขยายฐานลูกค้ามาจากก่อน โดยตั้งแต่สิ้นปีที่ผ่านมาจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ธนาคารเพิ่มปริมาณสินทรัพย์จาก 9 หมื่นล้านบาท มาเป็น 1.2 แสนล้านบาท และในช่วงที่เหลือของปี 2555 นี้ ได้ตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตสูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ระดับ 30% หรือมีปริมาณสินทรัพย์บริหาร 1.5 แสนล้านบาท รวมถึงเพิ่มจำนวนลูกค้าอีก 20% จากปัจจุบันที่มีฐานลูกค้ากลุ่มนี้อยู่ประมาณ 3 หมื่นราย
"ลูกค้าในกลุ่มนี้ธนาคารตัดยอดสินทรัพย์ที่มีธุรกรรมกับธนาคารที่ 3 ล้านบาท ซึ่งอาจจะเป็นระดับที่ค่อนข้างต่ำ เแต่เนื่องจากธนาคารต้องการเปิดกว้างให้กับลูกค้ามากขึ้น โดยวงเงินเฉลี่ยต่อรายอยู่ที่ 10 ล้านบาท"
ทั้งนี้ กลยุทธที่ธนาคารจะเน้นในปีนี้ ธนาคารจะเน้นจุดยืนที่จะเป็นผู้นำในการให้คำแนะนำในการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆที่หลากหลายขึ้น และบริการเชื่อมโยงเครือข่ายในภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิก ซึ่งในจุดนี้จะมีความสำคัญเพิ่มขึ้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้าหลังจากมีการเปิดเสรีประชาคมอาเซียน(AEC)
สำหรับทิศทางการลงทุนในระยะสั้นและปานกลาง ธนาคารยังแนะนำการลงทุนในทองคำซึ่้งในช่วงที่ผ่านมาแม้ราคาจะลดลงบ้าง แต่แนวโน้มก็ยังปรับตัวขึ้นได้อยู่ โดยคาดว่าในปีนี้น่าจะทะลุ 19,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และสินค้าโภคภัณฑ์ที่ยังมีจังหวะการลงทุนที่ดี ขณะที่ภาวะตลาดหลักทรัพย์ในปีนี้ ดัชนีน่าจะปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1,300 จุดได้ ซึ่งในส่วนนี้ธนาคารก็มีผลิตภัณฑ์ด้านกองทุนครอบคลุมอยู่ไว้แล้ว
ด้านนางสาวณัชชา สุนทรธาราวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารยูโอบีกล่าวว่า ธนาคารประเมินอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยปีนี้ที่ 5% จากปีก่อนที่เติบโตเพียง 0.1% โดยมีแรงหนุนจากการใช้จ่ายในประเทศทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชนเป็นหลัก ขณะที่ปัจจัยที่ยังต้องติดตามเป็นกรณีของเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน แต่เชื่อว่ายังอยู่ในภาวะที่บริหารจัดการได้ จึงคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะทรงตัวในระดับปัจจุบันคือ 3% ไปจนถึงสิ้นปีนี้