xs
xsm
sm
md
lg

Good Morning News by บลจ.บัวหลวง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คอลัมน์ Good Morning News วันที่ 27 เมษายน 2555
โดย วรวรรณ ธาราภูมิ
และทีมจัดการกองทุน บลจ.บัวหลวง

เศรษฐกิจโลก

• ดัชนีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของยูโรโซนในเดือนเมษายนลดลงมาอยู่ที่ 92.8 จาก 94.5 ในเดือนมีนาคม ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 94.2 ตอกย้ำถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย

• ผู้นำระดับสูงของยูโรปฏิเสธข่าวที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และประเทศสมาชิกยูโรโซนกำลังจัดทำแผนริเริ่มในการช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์เพื่อให้สามารถกู้เงินจากกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ได้โดยตรง เนื่องจากมีเพียงรัฐบาลในประเทศกลุ่มยูโรโซนเท่านั้นที่สามารถกู้เงินจาก ESM ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์

• ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของอิตาลีเดือนเมษายนลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552 มาอยู่ที่ 89.5 เนื่องจากกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยของประเทศอาจทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก ในขณะที่รัฐบาลเดินหน้าใช้มาตรการรัดเข็มขัดที่เข้มงวด

• แม้ว่าอิตาลีจะขายตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือนได้ 8.5 พันล้านยูโร แต่ต้องให้อัตราผลตอบแทนที่ 1.77% ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดนับแต่ต้นปีนี้ แสดงว่านักลงทุนยังกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจและปัญหาหนี้สินจำนวนมาก ทำให้คาดการณ์ว่าอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 5 และ 10 ปีที่จะมีการประมูลในวันนี้ก็น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน

• IMF ระบุว่า 90% ของธนาคารพาณิชย์สเปนมีเงินทุนและศักยภาพในการทำกำไรเพียงพอที่จะรับมือกับภาวะเศรษฐกิจขาลงได้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะต้องจัดการปัญหาเกี่ยวกับธนาคารที่อ่อนแออย่างเร่งด่วนด้วยความระมัดระวังไม่ให้ธนาคารที่มีฐานะแข็งแกร่งได้รับผลกระทบจากนักลงทุนที่สูญเสียความเชื่อมั่นต่อภาคการธนาคารของสเปน

• ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐฯ กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ค่อยๆ แข็งแกร่งขึ้นทีละน้อย แต่ยังคงเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงจากวิกฤตหนี้ยุโรปและความตึงเครียดระหว่างโลกตะวันตกกับอิหร่านซึ่งทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นสูง โดยช่วงสิ้นปีนี้เศรษฐกิจจะเผชิญกับภาวะที่เรียกว่า Fiscal Cliff (คือการที่มาตรการลดภาษีหมดอายุพร้อมกับมีการลดค่าใช้จ่ายมหาศาลทั่วทุกภาคส่วน)

• ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 เมษายน ลดลง 1,000 ราย มาอยู่ที่ 388,000 ราย ซึ่งลดลงน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งสัญญาณว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานเริ่มอ่อนแรงลง

• ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending home sales) ของสหรัฐฯ ในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 4.1% มาอยู่ที่ 101.4 อันเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2553 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1% จึงช่วยจุดประกายความหวังว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ จะฟื้นตัวขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำได้ช่วยดึงดูดผู้ซื้อให้กลับเข้ามาในตลาดอีกครั้ง

เศรษฐกิจเอเชีย

• สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Moody’s ให้แนวโน้มในเชิงบวกต่อเศรษฐกิจจีน จากการที่จีนมีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่รวมถึงความเข้มแข็งของรัฐบาลในการจัดการหนี้สิน ซี่งจะทำให้มีเสถียรภาพในการรับมือกับภาวะวิกฤต

ทั้งนี้ การคุมเข้มการคลังของรัฐบาลท้องถิ่น และการปฏิรูประบบการเงิน เป็นสิ่งจำเป็นที่จีนจะต้องทำเพื่อหนุนเศรษฐกิจให้โตเร็วและมีเสถียรภาพได้ตลอด 10 ปีนี้

• นักวิเคราะห์ที่เข้าร่วมประชุมสินค้าโภคภัณฑ์ของ Financial Times คาดว่า หยวนจะเป็นสกุลเงินสำคัญในการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ใน 1-2 ทศวรรษข้างหน้า เนื่องจากจีนเป็นผู้นำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดของโลก อีกทั้งรัฐบาลจีนก็ผลักดันให้หยวนเป็นสกุลเงินสากล โดยเริ่มให้มีการเปิดเสรีการค้าเงินหยวนมากขึ้น

• องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เรียกร้องให้ญี่ปุ่นเดินหน้าปฏิรูประบบภาษีให้มีอัตราสูงขึ้น เพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจและการคลังเติบโตในระยะยาว และควรมีการส่งเสริมการค้าเสรีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการแข่งขัน

• GDP ไตรมาสที่ 1 ปีนี้ของเกาหลีใต้ขยายตัว 0.9% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อน และ 2.8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปีที่แล้ว จากแรงหนุนของการลงทุนภาคเอกชนและการใช้จ่ายของภาครัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ได้ให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้จะเติบโตยั่งยืนมากขึ้นหากสามารถกระตุ้นการจับจ่ายในภาคครัวเรือนได้มากกว่านี้ หลังจากที่การส่งออกต้องชะลอตัวจากความไม่แน่นอนในอุปสงค์ของคู่ค้าจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจของโลก

• ยอดขาดดุลการค้าของไทยเดือนมีนาคมมีมูลค่า 4.6 พันล้านดอลลาร์ โดยส่งออกลดลง 6.54% ในขณะที่นำเข้าเพิ่มขึ้น 25.62% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคมปีก่อน เนื่องจากการส่งออกไปยังตลาดสำคัญ เช่น ญี่ปุ่น ยุโรป เอเชียใต้ ฮ่องกง ไต้หวัน มีการขยายตัวในอัตราที่ลดลง และการส่งออกสินค้าหลายรายการลดลงจากปัญหาน้ำท่วม แต่มีการนำเข้าสินค้าทุนเพิ่มเพื่อนำมาใช้ในภาคการผลิต

• รังษี เหลืองวารินกุล ประธานคณะกรรมการผังเมืองและโครงสร้างพื้นฐานอุตสาหกรรม กล่าวว่า ผู้ประกอบการภาคเอกชนยังไม่เชื่อมั่นต่อแผนบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล โดยเฉพาะการสร้างฟลัดเวย์ที่ต้องใช้เวลาเตรียมการ 1-2 ปี และต้องการให้รัฐบาลเร่งดำเนินมาตรการต่างๆ ให้เป็นรูปธรรม และบอกภาคเอกชนให้ชัดเจนว่าจะต้องเตรียมตัวรับมืออย่างไร

• Citi เตือนว่า วงจรราคาขึ้นของสินค้าโภคภัณฑ์กำลังจะจบลงแล้วเนื่องจากจีนซึ่งเป็นผู้บริโภครายใหญ่เริ่มโตช้าลง แต่มีโภคภัณฑ์ชนิดเดียวที่จะยังคงราคาแพงต่อไป นั่นก็คือ “น้ำมัน”

Equity Market

• SET Index ปิด 1,209.27 จุด เพิ่มขึ้น 7.91 จุด หรือ 0.66% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 30,393.82 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 317.80 ล้านบาท โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับประมาณการขยายตัวเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขึ้นของเฟด รวมถึงปัจจัยทางด้านผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

• ปตท.รายงานว่า East Mediterranean Gas และ PTTI กำลังหารือกับที่ปรึกษาทางกฎหมายเพื่อหาแนวทางปกป้องประโยชน์ให้บริษัทและผู้ถือหุ้น เนื่องจาก EGPC/EGAS ไม่ส่งก๊าซให้ตามสัญญาซื้อขาย และหยุดส่งมานานแล้วหลังเกิดจลาจลในอียิปต์

Fixed Income Market

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยมีการปรับเพิ่มขึ้นในช่วง 0.02% ถึง 0.04% โดยพันธบัตร ธปท.ระยะกลางมีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดหลังจากการประมูล สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตร ธปท. อายุ 13 วัน มูลค่า 80,000 ล้านบาท

Guru Corner

• จิม โรเจอร์ส กล่าวถึงการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ว่าการคงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับใกล้ 0% ไปจนถึงปี 2557 เป็นอย่างน้อย รวมถึงนโยบายอื่นๆ กำลังส่งผลกระทบด้านลบต่อระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยรวม เพราะเป็นนโยบายที่เอื้อประโยชน์เฉพาะคนบางกลุ่มเท่านั้น โดย FED ควรปล่อยให้ตลาดเป็นตัวกำหนดอัตราดอกเบี้ย และควรจะหยุดปั่นค่าเงินได้แล้ว

พร้อมกันนี้ยังได้กล่าวโจมตีว่า FED เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้สหรัฐฯ ขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ เพราะเป็นผู้กู้ยืมเงินมาจำนวนมหาศาล ซึ่งจะเห็นได้ว่าเมื่อ 5 ปีก่อน FED รักษางบดุลได้ด้วยการออกพันธบัตรมาขายแค่ 8 แสนล้านดอลลาร์ แต่ขณะนี้ได้เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าตัว

นอกจากนั้นยังได้ทำนายว่า ปีหน้าระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะต้องเผชิญกับภาวะความถดถอยอีกครั้งและจะร้ายแรงกว่าครั้งก่อน เพราะรัฐบาลกำลังขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นในจำนวนมหาศาล
กำลังโหลดความคิดเห็น