คอลัมน์ Good Morning News วันที่ 23 เมษายน 2555
โดย วรวรรณ ธาราภูมิ
และทีมจัดการกองทุน บลจ.บัวหลวง
สำหรับคอลัมน์ออนไลน์ "Good Morning News จากวรวรรณ ธาราภูมิ และทีมจัดการกองทุน บลจ.บัวหลวง" จะมาพบกับท่านผู้อ่านในช่วงเช้าของวันจันทร์-ศุกร์ ซึ่งจะเป็นการสรุปข่าวเศรษฐกิจในรอบวันที่เกิดขึ้นทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงมุมมองจากผู้บริหารและผู้จัดการกองทุนจาก บลจ.บัวหลวงอีกด้วย
เศรษฐกิจโลก
• ประเทศสมาชิกต่างเห็นพ้องต้องกันให้มีการเพิ่มทุนทรัพย์ของ IMF ขึ้นกว่า 4.30 แสนล้านดอลลาร์ โดยประเทศที่ให้คำมั่นในการจัดสรรเงินสมทบรายใหญ่ที่สุดได้แก่ กลุ่มยูโรโซน (2 แสนล้านดอลลาร์) และญี่ปุ่น (6 หมื่นล้านดอลลาร์)
ส่วนประเทศเกิดใหม่บางประเทศ เช่น จีน และอินเดีย แม้จะไม่แสดงการสนับสนุน แต่ก็ได้ตกลงที่จะอยู่ในกลุ่มประเทศที่จ่ายเงินสมทบเช่นกัน
นอกจากนี้ ประเทศสมาชิกยังมีความเห็นว่ากลุ่มประเทศพัฒนาแล้วควรเร่งเสริมความแข็งแกร่งทางการคลัง และหลีกเลี่ยงการใช้นโยบายการคลังที่จะทำให้เศรษฐกิจหดตัวเกินไป เพราะถ้าหากเศรษฐกิจไม่กลับมาขยายตัวตามปกติได้อีกครั้ง ความยั่งยืนทางการคลังก็จะเป็นไปไม่ได้
• ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเยอรมนี เดือนเมษายนปรับตัวขึ้นเล็กน้อยสู่ 109.9 จุดจากเดิม 109.8 จุดในเดือนมีนาคม ขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 อันบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจเยอรมนี
• สมาพันธ์ธนาคารออมทรัพย์แห่งสเปน (FUNCAS) คาดว่า เศรษฐกิจสเปนจะหดตัวลง 1.7% ในปีนี้ และจะหดตัวลงอีก 1.5% ในปีหน้า ซึ่งเป็นการคาดการณ์ที่เป็นลบมากกว่าของ IMF
นอกจากนี้ FUNCAS ยังคาดว่า อัตราว่างงานของสเปนจะสูงขึ้นสู่ 24.5% ในช่วงสิ้นปีนี้ และ 26.3% ในปีหน้า แต่แผนของรัฐบาลที่จะลดยอดขาดดุลลงให้เหลือ 3% ของ GDP ในปีหน้านั้นน่าจะเป็นไปได้
• สหภาพแรงงานของสเปนเตรียมร่วมกันประท้วงตามท้องถนนอีกครั้งเพื่อคัดค้านการปฏิรูปแรงงานและมาตรการรัดเข็มขัดในวันที่ 29 เมษายนนี้ หลังจากที่ประสบความล้มเหลวในการเจราจากับรัฐบาล โดยระบุว่าการปฏิรูปแรงงานจะทำให้บริษัทต่างๆ ไล่พนักงานออกได้ง่ายขึ้น แทนที่จะมีจุดมุ่งหมายในการสร้างงานตามที่นายกรัฐมนตรีกล่าว และระบุว่าการปฏิรูปดังกล่าวจะเป็นการลดค่าชดเชยที่บริษัทต้องจ่ายในการปลดพนักงาน ทำให้การไล่พนักงานออกมีต้นทุนลดลง
• พนักงานขนส่งมวลชนของอิตาลีรวมตัวกันประท้วงในกรุงโรมเพื่อต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล หลังจากเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมารัฐบาลอนุมัติร่างกฎหมายปฏิรูปด้านแรงงาน ซึ่งประกอบด้วย การเพิ่มสวัสดิการว่างงาน การลดสัญญาการทำงานชั่วคราว และเพิ่มความยืดหยุ่นเรื่องการไล่พนักงานออก ทำให้บรรดาพนักงานต่างเกิดความกังวลว่ารัฐบาลจงใจที่จะอำนวยความสะดวกให้ภาคธุรกิจให้สามารถปลดพนักงานออกได้ง่ายยิ่งขึ้น
• ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐฯ แสดงความพอใจในคำมั่นสัญญาของประเทศสมาชิก IMF ที่จะเพิ่มศักยภาพการปล่อยกู้ของ IMF อีกกว่า 4.30 แสนล้านดอลลาร์ และกล่าวว่าสหรัฐฯ จะสนับสนุนการทำหน้าที่ของตลาดการเงินระหว่างประเทศ รวมถึงวงเงินสวอปของธนาคารกลางสหรัฐฯ กับธนาคารกลางยุโรปด้วย
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดของ IMF ไม่ได้แสดงเจตนารมณ์ในการสนับสนุนเงินทุนเพิ่มเติมให้
เอชีย
• นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นประกาศระหว่างการหารือกับประธานาธิบดีพม่าว่าญี่ปุ่นจะยกหนี้ 3 แสนล้านเยน (3.68 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้ เพื่อช่วยเหลือกระบวนการปฏิรูปประเทศสู่ความเป็นประชาธิปไตย และยังจะสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจด้วยการให้ความช่วยเหลือทางการเงินในอนาคต เช่น การให้เงินกู้สกุลเงินเยนที่ดอกเบี้ยต่ำ เป็นต้น
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีเต็งเส่ง เป็นผู้นำระดับสูงคนแรกของพม่าที่เดินทางเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการในรอบ 28 ปี
• The 21 Century Public Institute รายงานว่า ญี่ปุ่นอาจจะหลุดจากกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วก่อนปี 2050 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัว และการมีสัดส่วนประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้นทำให้ความสามารถในการผลิตลดลง โดยกำลังผลิตของญี่ปุ่นกำลังลดลงจากอัตราการเกิดในระดับต่ำของประชากร และการลงทุนที่หดตัวจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังซบเซาต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังได้คาดว่า GDP ของญี่ปุ่นอาจจะตามหลังอินเดียในปี 2014
ไทย
• ที่ประชุม ครม.มีมติอนุมัติเป้าหมายของนโยบายการเงินประจำปี 2555 ที่เป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และ รมว.คลัง โดยกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยรายไตรมาสระหว่าง 0.5-3.0% ต่อปี และหากมีการเคลื่อนไหวออกนอกกรอบ กนง.จะต้องชี้แจงสาเหตุ แนวทางแก้ไข และระยะเวลาที่คาดว่าจะกลับเข้าสู่กรอบที่กำหนด
• ตัวแทนจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ม.ธรรมศาสตร์ ได้แชมป์โลกจากการแข่งขัน CFA Institute Research Challenge เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2555 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยการแข่งขันนี้เป็นการแข่งขันวิเคราะห์การลงทุนในหลักทรัพย์ ซึ่งมีจำนวนผู้เข้าร่วมการแข่งขันมากกว่า 3,000 คน หรือ 685 ทีม จาก 55 ประเทศทั่วโลก
Equity Market
• SET Index ปิด 1,194.60 จุด เพิ่มขึ้น 9.26 จุด หรือ 0.78% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 28,234 ล้านบาท โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีที่ราคาปรับตัวลดลงในช่วงก่อนหน้า และมีแรงซื้อเก็งผลประกอบการไตรมาส 1 ทำให้ดัชนีปรับตัวขึ้นแม้จะมีแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ออกมาบ้างหลังจากผลประกอบการออกมาดีกว่าคาด ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องอีก 1,217 ล้านบาท
Fixed Income Market
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในทุกช่วงอายุ ทรงตัวต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ในวันนี้มีการประมูลตั๋วเงินคลัง อายุ 6 เดือน มูลค่า 15,000 ล้านบาท
