คปภ.เปิดสายด่วนประกันภัย 1186 ทั่วประเทศตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชน พร้อมให้บริการปรึกษาปัญหาด้านการประกันภัยและศูนย์กลางข้อมูลทำประกันภัยรถยนต์
นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย คปภ.กล่าวว่า ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ คาดว่ามีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาในต่างจังหวัด และท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ใช้รถยนต์เป็นพาหนะในการเดินทาง สำนักงาน คปภ. มีความห่วงใยผู้ใช้รถ จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกให้บริการปรึกษาปัญหาด้านการประกันภัย และเป็นศูนย์กลางฐานข้อมูลด้านการประกันภัย เพื่อให้ประชาชนและผู้เอาประกันภัยที่ประสบปัญหาในช่วงวันหยุด สามารถเข้าถึงระบบการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยได้อย่างสะดวก รวดเร็ว เป็นธรรม และทั่วถึง
โดยประชาชนสามารถโทรสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนประกันภัย 1186 ทั่วประเทศ ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 13 - 16 เมษายน 2555 นอกจากนี้ ฝากเตือนผู้ใช้รถควรขับรถด้วยความระมัดระวัง ตรวจสอบการทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และวันหมดอายุของการทำประกันภัยรถ ก่อนเดินทางทุกครั้ง เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น การทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) สามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ประสบภัยและครอบครัวได้ ที่สำคัญควรตรวจสภาพรถให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอเพื่อความปลอดภัย
อย่างไรก็ตามในช่วงวันหยุดยาวนี้ ขอแนะนำให้ประชาชนทำประกันภัย อุบัติเหตุเดินทางอุ่นใจ ซึ่งเป็นกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับการเดินทางในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ภายในประเทศที่ให้ความคุ้มครองการสูญเสียอวัยวะ สายตา ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง และค่ารักษาพยาบาล โดยมีอัตราเบี้ยประกันภัยขั้นต่ำ เช่น จำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท ค่ารักษาพยาบาล 10,000 บาท ระยะเวลาเดินทาง 1-14 วัน มีเบี้ยประกันภัยอยู่ระหว่าง 15 - 60 บาท
ส่วนการเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ มีกรมธรรม์ประกันภัยการเดินทางที่ให้ผลประโยชน์ต่างๆ มากมาย เช่น การเสียชีวิต ทุพพลภาพ ค่ารักษาพยาบาล ความล่าช้าหรือสูญหายของกระเป๋าเดินทาง ความสูญหายของทรัพย์สินส่วนตัว การพลาดการต่อเที่ยวบิน และค่าใช้จ่ายเมื่อการเดินทางหยุดชะงัก เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทประกันภัยจะจัดแผนความคุ้มครองแบบต่างๆ ให้ผู้เอาประกันภัยสามารถเลือกซื้อได้ตามความต้องการ โดยเบี้ยประกันภัยจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ในแต่ละแบบความคุ้มครอง