บลจ.บัวหลวง แนะหุ้นดีฝ่าด่านเงินเฟ้อ กลุ่มอาหาร ค้าปลีก เทเลคอม และพลังงาน เยิ่ยม ล่าสุดไอพีโอกอง "บัวหลวงสิริผลบรรษัทภิบาล" รับดีมานด์ เริ่มไอพีโอแล้วถึง 3 เมษายน นี้
นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า หุ้นที่ช่วยปกป้องเรื่องเงินเฟ้อได้ดีก็คือพวกที่โตเร็วแบบหุ้นกลุ่มอาหารและค้าปลีก แล้วก็ยังมีพวกเทเลคอม กับพลังงาน แต่เลือกเป็นตัวๆ Good Stocks ต้องมี Good Trade ด้วย ถึงจะได้ Good Performance
ทั้งนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าผสมผสานการลงทุน เพราะเราไม่รู้แน่ว่าอะไรจะดีกว่ากัน โลกหมุนเร็วขึ้นมาก การมี Commodities พอควรก็เป็นเรื่องที่น่าพิจารณา เช่น ทองคำ เงิน หรือน้ำมัน เป็นต้น และมนุษย์เงินเดือนควร ลงทุนทุกเดือน
ขณะที่ในโลกการลงทุน Charlie Munger บอกว่า ถ้าการลงทุนมันไม่ยากสักหน่อย ใครๆ ก็รวยแล้วสิ ให้กองทุนรวมช่วยให้เงินของคุณทำงาน โดยคุณไม่ต้องทำการบ้านยากๆ ไปตั้งใจทำงานของคุณเองดีกว่า
อย่างไรก็ตาม ในวิกฤติย่อมมีโอกาส ซึ่งควรแบ่งเงินไปลงทุนในกองทุนรวม ลดภาษี มีกองทุนพันธบัตร/ตรสารหนี้ที่ผลตอบแทนสุทธิดีกว่าเงินฝาก มีกองทุนทองคำ อสังหาริมทรัพย์ และกองทุนหุ้นปันผล อย่าง กองทุนรวมบัวหลวงสิริผลธรรมาภิบาล
"อย่าเห็นแก่ของแถม มากไปกว่าผลการดำเนินงานกองทุน แต่ต้องเข้าใจวิธีการบริหารกองทุนของเขาด้วย ไม่มีใครที่หนึ่งทุกปี บางแห่งแจกของรางวัลล่อใจ เพียงเพื่อให้ย้ายกองทุนจากที่อื่นมาลงทุนกับเขา ทั้งๆ ที่บริหารกองทุนได้แย่อย่างสม่ำเสมอ" วรวรรณ กล่าว
สำหรับกองทุนเปิดบัวหลวงสิริผลบรรษัทภิบาล หรือ Bualuang Siriphol Corporate Governance (BSIRICG) ซึ่งเป็นกองทุนรวมประเภทตราสารแห่งทุน ได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งกองทุนดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2554 ที่ผ่านมา และจะเริ่มเปิดขายไอพีโอในวันที่ 26 มีนาคม - 3 เมษายน 2555 นี้
โดยกองทุนดังกล่าวเหมาะกับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นและความผันผวนของมูลค่าหน่วยลงทุนได้ในระดับสูง เงินลงทุนส่วนที่มีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนในรูปเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอจากการที่กองทุนจะได้รับเงินปันผล หรือกำไรส่วนเกินทุนจากการลงทุนในหุ้น
ทั้งนี้กองทุน BSIRICG จะเข้าไปลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI)ที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทจดทะเบียนไทย ซึ่งการพิจารณาการกำกับดูแลกิจการที่ดีอาจพิจารณาจากการจัดอันดับ CG Scoring ของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย หรือหน่วยงานอื่นใด หรือตามดุลยพินิจของบริษัทจัดการ โดยเน้นลงทุนในกลุ่มหลักทรัพย์ หุ้นที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูง หรือมีสภาพคล่องสูงอย่างสม่ำเสมอ หรือมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงและต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ส่วนที่เหลือ จะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารการเงิน หรือเงินฝาก ตลอดจนหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนดหรือให้ความเห็นชอบ