xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นจีน-อินเดียกลับมาให้ยิลด์สูง ยูโอบีแนะP/Eยังต่ำเป็นจังหวะเข้าลงทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 บลจ.ยูโอบี ชี้ หุ้นจีน อินเดีย คลายความกังวลกลับมาให้ผลตอบแทนที่ดี ขณะที่ราคาหุ้นยังต่ำกว่าในอดีต และมีหุ้นแนวโน้มวิ่งขึ้นตามสภาพคล่องและบรรยากาศลงทุนที่ดี แนะ "ยูโอบี สมาร์ท ไชน่า อินเดีย" เป็นโอกาสที่น่าสนใจ

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ไทย) จำกัด รายงานภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกว่า ตราสารทุนทั่วโลกที่ได้ดีดตัวขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2012 จากที่ปรับลดลงในปี 2011 มีปัจจัยสำคัญจากการช่วยเหลือสภาพคล่องต่อธนาคารยุโรปโดยธนาคารกลางยุโรป (ECB) ภายใต้ Long-Term Refinancing Operation (LTRO) ซึ่งทำให้เกิดสภาพคล่องเพิ่มขึ้นมาถึง 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯยูโรไปจนถึง 3 ปีข้างหน้า และลดความตึงตัวในตลาดเงิน พันธบัตร รวมไปถึงตลาดหุ้นทั่วทั้งทวีป นอกจากนั้นแล้วข้อมูลชี้วัดเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐยังเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นด้วย การรับความเสี่ยงของนักลงทุนจึงสูงขึ้น

ขณะที่ภาวะการเพิ่มความเสี่ยงการลงทุนที่เกิดขึ้นทำให้ตลาดหุ้นเอเชียซึ่งแปรผันไปกับกระแสการไหลของเงินลงทุนได้รับอานิสงส์ โดยตลาดที่มีผลตอบแทนอยู่ในกลุ่มแย่ที่สุดในภูมิภาคในปี 2011 ได้แก่ อินเดีย (-20%) และ จีน (-26%) กลับเป็นตลาดกลุ่มดีที่สุด อินเดีย (+15%) และ จีน (+14%) โดยวัดที่ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึง 16 มีนาคม 2012 ซึ่งนอกจากจะได้รับผลดีจากปัจจัยภายนอกแล้ว ทั้งสองตลาดยังได้รับปัจจัยภายในประเทศจากการที่ทั้งสองประเทศมีการชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อ ที่ทำให้ธนาคารกลางของทั้งสองประเทศเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยเงินเฟ้อวัดจากดัชนีราคาผู้บริโภคของจีน (CPI) ในเดือนกุมภาพันธ์ ชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 3.2% ซึ่งเป็นการชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องและเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 20 เดือน โดยตัวเลขเงินเฟ้อที่ผ่อนคลายเปิดโอกาสให้ธนาคารกลางจีนทยอยปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) และเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน ในขณะที่อัตราการขยายตัวเงินเฟ้อ WPI ของอินเดียในเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 6.95% และยังคงมีทิศทางชะลอลงจากปี 2011 และ ธนาคารกลางของอินเดียได้ลดสัดส่วนการกันสำรองเงินสด (CRR) ลงเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยตลาดคาดว่าทั้งสองประเทศจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้

ทั้งนี้ตลาดค่อนข้างเพิกเฉยกับตัวเลขเศรษฐกิจในระยะหลังของทั้งสองประเทศซึ่งมีทิศทางการชะลอตัวในหลายภาคส่วนที่สำคัญ โดยในบางเดือนทั้งสองประเทศมีกิจกรรมการผลิตที่หดตัวลงวัดจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ที่ต่ำกว่า 50 และล่าสุดที่จีนลดเป้าการเติบโตเศรษฐกิจจีนเหลือ 7.5 % ในปี 2012 ซึ่งอยู่ต่ำกว่าเป้าหมาย 8% ที่ใช้กันมานาน โดยสำนักวิเคราะห์บางแห่งทำรายงานออกมาโดยให้ความเห็นว่าเศรษฐกิจของจีนจะดิ่งลงอย่างรุนแรง (hard landing) ในปี 2012 ก็มีผลทำให้ตลาดปรับลดลงไปเล็กน้อย แต่ก็สามารถดีดกลับขึ้นมาได้ภายหลัง ในขณะที่ตลาดหุ้นอินเดียมีทิศทางปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องติดต่อกันหลายสัปดาห์เมื่อเข้าสู่ปี 2012

ขณะเดียวกันที่ระดับราคาปัจจุบันตลาดหุ้นจีนมีระดับ P/E อยู่ที่ 9.4x ซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับเฉลี่ยในอดีตที่ 12x ในขณะที่ตลาดหุ้นอินเดียมี P/E 13.5x ซึ่งอยู่ต่ำกว่าระดับเฉลี่ยในอดีตที่ 15x จึงยังมีโอกาสที่ตลาดหุ้นจะปรับขึ้นได้อีกหากระดับสภาพคล่องในตลาดโลกและบรรยากาศการลงทุนยังดีต่อไป โดยปัจจัยภายในที่สำคัญในประเทศจีนได้แก่ทิศทางนโยบายการเงินและการคุมเข้มภาคอสังหาฯ ในขณะที่ความเสี่ยงของอินเดียผูกอยู่กับราคาน้ำมันซึ่งหากสูงขึ้นมากจะทำให้ระดับเงินเฟ้อเร่งตัวอีก การไหลออกของเงินทุนที่จะส่งผลให้สภาพคล่องตึงตัว

บลจ.ยูโอบี มองว่า จากภาวะตลาดดังกล่าว ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลในการลงทุนใน จีน และ อินเดีย หากนักลงทุนสนใจลงทุนในตลาดดังกล่าว กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท ไชน่า อินเดีย เป็นทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจ เพราะมีนโยบายลงทุนใน 2 ตลาดนี้ กองทุนนี้จะเน้นลงทุนใน กองทุน United China India Fund (กองทุนหลัก) ซึ่งมีนโยบายการลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศ จีน และ ประเทศอินเดีย หรือ บริษัทที่มีที่มาของรายได้หรือกำไร หรือมีผลประโยชน์ทางธุรกิจในประเทศดังกล่าว

โดยกลยุทธ์การลงทุนในปัจจุบันที่พิจารณาปัจจัยการลงทุนในแต่ละประเทศได้แก่ การคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัท ดัชนีชี้วัดภาวะทางเศรษฐกิจ และ ระดับราคาและการคาดการณ์ผลตอบแทนได้ให้น้ำหนักการลงทุนในหลักทรัพย์ทั้งสองประเทศใกล้เคียงกัน โดยมีการให้น้ำหนักการลงทุนสูงกว่าเกณฑ์ในหลักทรัพย์ที่อยู่ในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภค ในขณะที่พิจารณาลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง โดยหลักทรัพย์ที่มีน้ำหนักการลงทุนสูงที่สุด 5 อันดับแรกได้แก่ Infosys Ltd (เทคโนโลยีสาระสนเทศ ของอินเดีย) China Construction Bank - H (ธนาคารจีน) Industrial & Commercial Bank of China - H (ธนาคารจีน) CNOOC Ltd (สำรวจและผลิตน้ำมันและก๊าซของจีน) China Mobile Ltd (บริการโทรคมนาคมของจีน) HDFC Bank Ltd (ธนาคารอินเดีย)
กำลังโหลดความคิดเห็น