บลจ.กรุงศรี ตั้งเป้า AUM ปีนี้ โต 20% แนะลงทุนถือกองทุนหุ้นยาว คาด ปีนี้ดัชนีหุ้นไทย อาจวิ่งถึง 1300 จุด จากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบี่ายนที่ดี และเงินต่างชาติไหลเข้า
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี จำกัด กล่าวว่า อุตสาหกรรมกองทุนในปัจจุบันมีขนาดอยู่ที่ 3 ล้านล้านบาท รวมในปีที่ผ่านมาเติบโตขึ้นทั้งจากเงินลงทุนที่เข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นและจากผลการดำเนินงานที่ดี โดยกองทุนตราสารหนี้ สิ้นปีที่ปีผ่านมามีขนาดอยู่ที่ 1.2 ล้านล้านบาท เฉลี่ยโตขึ้น8% ขณะที่กองทุนหุ้นสิ้นที่ผ่านมาโตขึ้น 15% อยู่ที่ 144,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตขึ้นขึ้นจากเงินลงทุนที่เข้าใหม่ กองทุนRMF เติบโต 32% ขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาจากเงินลงทุนที่เข้ามาใหม่ และกองทุนLTF โตขึ้น 32% ในช่วง5ปีที่ผ่านมา ทั้งจากผลตอบแทนและจากเงินลงทุนที่เข้ามาใหม่
ด้านกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ สิ้นปีที่ผ่านมามีขนาดอยู่ที่ 3 แสนล้านบาท และกองทุนอสังหาริมทรัพย์เติบโตขึ้น 16% ในช่วง5ปีที่ผ่านมา โดยเติบโตจากมูลค่าที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ การลงทุนในหุ้นนั้นในระยะยาวแล้วจะเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน ดังนั้นการลงทุนในหุ้นควรลงทุนยาวเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่สูง โดยจะเห็นได้ว่า คนที่ออมเงินใช้ประโยชน์จากการลงทุนในกองทุนรวมยังไม่เต็มที่ โดยส่วนใหญ่จะชอบลงทุนในตราสารหนี้ซึ่งให้ผลตอบแทนที่สู้เงินเฟ้อไมได้ และอยากให้ลงทุนอย่างมีเป้าหมาย
นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน กล่าวว่า มูลค่าทรัพย์สินภายใต้การจัดการของ บลจ.กรุงศรีในปีที่ผ่านมาเติบโตขึ้น 17% อยู่ที่ 106,000 ล้านบาท และตั้งเป้าในปีนี้จะเติบโต 20% โดยเป็นการเติบโตจากตราสารหนี้ และกองทุนหุ้นซึ่งที่ผ่านมากองทุนหุ้นได้ให้ผลตอบแทนที่ดี
ขณะเดียวกัน บลจ.ยังได้รับรางวัลกองทุนรวมยอดเยี่ยมจาก มอนิ่งสตาร์ ได้แก่กองทุนหุ้น 2 กองทุนและกองทุนรวมหุ้นระยะยาว 1 กองทุน
โดยกองทุน KFSDIV และ กองทุน KFDYNAMIC ที่ได้รับรางวัลนั้น มาจากนโยบายการลงทุนที่เน้นสร้างผลตอบแทน ไม่ได้ใช้ผลตอบแทนไปอิงไปตามดัชนี ส่วนบริษัทที่จะเข้าไปลงทุนนั้นจะเลือกบริษัทขนาดใหญ่ที่มีอัตราการเติบโตสูง มีเงินมากและจ่ายปันผลสูง
ส่วนทิศทางของการลงทุนในปีนี้ มองว่าดัชนีตลาดหุ้นจะอยู่ที่ระดับ 900 - 1200 จุดซึ่งจากการที่นักลงทุนมีการขายทำกำไรออกไปมากส่งผลให้กองทุนรวมไม่โต และอาจจะวิ่งไปถึงระดับ 1300 จุดได้จากปัจจัย ที่บริษัทจัดทะเบียนมีผลประกอบการที่ดีมาก ขณะที่เงินลงทุนจากต่างประเทศตั้งต้นปีไหลเข้าไทย 1898 ล้านเหรียญ และในปีนี้จะยังไหลเข้าในเอเชียอีกมาก ขณะเดียวกันทาง บลจ.กรุงศรีคาดว่า เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ระดับ 5.6%
"ตลาดหุ้นไทยในปีนี้จะปรับตัวขึ้นเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันและเศราฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงที่มีการเติบโตได้ดี ขณะเดียวกันการลงทุนจะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตไปได้อีก 2 ปี"นายประภาส กล่าว