บลจ.กรุงไทย ชูเงินฝากทั้งในและนอกประเทศผสมการลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ให้ผลตอบแทนดีกว่าลงทุนเพียงตราสารหนี้เพียงอย่างเดียว ล่าสุดเตรียมขายหน่วยลงทุนเพิ่ม 2 กองทุนพร้อมโรโอเวอร์กองทุนตาสารหนี้ระยะสั้นอีก 1 กองทุนเอาใจนักลงทุน
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดตราสารหนี้ของไทยยังคงมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา (Bear Steepening) จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน เพื่อปรับพอร์ตการลงทุนไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น ประกอบกับ การคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะคงตัวอยู่ที่ระดับ 3.00% ต่อปี ไปจนถึงครึ่งหลังของปี 2555 ทำให้การลงทุนในตราสารอายุที่ยาวขึ้นเริ่มน่าสนใจเมื่อพิจารณาจากส่วนต่างอัตราผลตอบแทนเทียบกับตราสารระยะสั้น
ในส่วนของผลตอบแทนของเงินฝากและตราสารการเงินระยะสั้นของสถาบันการเงินไทย ยังมีการทยอยปรับลดลงหลังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ส่วนหนึ่งเกิดจากการรับรู้ต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้น หลังจากรัฐบาลมีนโยบายจะให้สถาบันการเงินต้องนำส่งเงินสมทบแก่กองทุนฟื้นฟูสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น และมีแนวโน้มว่าธนาคารพาณิชย์จะหันมาออกตราสารประเภทหุ้นกู้ระยะสั้นเพิ่มขึ้น ทดแทนการออกตั๋วแลกเงินซึ่งมีข้อจำกัด
สำหรับแนวโน้มผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา ยังมีการปรับลดลงจากกระแสเงินทุนไหลเข้าลงทุนในตราสารหนี้ในภูมิภาคเอเชีย และตลาดเกิดใหม่ต่างๆ ทั่วโลก ทำให้อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ลดลง รวมถึงการกลับมาแข็งค่าของเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ทำให้ดอลล่าร์พรีเมี่ยมมีโอกาสปรับลดลง อย่างไรก็ตาม โดยภาพรวม อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ต่างประเทศยังให้ผลตอบแทนในรูปสกุลเงินบาทภายหลังการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับการลงทุนในประเทศ
นายสมชัย กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้บริษัทบริษัทเปิดจำหน่าย 3 กงอทุนตราสารหนี้ เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกลงทุนตามความเหมาะสม ซึ่งประกอบไปด้วยกองทุนที่มีอายุโครงการ 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ กองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 30 ( KTSUPB30) เสนอขายวันที่ 14 - 20 มีนาคม 2555 อายุ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่ลงทุนตราสารในประเทศ ประกอบด้วย เงินฝาก ตั๋วแลกเงินบริษัทเอกชนไทยในสัดส่วน 23% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ ประกอบด้วย เงินฝากประจำ Union National Bank (UNB ) เงินฝากประจำ Abu Dhabi Commercial Bank ( ADCB ) MTN ของ Banco itau BBA S.A. ( ITAUBBA ) MTN ของ Banco itau BBA S.A ( ITAUBBA ) MTN ของ Banco Do Brasil ( BANBRA ) ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.35% ต่อปี
สำหรับกองทุนเปิดกรุงไทยเอฟไอเอฟ เพิ่มค่า 2 ( KTFP2 ) สนอขาย 9 - 16 มีนาคม 2555 อายุ 12 เดือน มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เงินฝากประจำ Abu Dhabi Commercial Bank (ADCB ) , งินฝากประจำ Union Nation Bank ( UNB ) , เงินฝากประจำ Bank of China (BOC ) , MTN ของ Banco itau BBA S.A. ( ITAUBBA ) , MTN ของ Barclays Bank และ CLN ออกโดย Deutche Bank AG (DB ) ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 4.00% ต่อปีทั้งนี้ กองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ จะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
และกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 3 เดือน 3 ( KTSIV3M3 )เสนอขายรอบใหม่ ( Roll Over ) 12 -16 มีนาคม 2555 อายุโครงการ 3 เดือน เป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน เงินฝาก และ ตราสารหนี้สถาบันการเงินในประเทศ ซึ่งประกอบด้วยพันธบัตรภาครัฐในประเทศ ธนาคารเกียรตินาคิน ธนาคารไอซีบีซี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงไทย และตั๋วแลกเงินของภาคเอกชน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ2.90% ต่อปี