xs
xsm
sm
md
lg

เงินต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่อง INGปลื้มกองตราสารหนี้เอเชียโต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จุมพล สายมาลา
บลจ.ไอเอ็นจี ปลื้มนักลงทุนเฮลงทุน “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอเชี่ยน เดบท์ รีจินอล บอนด์ ปันผล” เพิ่มขึ้นส่งผลให้บลจ.ต้องเพิ่มทุนจาก 3 พันล้านบาท เป็น 5 พันล้านบาท ชี้ปัจจัยบวกมาจากเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติยังไหลเข้าลงทุนในตราสารหนี้เอเชียต่อเนื่อง จากปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจแข็งแกร่ง

นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้ออกและเสนอขาย “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอเชี่ยน เดบท์ รีจินอล บอนด์ ปันผล” ซึ่งมีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน ING (L) Renta Fund Asian Debt (Local Bond) ที่มีนโยบายกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ ตราสารตลาดเงิน และเงินฝาก ในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ อินเดีย ฮ่องกง และจีน ให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ และได้เปิดให้ผู้สนใจได้ลงทุนตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่า กองทุนดังกล่าวได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก ส่งผลให้มูลค่ากองทุนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยล่าสุดกองทุนได้ดำเนินการเพิ่มทุนจาก 3 พันล้านบาทเป็น 5 พันล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา

สำหรับปัจจัยสนับสนุนให้กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอเชี่ยน เดบท์ รีจินอล บอนด์ ปันผล ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมากนั้น มาจากพื้นฐานเศรษฐกิจเอเชียที่แข็งแกร่ง โดยเชื่อว่า มาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดมีทิศทางลดลง เป็นผลให้ตราสารที่ลงทุน ซึ่งโดยรวมแล้วเป็นตราสารที่มีอายุปานกลางและระยะยาวมีโอกาสได้รับกำไรจากราคาตราสารที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ ล่าสุดธนาคารกลางฟิลิปปินส์ได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 25% จากเดิม 6.25% มาอยู่ที่ 6.00% นอกจากนี้ การปรับอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้เอเชียยังคงมีทิศทางที่ดีขึ้น เช่นเดียวกับอัตราดอกเบี้ยตราสารหนี้ภูมิภาคเอเชียที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยของประเทศกลุ่มพัฒนาแล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ภูมิภาคเอเชียมีปริมาณการลงทุนและการบริโภคภายในประเทศที่สูง เช่นเดียวกับการระดมทุนเพื่อขยายกิจการ ดังนั้น ผู้ออกตราสารในประเทศจึงออกตราสารที่ให้ผลตอบแทน นั่นคือ ดอกเบี้ยรับที่สูงเพื่อดึงดูดนักลงทุน

“บลจ.ไอเอ็นจี ยังคงมองว่าภูมิภาคเอเชียยังคงเป็นภูมิภาคที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดีในปีนี้ ทั้งการลงทุนในตราสารหนี้ภูมิภาคเอเชีย เช่น กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เอเชี่ยน เดบท์ รีจินอล บอนด์ ปันผล หรือการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เช่น กองทุนเปิดไอเอ็นจีไทยอีควิตี้ฟันด์ และกองทุนเปิดไอเอ็นจีไทยบาลานซ์ฟันด์ ซึ่งเป็นกองทุนผสมทั้งตราสารหนี้และหุ้น ด้วยการบริหารการลงทุนในแบบ Active Management โดยผู้จัดการกองทุนในลักษณะการวิเคราะห์และคาดการณ์ภาวะตลาดในอนาคตและการจับจังหวะการลงทุนที่เหมาะสมนั้น ทำให้เราเชื่อมั่นว่าทั้งสามกองทุนนี้จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะการลงทุนในปีต่อเนื่องถึงปีหน้า” นายจุมพลกล่าว 
กำลังโหลดความคิดเห็น