ASTVผู้จัดการรายวัน - สำนักงาน ก.ล.ต. ได้ข้อสรุปใหม่ร่วมกัน ใช้ราคาสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของ Gold ETF มาใช้คำนวณ NAV ในกรณีราคาในตลาดต่างประเทศผิดปกติ หวังแก้ปัญหาคำนวน NAV กองทุนอีทีเอฟทองต่างประเทศ ด้านตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ รับเรื่อง พร้อมวางหมากแก้ไขแล้ว
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ราคาปิดของกองทุนรวมทองคำ ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Gold ETF) มีความผิดปกติเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2554 ส่งผลกระทบต่อการคำนวณ มูลค่าหน่วยลงทุน หรือ NAV ของกองทุนรวมทองคำในไทย ซึ่งแม้ว่าประกาศสมาคมบริษัทจัดการลงทุนในปัจจุบันจะเปิดช่องให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) สามารถใช้ดุลยพินิจร่วมกับผู้ดูแลผลประโยชน์ในการกำหนดราคาที่เหมาะสมได้ แต่ไม่มี บลจ. ใดใช้ช่องทางดังกล่าว เพราะไม่แน่ใจว่า ราคาใดจะเหมาะสม
ทั้งนี้ จากปัญหาดังกล่าว สำนักงาน ก.ล.ต. จึงได้หารือกับสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (สมาคมบลจ.) และได้ข้อสรุปว่า กรณีที่เห็นว่าราคาปิดผิดปกติ บลจ. จะใช้ราคาที่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของ Gold ETF เช่น Indicative NAV ของ Gold ETF ซึ่งคำนวณจากราคาทองคำในตลาดซื้อขายทองคำ มาใช้ในการคำนวณ NAV ของกองทุนไทย ส่วนในกรณีที่ราคาปิดเป็นปกติ บลจ. ยังคงใช้ราคาปิดของ Gold ETF มาคำนวณ NAV ของกองทุนไทยตามปกติเช่นเดิม
นอกจากนี้ ก.ล.ต.ได้หารือร่วมกับเจ้าหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (Singapore Exchange: SGX) ซึ่ง SGX มองว่าเหตุที่ราคาปิดผิดปกติ อาจเกิดจากสภาพคล่องในวันดังกล่าว มีค่อนข้างน้อย ทั้งนี้ SGX ได้ให้ความสำคัญกับกรณีดังกล่าว โดยได้ดำเนินการตรวจสอบและได้วางมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาแล้ว โดยกำหนดให้ market maker เข้ามาทำหน้าที่ในช่วงก่อนปิดตลาด (call market) ซึ่งจะช่วยให้ราคาปิดเป็นปกติยิ่งขึ้น
นายวรพลกล่าวเพิ่มเติมว่า ก.ล.ต. และสมาคมบริษัทจัดการลงทุนได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและหาแนวทางที่เหมาะสมในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวทางการคุ้มครองผู้ลงทุน ซึ่งในเรื่องนี้เมื่อ ก.ล.ต. ทราบเรื่องก็รีบดำเนินการและติดต่อประสานงานไปทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ ข้อสรุปที่ได้ร่วมกับสมาคมในครั้งนี้ถือเป็นการดำเนินการที่มีผู้ลงทุนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้ตลาดทุนของเราดำรงอยู่และก้าวหน้าต่อไปได้
ด้านนางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า ที่ผ่านมา บลจ. ได้ใช้ราคาปิดตามที่มาตรฐานบัญชีและประกาศสมาคมกำหนด แต่การมาหารือในครั้งนี้ ก็เพื่อให้ บลจ. มีทางออกในการกำหนดราคาที่เป็นธรรมกับผู้ถือหน่วยลงทุนทุกรายและทำให้การคำนวณ NAV สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงมากยิ่งขึ้น ซึ่งสมาชิกสมาคมเห็นด้วยกับ ก.ล.ต. ในการกำหนดราคาตามแนวทางดังกล่าว
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ราคาปิดของกองทุนรวมทองคำ ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Gold ETF) มีความผิดปกติเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2554 ส่งผลกระทบต่อการคำนวณ มูลค่าหน่วยลงทุน หรือ NAV ของกองทุนรวมทองคำในไทย ซึ่งแม้ว่าประกาศสมาคมบริษัทจัดการลงทุนในปัจจุบันจะเปิดช่องให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) สามารถใช้ดุลยพินิจร่วมกับผู้ดูแลผลประโยชน์ในการกำหนดราคาที่เหมาะสมได้ แต่ไม่มี บลจ. ใดใช้ช่องทางดังกล่าว เพราะไม่แน่ใจว่า ราคาใดจะเหมาะสม
ทั้งนี้ จากปัญหาดังกล่าว สำนักงาน ก.ล.ต. จึงได้หารือกับสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (สมาคมบลจ.) และได้ข้อสรุปว่า กรณีที่เห็นว่าราคาปิดผิดปกติ บลจ. จะใช้ราคาที่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของ Gold ETF เช่น Indicative NAV ของ Gold ETF ซึ่งคำนวณจากราคาทองคำในตลาดซื้อขายทองคำ มาใช้ในการคำนวณ NAV ของกองทุนไทย ส่วนในกรณีที่ราคาปิดเป็นปกติ บลจ. ยังคงใช้ราคาปิดของ Gold ETF มาคำนวณ NAV ของกองทุนไทยตามปกติเช่นเดิม
นอกจากนี้ ก.ล.ต.ได้หารือร่วมกับเจ้าหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (Singapore Exchange: SGX) ซึ่ง SGX มองว่าเหตุที่ราคาปิดผิดปกติ อาจเกิดจากสภาพคล่องในวันดังกล่าว มีค่อนข้างน้อย ทั้งนี้ SGX ได้ให้ความสำคัญกับกรณีดังกล่าว โดยได้ดำเนินการตรวจสอบและได้วางมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาแล้ว โดยกำหนดให้ market maker เข้ามาทำหน้าที่ในช่วงก่อนปิดตลาด (call market) ซึ่งจะช่วยให้ราคาปิดเป็นปกติยิ่งขึ้น
นายวรพลกล่าวเพิ่มเติมว่า ก.ล.ต. และสมาคมบริษัทจัดการลงทุนได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและหาแนวทางที่เหมาะสมในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวทางการคุ้มครองผู้ลงทุน ซึ่งในเรื่องนี้เมื่อ ก.ล.ต. ทราบเรื่องก็รีบดำเนินการและติดต่อประสานงานไปทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ ข้อสรุปที่ได้ร่วมกับสมาคมในครั้งนี้ถือเป็นการดำเนินการที่มีผู้ลงทุนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้ตลาดทุนของเราดำรงอยู่และก้าวหน้าต่อไปได้
ด้านนางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า ที่ผ่านมา บลจ. ได้ใช้ราคาปิดตามที่มาตรฐานบัญชีและประกาศสมาคมกำหนด แต่การมาหารือในครั้งนี้ ก็เพื่อให้ บลจ. มีทางออกในการกำหนดราคาที่เป็นธรรมกับผู้ถือหน่วยลงทุนทุกรายและทำให้การคำนวณ NAV สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงมากยิ่งขึ้น ซึ่งสมาชิกสมาคมเห็นด้วยกับ ก.ล.ต. ในการกำหนดราคาตามแนวทางดังกล่าว