xs
xsm
sm
md
lg

กองทุนรวมโตแล้ว9.2พันล้าน กสิกรชี้บอนด์ขายดี-จ่อ2กองดึงเงิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.กสิกรไทยโชว์ผลงานประเดิมปีมังกร กองทุนรวมโตเพิ่มกว่า 9.2 พันล้านหรือ 1.75% ระบุภาพรวมทั้งอุตสาหกรรม กองตราสารหนี้ขายดีสุดแม้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง ล่าสุดเตรียมเปิดขายเพิ่มอีก 2 กองพร้อมกันสัปดาห์นี้ ชูผลตอบแทนสูงสุด 3% ต่อปี

นายอำพล โพธิ์โลหะกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมากองทุนรวมของบริษัทมีการเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรม โดย ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2555 กองทุนรวมของ บริษัทมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นประมาณ 9,279 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 1.75% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา(2554) ในขณะที่ทั้งอุตสาหกรรมกองทุนรวมมีอัตราการเติบโตที่ประมาณ 1.24% เท่านั้น

ทั้งนี้ ภาพรวมของอุตสาหกรรมกองทุนรวมตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา การเติบโตของทั้งอุตสาหกรรมกองทุนรวมตั้งแต่ต้นปีเป็นผลมาจากการเติบโตของกลุ่มกองทุนตราสารหนี้เป็นหลัก ส่วนปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเติมส่วนหนึ่งมาจากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ และอีกด้านหนึ่งจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทั้งที่เป็นกองทุนใหม่และกองทุนที่ได้ประโยชน์จากราคาประเมินที่ปรับตัวสูงขึ้น

"ของกสิกรที่โตถึง 9,279 ล้านบาทนั้นจะมาจากเม็ดเงินใหม่ที่ไหลเข้ามายังกองทุนตราสารหนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มกองทุนตราสารหนี้แบบกำหนดอายุโครงการ หรือ กองทุน Term Fund ที่เราเปิดขายกองทุนใหม่ๆ เป็นประจำทุกสัปดาห์ ซึ่งแต่ละกองทุนล้วนได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนที่ยังคงให้ความไว้วางใจบริษัท และต้องการทางเลือกที่ให้โอกาสรับผลตอบแทนน่าสนใจในช่วงดอกเบี้ยขาลง”นายอำพลกล่าว

นายอำพล กล่าวอีกว่า ในปีนี้นับ เป็นความท้าทายสำหรับทีมผู้จัดการกองทุนของ บลจ. กสิกรไทย ในการแสวงหาตราสารหนี้คุณภาพดีทั้งในประเทศและต่างประเทศ เข้ามาผสมผสานในพอร์ตการลงทุนเพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจให้แก่ผู้ลงทุน โดยบริษัทยังคงมุ่งตอบโจทย์ของผู้ลงทุนอย่างครอบคลุมทั้งการลงทุนระยะสั้นและระยะยาว เพื่อสร้างความมั่งคั่งควบคู่กับความมั่นคงทางเงินในอนาคต

โดยในสัปดาห์นี้บริษัทยังจะทำการเสนอขายกองทุนตราสารหนี้อีกอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 6 เดือน เอแอล (KFI6AL) ประมาณการณ์อัตราผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.00% ต่อปี โดยกองทุนดังกล่าวจะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย ควบคู่กับตราสารหนี้ State Bank of India ประเทศอินเดีย ตราสารหนี้ระยะสั้น ICBC (Asis) สาขาฮ่องกง เงินฝาก ICICI Bank ประเทศอินเดีย และเงินฝาก Bank of China สาขาฮ่องกง พร้อมนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

นอกจากนี้ยังจะทำการเสนอขายกองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน แซท (KPPTF3MZ) ซึ่งมุ่งลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย ซึ่งคาดว่าจะให้โอกาสรับผลตอบแทนประมาณ 2.70% ต่อปี ทั้งนี้ ผลตอบแทนจากทั้ง 2 กองทุนสำหรับผู้ลงทุนรายย่อยไม่ต้องเสียภาษี ณ ที่จ่าย 15%
กำลังโหลดความคิดเห็น