บริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จับ 3 โครงการใจกลางเมืองคือ โครงการเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ เซนเตอร์ พอยต์ สุขุมวิท-ทองหล่อ โครงการอาคารพักอาศัยให้เช่า เซนเตอร์ พอยต์ เรซิเดนซ์ พร้อมพงษ์ และโครงการบ้านพักอาศัยให้เช่า แอล แอนด์ เอช วิลล่า สาทร ตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท มั่นใจจุดเด่นโครงการอยู่ที่ศักยภาพด้านทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ในย่านธุรกิจ มีอัตราการเข้าพักอาศัยเฉลี่ยทั้งปี 2554 อยู่ในระดับที่สูงต่อเนื่องโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ
นายอดิศร ธนนันท์นราพูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างกระบวนการในการจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เพื่อลงทุนในสินทรัพย์ 3 โครงการประกอบด้วย โครงการเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ เซนเตอร์ พอยต์ สุขุมวิท-ทองหล่อ โครงการอาคารพักอาศัยให้เช่า เซนเตอร์ พอยต์ เรซิเดนซ์ พร้อมพงษ์ และโครงการบ้านพักอาศัยให้เช่า แอล แอนด์ เอช วิลล่า สาทร รวมมูลค่าโครงการกว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งถือเป็นโครงการที่มีศักยภาพสูง เนื่องจากทั้ง 3 โครงการอยู่ในทำเลใจกลางเมืองโดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายซึ่งเป็นชาวต่างชาติ
สำหรับโครงการเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ เซนเตอร์ พอยต์ สุขุมวิท-ทองหล่อ ตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) มีจำนวน 156 ห้อง แบ่งเป็นห้องแบบสตูดิโอ แบบหนึ่งห้องนอน และแบบสองห้องนอน โครงการนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงจากกลุ่มลูกค้าชาวเอเชีย โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่ทำงานในประเทศไทย ซึ่งจุดเด่นของโครงการนั้น นอกจากจะอยู่ในย่านที่เดินทางได้อย่างสะดวก สู่ใจกลางเมือง เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ทองหล่อแล้ว ยังแวดล้อมด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย
ส่วน โครงการอาคารพักอาศัยให้เช่า เซนเตอร์ พอยต์ เรซิเดนซ์ พร้อมพงษ์ ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 (ซอยพร้อมพงษ์) มีจำนวน 76 ห้อง มีรูปแบบให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ขนาด 3 ห้องนอน 4 ห้องนอน จนถึงระดับเพนท์เฮาส์ ขณะที่สถานที่ตั้งมีความสะดวกสบายอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส พร้อมพงษ์ ทั้งนี้ โครงการมีอัตราการเข้าพักอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง
ขณะที่โครงการบ้านพักอาศัยให้เช่า แอล แอนด์ เอช วิลล่า สาทร (LH วิลล่า สาทร)เป็นโครงการบ้านพักอาศัยให้เช่าจำนวน 37 หลัง บนเนื้อที่ประมาณ 11 ไร่ตั้งอยู่บนถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ใกล้ BRT สถานีถนนจันทน์ โดยโครงการมีความโดดเด่นแตกต่างจากโครงการอื่นๆ เนื่องจากเป็นโครงการบ้านเดี่ยวให้เช่าระดับพรีเมี่ยมในย่านธุรกิจใจกลางเมือง
นายอดิศร กล่าวต่อว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมที่พักอาศัยของชาวต่างชาติในกรุงเทพฯ ยังมีโอกาสในการเติบโตอีกมาก เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณที่อยู่อาศัยสำหรับชาวต่างประเทศในเขตใจกลางเมืองของกรุงเทพฯ จะชะลอตัวลงเนื่องจากจากการที่เนื้อที่ใจกลางเมืองที่มีจำกัดและราคาที่ดินที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น สวนทางกับความต้องการที่อยู่อาศัยที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีปัจจัยต่าง ๆ สนับสนุนเช่น สถานการณ์ทางการเมืองที่คลี่คลาย การขยายตัวของเศรษฐกิจไทย รวมถึงนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ตลอดจนแผนการรองรับแผนประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2558 ซึ่งจะทำให้มีชาวต่างชาติเข้ามาทำงานในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นด้วย
“โครงการทั้ง 3 ที่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จะเข้าไปลงทุน ล้วนมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตของผู้พักอาศัย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ทำให้โครงการมีอัตราการเข้าพักอาศัยอยู่ในระดับสูงและมีโอกาสรักษาความสามารถในการเติบโตไว้ได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งลูกค้าเป้าหมายยังเป็นลูกค้าชาวต่างชาติโดยจะเน้นชาวเอเชียมากขึ้น เพราะเป็นภูมิภาคที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง”