ASTVผู้จัดการรายวัน-สยามซังซุง ประชีวิตกันชีวิต เล็งเพิ่มทุนครั้งใหญ่หลังเห็นสัญญาณธุรกิจโต แต่ยืนยันถือครองหุ้นตามสัดส่วนเดิมก่อน พร้อมตั้งเป้าเบี้ยรับรวมปีนี้ 1,653 ล้านบาทโต 52% และเพิ่มจำนวนตัวแทนอีก 416 คนต่อเดือน
นายซี โดนอลด์ คาร์ดีน กรรมการผู้จัดการและประธานบริหาร บริษัท สยามซังซุง ประชีวิตกันชีวิตจำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มทุนภายในปีนี้จากทุนจดทะเบียนที่มีอยู่ที่ 500 ล้านบาท เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจให้เติบโตตามแผนที่วางไว้ แต่แผนเพิ่มทุนดังกล่าวยังอยู่ระหว่างขั้นตอนสรุปเม็ดเงินเพิ่มทุนระหว่างบริษัทกับผู้ถือหุ้นหลักทั้งในส่วนของบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) หรือ SAHAPAT และธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการเพิ่มทุนจะเกิดขึ้นภายในปีนี้อย่างแน่นอน เพราะแผนการขยายธุรกิจขอวงบริษัทในปีนี้ จำเป็นต้องมีเม็ดเงินจำนวนมากพอสมควรในการเข้ามาช่วยสนับสนุนการเติบโตดังกล่าว ส่วนแนวทางการเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นของบริษัทจากเดิมที่มีอยู่ในขณะนี้ประมาณ 37.5% นั้น บริษัท ยืนยันว่าแม้จะมีแผนที่จะเพิ่มทุนในธุรกิจแต่บริษัทก็ไม่มีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นเพิ่มขึ้นจากเดิม โดยบริษัทยังคงถืออยู่ที่ 37.5% บริษัทสหพัฒน์ฯ ประมาณ 37.5% และธนาคารธนชาตประมาณ 25% เช่นเดิม
สำหรับในปีนี้ บริษัทเชื่อว่าการดำเนินงานจะเติบโตอย่างดี เนื่องจากบริษัทมีบุคลากรที่มีความสามารถเข้ามาร่วมงานมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะผลักดันช่องทางตัวแทนให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้บริษัทมีตัวแทนประกันชีวิตทั้งสิ้น 3,173 คน ทั้งนี้ บริษัทมีเป้าหมายในการเพิ่มตัวแทนดังกล่าวเป็น 7,358 คน คาดว่า สิ้นปีนี้บริษัทจะมีตัวแทนประมาณ 4,992 คน โดยเฉลี่ยบริษัทต้องสร้างตัวแทนเพิ่มขึ้นต่อเดือนประมาณ 416 คน
อย่างไรก็ตาม ช่องทางประกันชีวิตรายบุคคลยังคงเป็นช่องทางหลักของบริษัท ส่วนช่องทางจัดจำหน่ายอื่นๆของบริษัทจะเป็นช่องทางประกันภัย คาดว่าการเติบโตเบี้ยปีแรกอยู่ที่ 374 ล้านบาท เติบโตประมาณ 35% นอกจากนี้ยังคาดหวังที่จะยกระดับความใกล้ชิดระหว่างผู้ถือหุ้นของบริษัทด้วย
ส่วนของช่องทางจัดจำหน่ายพิเศษ ปัจจุบันมียอดขายในสัดส่วน8%ของมูลค่ากกรมธรรม์ใหม่ คาดในปีนี้ไว้ที่ 24% โดยกลุ่มหลักๆจะเป็นกลุ่มธุรกิจอื่น เช่นไปรษณีย์ไทยและโบรกเกอร์ ร่วมถึงเพิ่มช่องทาการขายผ่านโทรศัพท์
นายซี โดนอลด์ กล่าวอีกว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายเบี้ยรับรวมไว้ที่ 1,653 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นประมาณ 52% สำหรับเบี้ยประกันปีแรกในช่องทางตัวแทนตั้งเป้าหมายที่ 716 ล้านบาท สำหรับเบี้ยประกันภัยปีแรกรายปีคาดว่าน่าจะเติบโตกว่าช่วงปีที่ผ่านมาประมาณ 124%
ส่วนของผลการดำเนินงานในช่วงปี 2554 บริษัทมียอดเบี้ยประกันภัยประมาณ 1,086 ล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณ 25% เติบโตในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับช่วงปี 2553 และเติบโตกว่าอุตสาหกรรมเฉลี่ย 15% ส่วนช่องทางทางการตลาดที่ช่วยผลักดันให้เบี้ยรับรวมของบริษัทเติบโตดี แบ่งเป็น ช่องทางตัวแทนมีการเติบโตเพิ่มขึ้นจาก 215 ล้านบาทในปี 2553 มาแตะที่ระดับ 259 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นประมาณ 20%
ในขณะที่ช่องทางการจัดจำหน่ายช่องทางการประกันภัยกลุ่มมียอดขายจาก 278 ล้านบาทในปีนี้ก็ยังเป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่าช่วงปี2553 ที่ทำได้ประมาณ 178 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นประมาณ 56% ส่วนเบี้ยประกันภัยรับปีแรกโตขึ้นจากช่วงปีก่อนหน้าถึง 901 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 68% ผลประกอบการดังกล่าวถือเป็นอัตราการเติบโตที่น่าพอใจค่อนข้างมาก
นายซี โดนอลด์ คาร์ดีน กรรมการผู้จัดการและประธานบริหาร บริษัท สยามซังซุง ประชีวิตกันชีวิตจำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มทุนภายในปีนี้จากทุนจดทะเบียนที่มีอยู่ที่ 500 ล้านบาท เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจให้เติบโตตามแผนที่วางไว้ แต่แผนเพิ่มทุนดังกล่าวยังอยู่ระหว่างขั้นตอนสรุปเม็ดเงินเพิ่มทุนระหว่างบริษัทกับผู้ถือหุ้นหลักทั้งในส่วนของบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) หรือ SAHAPAT และธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการเพิ่มทุนจะเกิดขึ้นภายในปีนี้อย่างแน่นอน เพราะแผนการขยายธุรกิจขอวงบริษัทในปีนี้ จำเป็นต้องมีเม็ดเงินจำนวนมากพอสมควรในการเข้ามาช่วยสนับสนุนการเติบโตดังกล่าว ส่วนแนวทางการเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นของบริษัทจากเดิมที่มีอยู่ในขณะนี้ประมาณ 37.5% นั้น บริษัท ยืนยันว่าแม้จะมีแผนที่จะเพิ่มทุนในธุรกิจแต่บริษัทก็ไม่มีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นเพิ่มขึ้นจากเดิม โดยบริษัทยังคงถืออยู่ที่ 37.5% บริษัทสหพัฒน์ฯ ประมาณ 37.5% และธนาคารธนชาตประมาณ 25% เช่นเดิม
สำหรับในปีนี้ บริษัทเชื่อว่าการดำเนินงานจะเติบโตอย่างดี เนื่องจากบริษัทมีบุคลากรที่มีความสามารถเข้ามาร่วมงานมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะผลักดันช่องทางตัวแทนให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้บริษัทมีตัวแทนประกันชีวิตทั้งสิ้น 3,173 คน ทั้งนี้ บริษัทมีเป้าหมายในการเพิ่มตัวแทนดังกล่าวเป็น 7,358 คน คาดว่า สิ้นปีนี้บริษัทจะมีตัวแทนประมาณ 4,992 คน โดยเฉลี่ยบริษัทต้องสร้างตัวแทนเพิ่มขึ้นต่อเดือนประมาณ 416 คน
อย่างไรก็ตาม ช่องทางประกันชีวิตรายบุคคลยังคงเป็นช่องทางหลักของบริษัท ส่วนช่องทางจัดจำหน่ายอื่นๆของบริษัทจะเป็นช่องทางประกันภัย คาดว่าการเติบโตเบี้ยปีแรกอยู่ที่ 374 ล้านบาท เติบโตประมาณ 35% นอกจากนี้ยังคาดหวังที่จะยกระดับความใกล้ชิดระหว่างผู้ถือหุ้นของบริษัทด้วย
ส่วนของช่องทางจัดจำหน่ายพิเศษ ปัจจุบันมียอดขายในสัดส่วน8%ของมูลค่ากกรมธรรม์ใหม่ คาดในปีนี้ไว้ที่ 24% โดยกลุ่มหลักๆจะเป็นกลุ่มธุรกิจอื่น เช่นไปรษณีย์ไทยและโบรกเกอร์ ร่วมถึงเพิ่มช่องทาการขายผ่านโทรศัพท์
นายซี โดนอลด์ กล่าวอีกว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายเบี้ยรับรวมไว้ที่ 1,653 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นประมาณ 52% สำหรับเบี้ยประกันปีแรกในช่องทางตัวแทนตั้งเป้าหมายที่ 716 ล้านบาท สำหรับเบี้ยประกันภัยปีแรกรายปีคาดว่าน่าจะเติบโตกว่าช่วงปีที่ผ่านมาประมาณ 124%
ส่วนของผลการดำเนินงานในช่วงปี 2554 บริษัทมียอดเบี้ยประกันภัยประมาณ 1,086 ล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณ 25% เติบโตในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับช่วงปี 2553 และเติบโตกว่าอุตสาหกรรมเฉลี่ย 15% ส่วนช่องทางทางการตลาดที่ช่วยผลักดันให้เบี้ยรับรวมของบริษัทเติบโตดี แบ่งเป็น ช่องทางตัวแทนมีการเติบโตเพิ่มขึ้นจาก 215 ล้านบาทในปี 2553 มาแตะที่ระดับ 259 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นประมาณ 20%
ในขณะที่ช่องทางการจัดจำหน่ายช่องทางการประกันภัยกลุ่มมียอดขายจาก 278 ล้านบาทในปีนี้ก็ยังเป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่าช่วงปี2553 ที่ทำได้ประมาณ 178 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นประมาณ 56% ส่วนเบี้ยประกันภัยรับปีแรกโตขึ้นจากช่วงปีก่อนหน้าถึง 901 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 68% ผลประกอบการดังกล่าวถือเป็นอัตราการเติบโตที่น่าพอใจค่อนข้างมาก
