ASTVผู้จัดการรรายวัน - บลจ.กสิกรไทย ขยายเวลาซื้อและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนเข้ามายังกองทุนเปิดเค สตราทีจิคดีเฟ็นซีฟหุ้นระยะยาวปันผล ถึงสิ้นเดือนนี้ พร้อมเสนอทางเลือกหากรับความเสี่ยงได้สูง แนะโยกลงทุนกองอื่นในพอร์ต รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
นางสาวยุพาวดี ตู้จินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บลจ. กสิกรไทย จะขยายกำหนดเวลาให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนเข้ามายังกองทุนเปิดเค สตราทีจิคดีเฟ็นซีฟหุ้นระยะยาวปันผล (KSDLTF) ได้จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2555 จากเดิมที่กำหนดไว้เพียงวันที่ 13 มกราคม นี้ หลังจากได้รับการยืนยันล่าสุดในวันนี้ (11 ม.ค. 55) จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งแจ้งเลื่อนกำหนดการบังคับใช้เกณฑ์ใหม่เกี่ยวกับกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) โดยห้ามกองทุน LTF ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจนอัตราส่วนการลงทุนในหุ้นต่ำกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน จากเดิมที่จะมีผลบังคับใช้จาก 16 มกราคม 2555 ไปเป็น 1 กุมภาพันธ์ 2555
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนที่ได้ซื้อหรือสับเปลี่ยนเข้ามายังกองทุน KSDLTF ภายใน 31 มกราคม 2555 จะยังคงได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีสำหรับปีภาษี 2555 เช่นเดิม โดยสามารถถือครองหน่วยลงทุนกองทุน KSDLTF ต่อไปจนกว่าจะครบ 5 ปีปฏิทินตามเงื่อนไขทางภาษีของกรมสรรพากร แต่ทันทีที่สำนักงาน ก.ล.ต. บังคับใช้เกณฑ์ใหม่เกี่ยวกับ LTF ข้างต้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555 จะไม่สามารถซื้อเพิ่ม และไม่สามารถสับเปลี่ยนจากกองทุน LTF อื่นเข้ามายังกองทุนนี้ได้อีก ทั้งนี้ หากผู้ลงทุนสามารถรับความเสี่ยงได้สูงขึ้น ก็สามารถสับเปลี่ยนออกจากกองทุน KSDLTF ไปยังกองทุน LTF อื่นๆ ได้เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนสูงจากหุ้นได้ รวมทั้งสามารถขายคืนได้เมื่อถือหน่วยลงทุนมาครบตามเงื่อนไขทางภาษี ส่วนผู้ถือหน่วยลงทุนที่สมัครใช้บริการ K-Saving Plan (บริการลงทุนรายงวดกองทุนรวมกสิกรไทย) เพื่อลงทุนอย่างสม่ำเสมอกับกองทุน KSDLTF บลจ. กสิกรไทย จะยกเลิกการหักบัญชีเงินฝากเพื่อซื้อกองทุนดังกล่าวให้โดยอัตโนมัติ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555 เป็นต้นไป
สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการจำกัดความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นไม่ให้สูงเกินไปนัก และต้องการรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการลงทุนในกองทุน LTF หลังจากสำนักงาน ก.ล.ต.บังคับใช้เกณฑ์ใหม่ นางสาวยุพาวดีแนะนำว่ากองทุนเปิดเค 70:30 หุ้นระยะยาวปันผล (K70LTF) ยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากกองทุนดังกล่าว มีนโยบายลงทุนในหุ้นไม่เกินร้อยละ 70 ซึ่งสามารถช่วยบริหารความเสี่ยงได้เช่นกัน พร้อมนโยบายจ่ายปันผลไม่เกิน 2 ครั้งต่อปี ซึ่งนับจากจัดตั้งกองทุนในเดือน พ.ย. 2548 มีการจ่ายปันผลไปแล้วทั้งสิ้น 9 ครั้ง คิดเป็นเงิน ปันผล 2.62 บาทต่อหน่วย ที่ผ่านมากองทุนดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากผู้ลงทุนในกองทุน LTF ส่งผลให้กองทุน K70LTF มีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มกองทุน LTF ของ บลจ. กสิกรไทย โดย ณ วันที่ 6 มกราคม 2555 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนกว่า 15,000 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมกองทุน LTF-RMF ของบลจ. กสิกรไทยในปี 2554 นางสาวยุพาวดีเปิดเผยว่า แม้ในปีที่ผ่านมาจะมีปัจจัยหลายประการที่ส่งผลให้ผู้ลงทุนจะชะลอการลงทุนลงทั้งปัญหาอุทกภัยและความผันผวนทางเศรษฐกิจ แต่กองทุน LTF-RMF ของบริษัทยังคงได้รับความไว้วางใจจากผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง สะท้อนชัดในเม็ดเงินใหม่ลงทุนเข้ากองทุนกลุ่มดังกล่าว ณ สิ้นปี 2554 รวมกว่า 18,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าปี 2553 ถึง 9% ส่งผลให้ บลจ. กสิกรไทยยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า 30 % สูงสุดในกลุ่มกองทุน LTF-RMF ของอุตสาหกรรม
นางสาวยุพาวดี ตู้จินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บลจ. กสิกรไทย จะขยายกำหนดเวลาให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนเข้ามายังกองทุนเปิดเค สตราทีจิคดีเฟ็นซีฟหุ้นระยะยาวปันผล (KSDLTF) ได้จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2555 จากเดิมที่กำหนดไว้เพียงวันที่ 13 มกราคม นี้ หลังจากได้รับการยืนยันล่าสุดในวันนี้ (11 ม.ค. 55) จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งแจ้งเลื่อนกำหนดการบังคับใช้เกณฑ์ใหม่เกี่ยวกับกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) โดยห้ามกองทุน LTF ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจนอัตราส่วนการลงทุนในหุ้นต่ำกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน จากเดิมที่จะมีผลบังคับใช้จาก 16 มกราคม 2555 ไปเป็น 1 กุมภาพันธ์ 2555
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนที่ได้ซื้อหรือสับเปลี่ยนเข้ามายังกองทุน KSDLTF ภายใน 31 มกราคม 2555 จะยังคงได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีสำหรับปีภาษี 2555 เช่นเดิม โดยสามารถถือครองหน่วยลงทุนกองทุน KSDLTF ต่อไปจนกว่าจะครบ 5 ปีปฏิทินตามเงื่อนไขทางภาษีของกรมสรรพากร แต่ทันทีที่สำนักงาน ก.ล.ต. บังคับใช้เกณฑ์ใหม่เกี่ยวกับ LTF ข้างต้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555 จะไม่สามารถซื้อเพิ่ม และไม่สามารถสับเปลี่ยนจากกองทุน LTF อื่นเข้ามายังกองทุนนี้ได้อีก ทั้งนี้ หากผู้ลงทุนสามารถรับความเสี่ยงได้สูงขึ้น ก็สามารถสับเปลี่ยนออกจากกองทุน KSDLTF ไปยังกองทุน LTF อื่นๆ ได้เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนสูงจากหุ้นได้ รวมทั้งสามารถขายคืนได้เมื่อถือหน่วยลงทุนมาครบตามเงื่อนไขทางภาษี ส่วนผู้ถือหน่วยลงทุนที่สมัครใช้บริการ K-Saving Plan (บริการลงทุนรายงวดกองทุนรวมกสิกรไทย) เพื่อลงทุนอย่างสม่ำเสมอกับกองทุน KSDLTF บลจ. กสิกรไทย จะยกเลิกการหักบัญชีเงินฝากเพื่อซื้อกองทุนดังกล่าวให้โดยอัตโนมัติ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555 เป็นต้นไป
สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการจำกัดความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นไม่ให้สูงเกินไปนัก และต้องการรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการลงทุนในกองทุน LTF หลังจากสำนักงาน ก.ล.ต.บังคับใช้เกณฑ์ใหม่ นางสาวยุพาวดีแนะนำว่ากองทุนเปิดเค 70:30 หุ้นระยะยาวปันผล (K70LTF) ยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากกองทุนดังกล่าว มีนโยบายลงทุนในหุ้นไม่เกินร้อยละ 70 ซึ่งสามารถช่วยบริหารความเสี่ยงได้เช่นกัน พร้อมนโยบายจ่ายปันผลไม่เกิน 2 ครั้งต่อปี ซึ่งนับจากจัดตั้งกองทุนในเดือน พ.ย. 2548 มีการจ่ายปันผลไปแล้วทั้งสิ้น 9 ครั้ง คิดเป็นเงิน ปันผล 2.62 บาทต่อหน่วย ที่ผ่านมากองทุนดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากผู้ลงทุนในกองทุน LTF ส่งผลให้กองทุน K70LTF มีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มกองทุน LTF ของ บลจ. กสิกรไทย โดย ณ วันที่ 6 มกราคม 2555 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนกว่า 15,000 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมกองทุน LTF-RMF ของบลจ. กสิกรไทยในปี 2554 นางสาวยุพาวดีเปิดเผยว่า แม้ในปีที่ผ่านมาจะมีปัจจัยหลายประการที่ส่งผลให้ผู้ลงทุนจะชะลอการลงทุนลงทั้งปัญหาอุทกภัยและความผันผวนทางเศรษฐกิจ แต่กองทุน LTF-RMF ของบริษัทยังคงได้รับความไว้วางใจจากผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง สะท้อนชัดในเม็ดเงินใหม่ลงทุนเข้ากองทุนกลุ่มดังกล่าว ณ สิ้นปี 2554 รวมกว่า 18,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าปี 2553 ถึง 9% ส่งผลให้ บลจ. กสิกรไทยยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า 30 % สูงสุดในกลุ่มกองทุน LTF-RMF ของอุตสาหกรรม
