xs
xsm
sm
md
lg

ปัญหาน้ำท่วมกระทบจีดีพี คาดอีก6เดือนปัญหาคลี่คลาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ. บัวหลวงประเมินน้ำท่วมอีก 6 เดือนต้องคลี่คลาย หลังกระทบจีดีพีแล้ว 1% แนะรัฐฯ ควรตั้งกระทรวงน้ำ รับผิดชอบโดยตรงไม่ให้เกิดปัญหาบานปลายเพิ่ม ล่าสุดแตะมือ 4 พันธกิจเข็นกองอีทีเอฟทองคำรับดีมานด์ กูรูชี้อีก 6 เดือน ทองคำแตะที่ 2,000 เหรียญสหรัฐ

นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด และนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (สมาคม บลจ.) เปิดเผยว่า ผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในขณะนี้คาดว่ากระทบจีดีพีอยู่ที่ 1% เนื่องจากสิ่งที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ไม่ใช่แค่เป็นปัญหาในประเทศเท่านั้น แต่เป็นปัญหาที่กระทบต่อตลาดโลกด้วย เพราะโรงงานอุตสาหกรรมหลายโรงงาน เช่น โรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็คโทรนิค เป็นต้น อย่างไรก็ตามคาดว่าปัญหาดังกล่าวน่าจะไม่ยืดเยื้อนานเกิน 6 เดือน เพราะไม่อย่างนั้นจีดีพีอาจจะกระทบมากว่า 1% ดังนั้นเชื่อว่า ขณะที่ทั้งภาครัฐและเอกชนเองกำลังเร่งร่วมมือกันแก้ไขปัญหาที่เกิดอยู่

“จากผลกระทบที่เกิดขึ้นนี้ถือว่าเป็นบทเรียนหนึ่งที่ทำให้รัฐบาลต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้น และคิดว่ารัฐบาลเองน่าจะมีการจัดตั้งกระทรวงน้ำขึ้น เพราะที่จะรับผิดชอบดูแลทั้งหมดจะทำให้มีความรับสินใจได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ นอกจากนี้แล้วกับนโยบายของรัฐบาลที่จะสร้างเมืองใหม่ขึ้น ต้องมีการทบทวนเพื่อป้องกันความเสี่ยงให้แก่กรุงเทพฯ” นางวรวรรณ กล่าว

ทั้งนี้การลงทุนหุ้นเชื่อว่านักลงทุนเตรียมที่จะทยอยเข้ามาลงทุน เนื่องจากว่าราคาขณะนี้ค่อนข้างถูก แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเองยังคงรอการประเมิน และติดตามสถานการณ์ให้ชัดเจนว่า ราคาจะอยู่ประมาณที่เท่าไหร่ เพื่อรอดูจังหวะที่เข้ามาลงทุนต่อ

นางวรวรรณ กล่าวเพิ่มเติมในงานเสวนา ทองคำ โอกาสลงทุนแห่งทศวรรษ ว่า ปัจจุบันการลงทุนทองคำมีความนิยมมากยิ่งขึ้นกว่าสมัยก่อน นอกจากนี้แล้วหลาย ๆ ประเทศเองยังใช้ทองคำเป็นทุนสำรองเพื่อสู้กับเงินเฟ้อด้วย โดยอันดับแรกที่มีการสะสมทองคำไว้มากที่สุดคือ ธนาคารกลางอประเทศสหรัฐฯ มีสัดส่วนอยู่ 75% อันดับ 2 เยอรมันนีสัดส่วนที่ 72.7% ขณะไทยเองมีทุนสำรองการลงทุนในทองคำที่ 3.6% ส่วนจีนเองมีสัดส่วนแค่ 1.6% ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงถือครองในสัดส่วนที่น้อย และที่เหลือเป็นการถือครอง US ดอลลาร์สหรัฐเป็นส่วนใหญ่ แต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจขึ้น จีนเองเริ่มที่จะหันมาถือทองคำเพิ่มมาก

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ รองประธานกรรมการ บริษัท วาย แอล จี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า อีก 6 เดือนข้างหน้าคาดว่าราคาทองคำน่าจะไปแตะที่ 2,000 เหรียญสหรัฐฯ การลงทุนในทองคำแนะนำว่าควรจะเข้าไปลงทุนในระยะยาวโดยประมาณ 3 ปี ถึงจะเห็นผลตอบแทน แต่อย่างไรก็ตามการลงทุนทองคำปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบมากยิ่ง ดังนั้นกลุ่มนักลงทุนจึงมีความแตกต่างกันออกไปทั้งระยะสั้นและระยะยาว

นายธนรัชต์ พสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า ทองคำเป็นตัวแทนสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยมากกว่าการลงทุนชนิดอื่น ๆ และในตัวของผลตอบแทนยังชนะเงินเฟ้อได้ด้วย ดังนั้นจึงอยากแนะนำให้นักลงทุนกระจายพอร์ตการลงทุนให้มีทองคำติดพอร์ตไว้ด้วย ถึงแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำอาจจะมีความผันผวนไปบ้าง แต่ถ้าเทียบดูแล้วช่วงเดือนสิงหาคม ถึงกันยายน ที่ผ่านมา ราคาทองคำมีการปรับขึ้นมาสูงสุด ถึงแม้ในบางช่วงจังหวะจะมีความผันผวนของราคาบ้างแต่อยากให้นักลงทุนมีเก็บไว้เพื่อการลงทุนระยะยาว เพราะปัจจุบันทองคำแตะอยู่ที่ 1,600 เหรียญสหรัฐฯ เป็นราคาที่ดีและเหมาะสมต่อการลงทุน

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี ประธานกรรมการ บริษัท ห้างขายทองจินฮั้วเฮง จำกัด และนายกสมาคมค้าทองคำ กล่าว่า การลงทุนไม่อยากให้มองในระยะยาวมากเกินไป แต่อย่างให้มองช่วงระยะสั้น 6 เดือนในการทำกำไร และค่อยมองต่อไปอีก 6 เดือนจะดีกว่าที่จะมองเป็นระยะเป็นยาว ๆ

นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด กล่าวว่า กองทุนเปิดบัวหลวงเชโกลด์อีทีเอฟ หรือ BCHAY ที่ได้เริ่มเปิดไอพีโอแล้วจนถึง 20 ตุลาคม นี้ คาดว่าจะมีนักลงทุนสนในจำนวนมาก โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการที่กองทุนมีโครงสร้างที่เข้าใจง่าย เพราะเป็นการลงทุนตรงในทองคำแท่งบริสุทธิ์ไม่น้อยกว่า 96.5% ประเทศ และหน่วยลงทุนมีสภาพคล่องเพราะสามารถซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์ฯ

นอกจากนี้แล้วปัจจัยที่เอื้อต่อการเพิ่มขึ้นของทองคำในระยะยาว เช่น ความต้องการทองคำเพื่อการลงทุนและใช้เป็นทุนสำรอง จากประเทศต่าง ๆ เช่นอินเดีย และจีน และความไม่แน่นอนในการคลี่คลายปัญหาวิกฤตทางเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปและประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น