xs
xsm
sm
md
lg

“น้ำมันปัจจัยที่ 5 ของชีวิต”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


‘น้ำมัน’ สิ่งสำคัญใกล้ตัวที่กระทบต่อกระเป๋าสตางค์ของทุกคน เวลามีประกาศว่า“พรุ่งนี้น้ำมันเบนซิลหรือดีเซลจะขึ้นราคา” แทบทุกคนจะต้องรู้สึกหงุดหงิด และคิวเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันแทบทุกปั๊มจะต้องล้นหลามออกมาถึงนอกปั๊มเลยทีเดียว ลองคิดดูอีกทาง ถ้าเราลงทุนในกองทุนที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันหรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตหรือจำหน่ายน้ำมัน เวลาน้ำมันขึ้นราคา เราคงจะมีรอยยิ้มแทน เอากำไรจากการลงทุนมาทดแทนกับค่าน้ำมันรถแล้วกัน

ปัจจุบัน ราคาน้ำมันดิบที่พูดคุยกันอยู่ในตลาดคือ น้ำมัน West Texas Intermediate ที่เรียกสั้นๆว่า WTI ซึ่งใช้เป็นราคาอ้างอิงของน้ำมันในแถบอเมริกาเหนือและใช้เป็นสินทรัพย์อ้างอิงสำหรับการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าของน้ำมันในตลาด NYMEX ในปัจจุบันยังไม่มีการลงทุนที่ลิงค์กับราคาน้ำมันโดยตรง มีกองทุน ETF ต่างประเทศหลายกองทุนที่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของน้ำมันดิบซึ่งส่วนใหญ่มีความแปรผันตามราคาน้ำมันค่อนข้างสูง เช่น กองทุน Powershares DB Oil Fund สินค้าภายใต้สัญญาซื้อขายคือน้ำมันดิบ ดัชนีอ้างอิงของกองทุนคือ DBIQ Optimum Yield Crude Index Excess Return มี Correlation กับ WTI ถึง 90.5% ซึ่งแปลว่า ถ้า ราคาน้ำมัน WTI ขึ้น 1 บาท ราคา ETF จะขึ้น 0.905 บาท กองทุน Powershares DB Energy Fund สินค้าภายใต้สัญญาซื้อขายคือน้ำมันดิบ น้ำมันเบนซิน น้ำมันเตา และก๊าซธรรมชาติ ดัชนีอ้างอิงของกองทุนคือ DBIQ Optimum Yield Energy Index Excess Return มี Correlation กับ WTI ถึง 90.24%

กองทุน United States Oil Fund LP สินค้าภายใต้สัญญาซื้อขายคือน้ำมันดิบ ดัชนีอ้างอิงของกองทุนคือ WTI Cushing Crude Oil Spot Price มี Correlation กับ WTI ถึง 94.6% (ข้อมูล Correlation มาจาก Bloomberg คำนวณความผันแปรตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2551 ถึงวันที่ 7 กันยายน 2554 ) ทั้งนี้ ค่า Correlation อาจจะปรับเปลี่ยนไปตามจำนวนและอายุของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่กองทุนถืออยู่ ดังนั้น กองทุนรวมของไทยหลายกองทุนได้นำเงินไปลงทุนใน ETF ดังกล่าว เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่สามารถลิงค์กับราคาน้ำมันให้ผู้ลงทุนได้ลงทุนกัน

การเลือกลงทุนในกองทุนน้ำมันควรพิจารณาปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน หลัก ๆ คือ อุปสงค์และอุปทานของน้ำมัน ภาวะเศรษฐกิจของโลก ปัจจัยจากสภาพภูมิอากาศ และปัจจัยความเสี่ยงจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ในประเทศผู้ผลิตน้ำมัน

จากตัวเลข IEA Oil Market Report วันที่ 10 สิงหาคม 2554 ได้สรุปอุปทานการผลิตน้ำมันโลก ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ของปี 2554 อยู่ที่ 87.4 MB/D ซึ่งลดลงจากสิ้นไตรมาสที่ 1 อยู่ที่ 88.5 MB/D เนื่องจากประเทศผู้ผลิตน้ำมันยังคงควบคุมการผลิตเพื่อสนับสนุนราคาน้ำมัน ในขณะที่ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันสิ้นไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 88.0 MB/D และมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น แนวโน้มของราคาน้ำมันน่าจะปรับตัวสูงขึ้น

นอกจากนี้ต้นทุนการผลิตน้ำมัน นับวันจะยิ่งสูงขึ้น เนื่องจากแหล่งผลิตน้ำมันเดิมเริ่มมีทรัพยากรน้อยลง บริษัทน้ำมันขนาดใหญ่ของโลกกำลังแสวงหาแหล่งน้ำมันแห่งใหม่ เช่น ในมหาสมุทรแอตแลนติกนอกชายฝั่งเมืองริโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล ซึ่งต้องใช้ต้นทุนการขุดเจาะสูงขึ้นเพราะค้นพบในแหล่งทะเลน้ำลึก รวมทั้งการใช้พลังงานอื่นมาทดแทนก็มีต้นทุนการผลิตสูงเช่นกัน ทำให้บริษัทผู้ผลิตจำเป็นต้องปรับราคาน้ำมันสูงขึ้นเพื่อรักษาฐานกำไร ประกอบกับการเจริญเติบโตด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมทั่วโลกแม้จะประสบปัญหาเศรษฐกิจหนัก ๆ กันไป แต่ภาคการผลิตหลายส่วนก็ยังคงรักษาระดับการขยายตัว และน้ำมันก็ยังคงเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญเช่นเดิม ดังนั้น ไม่ว่าราคาจะเพิ่มขึ้นเท่าไร ผู้บริโภคทุกระดับก็ต้องซื้ออยู่ดี

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ทุกครั้งที่มีภัยธรรมชาติ ราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้น ดังในช่วงปี 2548 ที่เกิดเฮอริเคนแคทารีน่าในอ่าวเม็กซิโกและได้เคลื่อนตัวผ่านโรงกลั่นและแท่นขุดเจาะ ส่งผลให้กำลังการผลิตน้ำมันของโลกปรับตัวลดลง ถึงแม้โอกาสที่พายุเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวผ่านแท่นขุดเจาะจะมีไม่มากนัก แต่ผู้ประกอบการมักจะหยุดดำเนินงานเพื่อลดความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของแรงงาน จากเหตุดังกล่าว ในช่วงมรสุมของสหรัฐมักจะมีการลดกำลังการผลิตน้ำมันลงแม้โอกาสเคลื่อนตัวผ่านแท่นขุดเจาะจะน้อยมากก็ตาม

ประเด็นสุดท้ายที่ควรพิจารณาประกอบคือ สถานการณ์ต่าง ๆ ของประเทศผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลางซึ่งเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองหลังจากที่ประชาชนในหลายประเทศรวมตัวกันเพื่อขับไล่ผู้นำ การประท้วงมักจะใช้เวลานานและมีการปะทะกันระหว่างประชาชนและทหารของผู้นำกระจายไปทั่วประเทศ ส่งผลให้กำลังการผลิตน้ำมันถูกหยุดดำเนินการไปเพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการก่อการร้ายและการตกเป็นเป้าหมายโจมตี ในปัจจุบันยังมีหลายประเทศในกลุ่มตะวันออกที่ยังคงมีปกครองโดยผู้นำและประชาชนยังคงยากจนซึ่งมีความเสี่ยงต่อการโค่นล้มผู้นำโดยประชาชนได้ มีผลโดยตรงต่ออุปทานน้ำมันในตลาด

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันอาจมีการปรับตัวลดลงเป็นระยะ จากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่ฟื้นตัวเท่าที่คาดการณ์ รวมทั้งความวิตกเกี่ยวกับตลาดแรงงานในสหรัฐที่มีผู้ว่างงานเพิ่มมากขึ้น ยุโรปก็ยังไม่ชัดเจน แต่ทางมองการลงทุนในระยะยาว น้ำมันก็ยังคงน่าสนใจลงทุน

ปัจจุบันมีกองทุนรวมที่ลงทุนใน ETF ที่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของน้ำมัน มีทั้งกองทุนเปิดที่สามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ และกองทุนปิดประเภท Target Fund ที่กำหนดเป้าหมายผลตอบแทนในระยะเวลาที่เหมาะสม หากได้กำไรตามที่กำหนดก็รับผลตอบแทนที่ตั้งไว้ไปได้ทันที
น้ำมัน ขุมทรัพย์ธรรมชาติ .... ปัจจัยที่ 5 ของชีวิต การลงทุนที่เพิ่มรอยยิ้มให้เรา เมื่อเวลาเติมน้ำมัน

ที่มา : วารสารสมาคมบริษัทจัดการลงทุน
โดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคิน จำกัด
กำลังโหลดความคิดเห็น