หลายบลจ.ตั้งกองทุนอีทีเอฟทองคำ หลังตลาดหุ้นไทยซับพอร์ตค่าธรรมเนียมแถมเงินให้ก้อนแรก 20 ล้านบาท แม้นโยบายการลงทุนต่างกันแต่ส่วนใหญ่เป็นฐานลูกค้าเดียวกัน ประเดิมกองแรกด้วย "เคแทม โกลด์อีทีเอฟ แทร็กเกอร์"ของบลจ.กรุงไทย ตามด้วย"ไทยเด็กซ์ โกลด์ อีทีเอฟ"ของบลจ.วรรณ และล่าสุดกับกองทุน "เค โกลด์ อีทีเอฟ"ของบลจ.กสิกรไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตลาดหลักทรัพย์ไทยได้มีการยกการเก็บอัตราค่าธรรมเนียมในการรับหน่วยกองทุนของกองทุนรวมอีทีเอฟ และอัตราค่าธรรมเนียมรายปี กับกองทุนอีทีเอฟที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในปีนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)มีการออกกองทุนอีทีเอฟให้มากขึ้น จากที่ตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมการยื่นคำขอและค่าธรรมเนียมเข้าจดทะเบียนจำนวน 100,000 บาท และเก็บค่าธรรมเนียมรายปีที่ 50,000 บาท
นอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการตั้งงบร่วมลงทุนกับบลจ.ที่มีการตั้งกองทุนอีทีเอฟเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นในปีนี้ 5 กองแรก มูลค่ากองละ 20 ล้านบาท รวมวงเงินที่ตลาดหลักทรัพย์ฯร่วมลงทุน 100 ล้านบาท โดยขณะนี้มีบลจ.ได้มีบลจ.ที่เตรียมจะตั้งกองทุนอีทีเอฟที่จะเข้าจดทะเบียนในปีนี้จำนวน 5 กองทุน ทั้งกองทุนอีทีเอฟในประเทศและนำอีทีเอฟต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียนด้วย ซึ่งในปี 2555ตลาดหลักทรัพย์ฯมีการเก็บเค่าธรรมเนียมตามปกติ
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่ากองทุนอีทีเอฟทองคำที่อยู่ในตลาด ณ ขณะนี้ถึงแม้ว่าจะมีนโยบายการลงทุนที่ต่างกัน แต่ฐานนักลงทุนส่วนใหญ่ยังเป็นนักลงทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้น หรือมีการลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งอาจจะเป็นนักลงทุนสถาบัน และรายย่อย แต่ไม่ใช่กลุ่มนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาลงทุน เนื่องจากการลงทุนในสินทรัพย์ดังกล่าวเป็นการลงทุนที่ต้องใช้ความรู้และความเข้าใจในการลงทุนเป็นอย่างมาก ซึ่งถือว่าเป็นโจทย์สำคัญที่ท้าทายผู้ขายกองทุนอีทีเอฟ ไม่ว่าจะเป็นโบรกเกอร์ทองคำ โบรกเกอร์บล.และบลจ.
สำหรับกองทุนอีทีเอฟทองคำกองแรกของประเทศไทยคือ กองทุนเปิดเคแทม โกลด์อีทีเอฟ แทร็กเกอร์ (GLD) ซึ่งเป็นกองทุนทองคำกองทุนแรกของประเทศไทยมีนโยบายเน้นการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน SPDRGold Trust กองทุนอีทีเอฟทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่บริหารจัดการโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน)
จุดเด่นของกองทุน GLD อยู่ตรงที่ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนเคลื่อนไหวตามกองทุนรวมหลักที่มุ่งสะท้อนราคาทองคำ Spot Gold หลังหักค่าใช้จ่ายของกองทุน โดยให้ความคล่องตัวในการซื้อขายแบบ Real Time ตามราคาในกระดานของตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยราคาต่อหน่วยคิดเป็นเงินเพียงประมาณ 2 บาทเศษ และสามารถทราบราคาซื้อขายได้ทันทีโดยไม่ต้องรอราคาปิดสิ้นวันเหมือนกองทุนรวมทองคำอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมั่นใจกับการมีบริษัทฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด บริษัทในเครือห้างทองฮั่วเซ่งเฮงเป็นผู้ดูแลสภาพคล่องอีกด้วย
ตามมาด้วยบลจ.วรรณ ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปคือ กองทุนเปิดไทยเด็กซ์ โกลด์ อีทีเอฟ (GOLD99)เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในทองคำแท่ง โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยทองคำแท่งที่กองทุนจะลงทุนจะต้องมีมาตรฐานความบริสุทธิ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 99.50% และเป็นทองคำแท่งที่มีมาตรฐานและผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่ยอมรับในอุตสหกรรมผู้ค้าทองคำในประเทศไทยหรือในระดับสากล ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้ใกล้เคียงกับดัชนีราคาทองคำอ้างอิง และมีธนาคารทหารไทยเป็นคัสโตเดียนเก็บรักษาทองคำ
โดยกองทุนเปิด GOLD99 จะไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีความแตกต่างจากการลงทุนในกองทุนทองคำอื่นๆโดย GOLD99 จะลงทุนในทองคำแท่งจริงๆดังนั้นราคาซื้อขายในแต่ละวันจะเปลี่ยนแปลงตามราคาทองคำแท่งในตลาดทองคำ โดยปัจจัยที่สำคัญทำให้นักลงทุนให้การตอบรับในอีทีเอฟเป็นอย่างดีก็คือเรื่องของการซื้อขายที่สะดวกและง่าย ซึ่งนักลงทุนสามารถซื้อขาย Real time ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ได้ทันที และล่าสุดกับลจ.กสิกรไทย ที่กำลังจะเปิดตัวกองทุนเปิดเค โกลด์ อีทีเอฟ (KG965) ในวันนี้ (3 ตุลามคม)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตลาดหลักทรัพย์ไทยได้มีการยกการเก็บอัตราค่าธรรมเนียมในการรับหน่วยกองทุนของกองทุนรวมอีทีเอฟ และอัตราค่าธรรมเนียมรายปี กับกองทุนอีทีเอฟที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในปีนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)มีการออกกองทุนอีทีเอฟให้มากขึ้น จากที่ตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมการยื่นคำขอและค่าธรรมเนียมเข้าจดทะเบียนจำนวน 100,000 บาท และเก็บค่าธรรมเนียมรายปีที่ 50,000 บาท
นอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการตั้งงบร่วมลงทุนกับบลจ.ที่มีการตั้งกองทุนอีทีเอฟเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นในปีนี้ 5 กองแรก มูลค่ากองละ 20 ล้านบาท รวมวงเงินที่ตลาดหลักทรัพย์ฯร่วมลงทุน 100 ล้านบาท โดยขณะนี้มีบลจ.ได้มีบลจ.ที่เตรียมจะตั้งกองทุนอีทีเอฟที่จะเข้าจดทะเบียนในปีนี้จำนวน 5 กองทุน ทั้งกองทุนอีทีเอฟในประเทศและนำอีทีเอฟต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียนด้วย ซึ่งในปี 2555ตลาดหลักทรัพย์ฯมีการเก็บเค่าธรรมเนียมตามปกติ
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่ากองทุนอีทีเอฟทองคำที่อยู่ในตลาด ณ ขณะนี้ถึงแม้ว่าจะมีนโยบายการลงทุนที่ต่างกัน แต่ฐานนักลงทุนส่วนใหญ่ยังเป็นนักลงทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้น หรือมีการลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งอาจจะเป็นนักลงทุนสถาบัน และรายย่อย แต่ไม่ใช่กลุ่มนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาลงทุน เนื่องจากการลงทุนในสินทรัพย์ดังกล่าวเป็นการลงทุนที่ต้องใช้ความรู้และความเข้าใจในการลงทุนเป็นอย่างมาก ซึ่งถือว่าเป็นโจทย์สำคัญที่ท้าทายผู้ขายกองทุนอีทีเอฟ ไม่ว่าจะเป็นโบรกเกอร์ทองคำ โบรกเกอร์บล.และบลจ.
สำหรับกองทุนอีทีเอฟทองคำกองแรกของประเทศไทยคือ กองทุนเปิดเคแทม โกลด์อีทีเอฟ แทร็กเกอร์ (GLD) ซึ่งเป็นกองทุนทองคำกองทุนแรกของประเทศไทยมีนโยบายเน้นการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน SPDRGold Trust กองทุนอีทีเอฟทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่บริหารจัดการโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน)
จุดเด่นของกองทุน GLD อยู่ตรงที่ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนเคลื่อนไหวตามกองทุนรวมหลักที่มุ่งสะท้อนราคาทองคำ Spot Gold หลังหักค่าใช้จ่ายของกองทุน โดยให้ความคล่องตัวในการซื้อขายแบบ Real Time ตามราคาในกระดานของตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยราคาต่อหน่วยคิดเป็นเงินเพียงประมาณ 2 บาทเศษ และสามารถทราบราคาซื้อขายได้ทันทีโดยไม่ต้องรอราคาปิดสิ้นวันเหมือนกองทุนรวมทองคำอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมั่นใจกับการมีบริษัทฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด บริษัทในเครือห้างทองฮั่วเซ่งเฮงเป็นผู้ดูแลสภาพคล่องอีกด้วย
ตามมาด้วยบลจ.วรรณ ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปคือ กองทุนเปิดไทยเด็กซ์ โกลด์ อีทีเอฟ (GOLD99)เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในทองคำแท่ง โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยทองคำแท่งที่กองทุนจะลงทุนจะต้องมีมาตรฐานความบริสุทธิ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 99.50% และเป็นทองคำแท่งที่มีมาตรฐานและผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่ยอมรับในอุตสหกรรมผู้ค้าทองคำในประเทศไทยหรือในระดับสากล ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้ใกล้เคียงกับดัชนีราคาทองคำอ้างอิง และมีธนาคารทหารไทยเป็นคัสโตเดียนเก็บรักษาทองคำ
โดยกองทุนเปิด GOLD99 จะไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีความแตกต่างจากการลงทุนในกองทุนทองคำอื่นๆโดย GOLD99 จะลงทุนในทองคำแท่งจริงๆดังนั้นราคาซื้อขายในแต่ละวันจะเปลี่ยนแปลงตามราคาทองคำแท่งในตลาดทองคำ โดยปัจจัยที่สำคัญทำให้นักลงทุนให้การตอบรับในอีทีเอฟเป็นอย่างดีก็คือเรื่องของการซื้อขายที่สะดวกและง่าย ซึ่งนักลงทุนสามารถซื้อขาย Real time ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ได้ทันที และล่าสุดกับลจ.กสิกรไทย ที่กำลังจะเปิดตัวกองทุนเปิดเค โกลด์ อีทีเอฟ (KG965) ในวันนี้ (3 ตุลามคม)
