นักวิเคราะห์บล.เอชียพลัส แนะนักลงทุนเก็บ"กองทุนอสังหาฯสนามบินสมุย"เข้าพอร์ตรับปันผลดีต่อเนื่อง หลังการท่องเที่ยวเกาะสมุยดันรายได้ ล่าสุดขอขึ้นค่าธรรมเนียมผู้โดยสารต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีก 20 บาทเป็น 340 บาทต่อราย คาดรายได้ทั้งปี 2554 อยู่ที่ 921.88 ล้านบาท
รายงานข่าวจากฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซียพลัส จำกัด คาดการณ์ถึงผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (SPF)ว่า ทิศทางการดำเนินงานงวด 2H54 เชื่อว่าเติบโตต่อเนื่อง ตามภาวะการท่องเที่ยวบนเกาะสมุยที่ยังมีแนวโน้มสดใส จากการสนับสนุนของธุรกิจที่มีความสัมพันธ์โดยตรงอย่างธุรกิจโรงแรม และสายการบิน โดยธุรกิจโรงแรม มีการขยายการลงทุน สร้างโรงแรมใหมต่อเนื่อง โดยช่วง 2-3 ปีข้างหน้าจะมีจำนวนห้องพักของโรงแรมเพิ่มขึ้นเกือบ 1 พันห้อง จากปัจจุบันที่มีห้องพักรวม 1.82 หมื่นห้อง
ขณะที่ธุรกิจสายการบิน โดยเฉพาะสายการบินหลักอย่าง บางกอกแอร์เวย์ ได้เปิดเส้นทางการบินใหม่ เช่น สมุย-ตราด (4 ไฟลท์ต่อสัปดาห์) ตั้งแต่ ธ.ค. 2553 และ สมุย-สิงคโปร์ (3 ไฟลท์ต่อสัปดาห์) จะเริ่มปลาย ก.ย. 2554 รวมถึงมีแผนจัดซื้อเครื่องบินใหม่ขนาดใหญ่ Airbus 3 ลำซึ่งจะส่งมอบเดือน พ.ย. 2554, ก.พ. และ ธ.ค. 2555 ตามลำดับ เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารมากขึ้น นอกจากนี้ทางสายการบินบางกอกแอร์เวย์ ได้ยื่นเรื่องต่อกรมการบินพลเรือน เพื่อขอปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินของผู้โดยสารเพื่อเดินทางไปต่างประเทศจาก 600 บาท เป็น 700บาทต่อคน
ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณา หากได้รับการอนุมัติจะทำให้กองทุน SPF มีรายได้ค่าธรรมเนียมผู้โดยสารต่างประเทศเพิ่มขึ้น 20 บาทต่อราย เป็น 340 บาทต่อราย ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกเพิ่มเติมต่อรายได้ของกองทุนในอนาคต สำหรับภาพรวมทั้งปี 2554 คงคาดรายได้จากการลงทุนสุทธิ 921.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.3% yoy
งวด 2Q54 มีรายได้จากการลงทุนสุทธิ 213.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.7% yoy มาจากรายได้ค่าเช่าและบริการ 221.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% yoy ประเด็นสำคัญมาจากการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยวบนเกาะสมุย ทำให้จำนวนเที่ยวบินที่ลงสู่สนามบิน (สัดส่วนรายได้ 76%) เติบโต 8.4% yoy หรือจำนวน 2,605 เที่ยวบิน (แบ่งเป็นเครื่องบินแบบขนาดเล็ก หรือ ATR 1,318 เที่ยวบิน และเครื่องบินขนาดใหญ่ Boeing & Airbus 1,287 เที่ยวบิน) ส่วนผู้โดยสารที่เดินทางออกจากสนามบิน (สัดส่วนรายได้ 24%) ใกล้เคียง 2Q53 มีจำนวน 1.746 แสนคน
ด้านค่าใช้จ่ายของกองทุนงวด 2Q54 ทรงตัวอยู่ที่ 9.18 ล้านบาท อย่างไรก็ตามงวด 2Q54 มีการบันทึกรายการพิเศษขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากเงินลงทุนซึ่งเกิดจากการประเมินสินทรัพย์ที่ลดลงตามอายุสิทธิการเช่า 34 ล้านบาท เพิ่มจากงวด 2Q53 ที่บันทึกขาดทุน 25.8 ล้านบาท หากหักรายการดังกล่าวแล้ว กองทุน SPF มีผลกำไร 179.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% yoy โดยสิ้นงวด 2Q54กองทุน SPF คงมีกำไรสะสมรวม 1,224 ล้านบาท คิดเป็น 1.29 บาทต่อหุ้น ซึ่งมีโอกาสจะนำมาจ่ายเป็นเงินปันผลเพิ่มเติมในอนาคต เพื่อชะลอการคืนเงินต้นไปอีก 2 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยบล.เอเชียพลัสยังคงคำแนะนำซื้อสำหรับ SPF เนื่องจากให้ผลตอบแทนด้านเงินปันผลจูงใจ โดยล่าสุดงวด2Q54 ประกาศจ่ายเงินปันผลหน่วยละ 0.22 บาท คิดเป็น Div Payout Ratio 98% ของรายได้จากการลงทุนสุทธิ หรือ เทียบกับ Annualized Div Yield สูง 9% ต่อปี โดยจะจ่ายปันผลวันที่ 9 ก.ย. 2554 ด้านราคาปัจจุบันยังต่ำกว่า NAV ล่าสุดเดือน มิ.ย. 2554 ที่ 10.9813 บาท และ คาดการณ์ NAV สิ้นปี 2554 ที่ 10.82บาท คิดเป็นส่วนลด 10% และ 9% ตามลำดับ
รายงานข่าวจากฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซียพลัส จำกัด คาดการณ์ถึงผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (SPF)ว่า ทิศทางการดำเนินงานงวด 2H54 เชื่อว่าเติบโตต่อเนื่อง ตามภาวะการท่องเที่ยวบนเกาะสมุยที่ยังมีแนวโน้มสดใส จากการสนับสนุนของธุรกิจที่มีความสัมพันธ์โดยตรงอย่างธุรกิจโรงแรม และสายการบิน โดยธุรกิจโรงแรม มีการขยายการลงทุน สร้างโรงแรมใหมต่อเนื่อง โดยช่วง 2-3 ปีข้างหน้าจะมีจำนวนห้องพักของโรงแรมเพิ่มขึ้นเกือบ 1 พันห้อง จากปัจจุบันที่มีห้องพักรวม 1.82 หมื่นห้อง
ขณะที่ธุรกิจสายการบิน โดยเฉพาะสายการบินหลักอย่าง บางกอกแอร์เวย์ ได้เปิดเส้นทางการบินใหม่ เช่น สมุย-ตราด (4 ไฟลท์ต่อสัปดาห์) ตั้งแต่ ธ.ค. 2553 และ สมุย-สิงคโปร์ (3 ไฟลท์ต่อสัปดาห์) จะเริ่มปลาย ก.ย. 2554 รวมถึงมีแผนจัดซื้อเครื่องบินใหม่ขนาดใหญ่ Airbus 3 ลำซึ่งจะส่งมอบเดือน พ.ย. 2554, ก.พ. และ ธ.ค. 2555 ตามลำดับ เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารมากขึ้น นอกจากนี้ทางสายการบินบางกอกแอร์เวย์ ได้ยื่นเรื่องต่อกรมการบินพลเรือน เพื่อขอปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินของผู้โดยสารเพื่อเดินทางไปต่างประเทศจาก 600 บาท เป็น 700บาทต่อคน
ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณา หากได้รับการอนุมัติจะทำให้กองทุน SPF มีรายได้ค่าธรรมเนียมผู้โดยสารต่างประเทศเพิ่มขึ้น 20 บาทต่อราย เป็น 340 บาทต่อราย ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกเพิ่มเติมต่อรายได้ของกองทุนในอนาคต สำหรับภาพรวมทั้งปี 2554 คงคาดรายได้จากการลงทุนสุทธิ 921.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.3% yoy
งวด 2Q54 มีรายได้จากการลงทุนสุทธิ 213.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.7% yoy มาจากรายได้ค่าเช่าและบริการ 221.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% yoy ประเด็นสำคัญมาจากการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยวบนเกาะสมุย ทำให้จำนวนเที่ยวบินที่ลงสู่สนามบิน (สัดส่วนรายได้ 76%) เติบโต 8.4% yoy หรือจำนวน 2,605 เที่ยวบิน (แบ่งเป็นเครื่องบินแบบขนาดเล็ก หรือ ATR 1,318 เที่ยวบิน และเครื่องบินขนาดใหญ่ Boeing & Airbus 1,287 เที่ยวบิน) ส่วนผู้โดยสารที่เดินทางออกจากสนามบิน (สัดส่วนรายได้ 24%) ใกล้เคียง 2Q53 มีจำนวน 1.746 แสนคน
ด้านค่าใช้จ่ายของกองทุนงวด 2Q54 ทรงตัวอยู่ที่ 9.18 ล้านบาท อย่างไรก็ตามงวด 2Q54 มีการบันทึกรายการพิเศษขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากเงินลงทุนซึ่งเกิดจากการประเมินสินทรัพย์ที่ลดลงตามอายุสิทธิการเช่า 34 ล้านบาท เพิ่มจากงวด 2Q53 ที่บันทึกขาดทุน 25.8 ล้านบาท หากหักรายการดังกล่าวแล้ว กองทุน SPF มีผลกำไร 179.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% yoy โดยสิ้นงวด 2Q54กองทุน SPF คงมีกำไรสะสมรวม 1,224 ล้านบาท คิดเป็น 1.29 บาทต่อหุ้น ซึ่งมีโอกาสจะนำมาจ่ายเป็นเงินปันผลเพิ่มเติมในอนาคต เพื่อชะลอการคืนเงินต้นไปอีก 2 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยบล.เอเชียพลัสยังคงคำแนะนำซื้อสำหรับ SPF เนื่องจากให้ผลตอบแทนด้านเงินปันผลจูงใจ โดยล่าสุดงวด2Q54 ประกาศจ่ายเงินปันผลหน่วยละ 0.22 บาท คิดเป็น Div Payout Ratio 98% ของรายได้จากการลงทุนสุทธิ หรือ เทียบกับ Annualized Div Yield สูง 9% ต่อปี โดยจะจ่ายปันผลวันที่ 9 ก.ย. 2554 ด้านราคาปัจจุบันยังต่ำกว่า NAV ล่าสุดเดือน มิ.ย. 2554 ที่ 10.9813 บาท และ คาดการณ์ NAV สิ้นปี 2554 ที่ 10.82บาท คิดเป็นส่วนลด 10% และ 9% ตามลำดับ