บลจ.เกียรตินาคิน คาดกองทุนสนามบินสมุย ปันผลในอัตราสูงต่อเนื่อง หลังผลกำดำเนินงานยังดี ล่าสุด รอลุ้นขอขึ้นค่าธรรมเนียม ผู้โดยสารระหว่างประเทศ หนุนรายได้ ควบคู่แผนกระตุ้นการท่องเที่ยว ดันเกาะสมุยเป็น "Dream Destination"
นายศุภกร สุนทรกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เกียรตินาคิน จำกัด (KK-Fund) ในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (“SPF”) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมาของกองทุน SPF มีรายได้โดยตรงจากการดำเนินงานของสนามบินสมุย โดยผลการดำเนินงานในปี 2553 ปรับเพิ่มสูงขึ้นถึง 4.38%(YOY) และอัตราการจ่ายเงินปันผลในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ร้อยละ 9.54 (คำนวณจากราคาพาร์ปัจจุบันที่ 9.6927 บาท) โดยสัดส่วนรายได้ของกองทุนมาจากจำนวนเที่ยวบินเข้าสู่สนามบินสมุย 74% และอีก 26% เป็นสัดส่วนจากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศที่เดินทางออกจากเกาะสมุย
นอกจากนี้ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บางกอกแอร์เวยส์ได้ยื่นคำร้องไปยังกรมการบินพลเรือน เพื่อขอปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้โดยสารที่เดินทางออกจากสนามบินสมุยที่ใช้เส้นทางการบินระหว่างประเทศ (International Passenger Service Charge: International PSC) ซึ่งหากได้รับอนุมัติจะส่งผลให้กองทุนได้รับรายได้เพิ่มขึ้น สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ยังคงอยู่ในทิศทางที่ดีต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของจำนวนนักท่องเที่ยว และจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มสูงขึ้น จึงคาดการณ์จะยังคงสามารถรักษาระดับการจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงได้
ในส่วนของบางกอกแอร์เวยส์นั้น นอกจากการเสนอขอปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมผู้โดยสารเส้นทางการบินระหว่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อรายได้กองทุนโดยตรงแล้ว ยังมีการเพิ่มเส้นทางสมุย-ตราด การเพิ่ม Codeshare Partner กับ Silk Air และการพัฒนาพื้นที่บริเวณสนามบินสมุยในด้านต่างๆ ให้พร้อมรับนักท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บางกอกแอร์เวยส์ยังมีแผนการรับเครื่องบิน A319 เพิ่มเติมในปลายปีนี้และปีหน้า รวมถึงแผนการขยายเส้นทางการบินไปยังประเทศอินเดีย และบังคลาเทศ ซึ่งจะมีส่วนสนับสนุนการเดินทางมาทำธุรกิจ และท่องเที่ยวเมืองไทยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
คุณสายโพยม สมสุข หัวหน้าศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจการท่องเที่ยวบนเกาะสมุย ยังคงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งในและต่างประเทศ โดยปัจจุบันได้รับการยอมรับระดับนานาชาติให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลติดอันดับโลก ถึงแม้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จะต้องเผชิญกับปัจจัยลบจากสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ แต่โดยภาพรวมแล้วอัตราการเข้าพักยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ททท. เองกำลังดำเนินแผนงานเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันบนเกาะสมุยแบบบูรณาการ และมุ่งตั้งเป้าให้เกาะสมุย เป็น Dream Destination สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ
ปัจจุบัน KK-Fund มีกองทุนรวมอสังหาหาริมทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการ 2 กองทุนคือ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย และ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เออร์บานา มูลค่าทรัพย์สินกว่า 11,152 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2554) ซึ่งจากนี้ไป KK-Fund ตั้งเป้าในการเปิดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) เพิ่มขึ้น โดยจะเน้นทรัพย์สินที่มีศักยภาพที่ดีในการสร้างรายได้ และมีมูลค่าเพิ่มในอนาคตเป็นสำคัญ
นายศุภกร สุนทรกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เกียรตินาคิน จำกัด (KK-Fund) ในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (“SPF”) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมาของกองทุน SPF มีรายได้โดยตรงจากการดำเนินงานของสนามบินสมุย โดยผลการดำเนินงานในปี 2553 ปรับเพิ่มสูงขึ้นถึง 4.38%(YOY) และอัตราการจ่ายเงินปันผลในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ร้อยละ 9.54 (คำนวณจากราคาพาร์ปัจจุบันที่ 9.6927 บาท) โดยสัดส่วนรายได้ของกองทุนมาจากจำนวนเที่ยวบินเข้าสู่สนามบินสมุย 74% และอีก 26% เป็นสัดส่วนจากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศที่เดินทางออกจากเกาะสมุย
นอกจากนี้ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บางกอกแอร์เวยส์ได้ยื่นคำร้องไปยังกรมการบินพลเรือน เพื่อขอปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้โดยสารที่เดินทางออกจากสนามบินสมุยที่ใช้เส้นทางการบินระหว่างประเทศ (International Passenger Service Charge: International PSC) ซึ่งหากได้รับอนุมัติจะส่งผลให้กองทุนได้รับรายได้เพิ่มขึ้น สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ยังคงอยู่ในทิศทางที่ดีต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของจำนวนนักท่องเที่ยว และจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มสูงขึ้น จึงคาดการณ์จะยังคงสามารถรักษาระดับการจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงได้
ในส่วนของบางกอกแอร์เวยส์นั้น นอกจากการเสนอขอปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมผู้โดยสารเส้นทางการบินระหว่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อรายได้กองทุนโดยตรงแล้ว ยังมีการเพิ่มเส้นทางสมุย-ตราด การเพิ่ม Codeshare Partner กับ Silk Air และการพัฒนาพื้นที่บริเวณสนามบินสมุยในด้านต่างๆ ให้พร้อมรับนักท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บางกอกแอร์เวยส์ยังมีแผนการรับเครื่องบิน A319 เพิ่มเติมในปลายปีนี้และปีหน้า รวมถึงแผนการขยายเส้นทางการบินไปยังประเทศอินเดีย และบังคลาเทศ ซึ่งจะมีส่วนสนับสนุนการเดินทางมาทำธุรกิจ และท่องเที่ยวเมืองไทยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
คุณสายโพยม สมสุข หัวหน้าศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจการท่องเที่ยวบนเกาะสมุย ยังคงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งในและต่างประเทศ โดยปัจจุบันได้รับการยอมรับระดับนานาชาติให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลติดอันดับโลก ถึงแม้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จะต้องเผชิญกับปัจจัยลบจากสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ แต่โดยภาพรวมแล้วอัตราการเข้าพักยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ททท. เองกำลังดำเนินแผนงานเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันบนเกาะสมุยแบบบูรณาการ และมุ่งตั้งเป้าให้เกาะสมุย เป็น Dream Destination สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ
ปัจจุบัน KK-Fund มีกองทุนรวมอสังหาหาริมทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการ 2 กองทุนคือ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย และ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เออร์บานา มูลค่าทรัพย์สินกว่า 11,152 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2554) ซึ่งจากนี้ไป KK-Fund ตั้งเป้าในการเปิดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) เพิ่มขึ้น โดยจะเน้นทรัพย์สินที่มีศักยภาพที่ดีในการสร้างรายได้ และมีมูลค่าเพิ่มในอนาคตเป็นสำคัญ