บลจ. บัวหลวง หวังเพิ่มทุนกอง TFUND อีก 1,600 ล้านบาท เพื่อขยายโรงงานอีก 26 โรง เตรียมจัดประชุมผู้ถือหน่วยในวันที่ 4 ส.ค.นี้ เพื่อขอมติเพิ่มทุนต่อ
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะผู้บริหารกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) บริษัทเตรียมจัดการประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ เพื่อขอมติเพิ่มเงินทุนของกองทุนรวมอีกไม่เกิน 1,600 ล้านบาท เพื่อนำไปลงทุนเพิ่มในที่ดินพร้อมโรงงานจำนวนประมาณ 26 โรงซึ่งตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมและเขตอุตสาหกรรม
ทั้งนี้บริษัทเชื่อว่าการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุน เนื่องจากกองทุน TFUND มีประวัติการจ่ายเงินปันผลต่อเนื่องทุกไตรมาส ล่าสุดจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานของไตรมาส 1 ปีนี้ ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.20 บาท ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 25 นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน
"บริษัทขอเชิญผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) เข้าร่วมลงมติในแต่ละวาระของการประชุมในครั้งนี้ โดยผู้ถือหน่วยสามารถที่จะมาเข้าร่วมประชุมด้วยตัวเองในวันดังกล่าว เวลา 14.00 น. หรือถ้าผู้ถือหน่วยบางรายไม่สะดวกสามารถส่งหนังสือมอบฉันทะมาที่ บลจ.บัวหลวงเพื่อให้ผู้รับมอบฉันทะดำเนินการแทน เพียงแต่ผู้ถือหน่วยต้องดำเนินการส่งหนังสือมอบฉันทะ และ เอกสารหรือหลักฐานการแสดงมติในวาระที่กำหนด มายังบลจ.บัวหลวงภายในวันที่ 3 สิงหาคม นี้ หรือนำมาส่งต่อเจ้าหน้าที่ลงทะเบียนภายในวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2554 ก่อนเริ่มการประชุม"
นายวศิน กล่าวต่อไปว่า การจัดประชุมผู้ถือหน่วยครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2554 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม นี้ ระหว่างเวลา 14.00 - 16.00 น. ณ ห้องแกรนด์ฮอลล์ เดอะบางกอกคลับ ชั้น 28 อาคารสาธรซิตี้ทาวเวอร์ เพื่อนำมาลงทุนในที่ดินพร้อมโรงงานเพิ่มเติม โดยกระจายการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมและเขตอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร บางปะกง จังหวัดชลบุรี นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดอยุธยา นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง และเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดปทุมธานี เป็นต้น โดยการลงทุนในครั้งนี้เพื่อเพิ่มช่องทางที่จะก่อให้เกิดรายได้และผลตอบแทนในรูปเงินปันผลแก่ผู้ถือหน่วยลงทุน อีกทั้งเป็นการกระจายการลงทุนของกองทุนไปในพื้นที่ต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ปัจจุบันกองทุนดังกล่าวมีพื้นที่ปล่อยเช่าประมาณ 483,360 ตารางเมตร มีจำนวนโรงงานและคลังสินค้าปล่อยเช่าจำนวน 209 โรง และมีอัตราการเช่าเต็มพื้นที่ และถ้าที่ประชุมมีมติให้เพิ่มทุน กองทุนจะมีพื้นที่ปล่อยเช่าเพิ่มขึ้นเป็น 554,410 ตารางเมตร โดยจะมีโรงงานและคลังสินค้าปล่อยเช่าเพิ่มเป็น 235 โรง และคาดว่าอัตราการเช่าจะเต็มพื้นที่เช่นกัน