โบรกเกอร์ บล.เอเซีย พลัส ประเมินกองทุนอสังหาฯไทคอนจ่ายปันผลไตรมาส2 /54 อีก 0.2 บาทต่อหน่วยลงทุน หลังได้อานิสงค์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้น ส่งผลให้ผู้เช่ากว่า 90% ต่อสัญญาเช่า มองครึ่งปีหลังมีการขึ้นค่าเช่าโรงงานพร้อมจ่อซื้อโรงงานเพิ่มอีก 26 โรงงาน
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอนว่า สถานการณ์ธุรกิจให้เช่าโรงงานและคลังสินค้างวดไตรมาส2/2554 มีทิศทางสดใสต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการเมืองมีเสถียรภาพ ทำให้ 90% ของผู้เช่าโรงงานเดิมที่หมดสัญญาลงในไตรมาส2/2554จำนวนกว่า 10 โรง พื้นที่กว่า 3 หมื่นตารางเมตร ต่อสัญญาเช่า อีกทั้งยังมีผู้เช่าใหม่เข้ามาเพิ่ม ส่งผลให้อัตราการเช่าเฉลี่ยงวดไตรมาส2/2554 เพิ่มเป็น 95.4% จาก 94.7% ใน ไตรมาส1/2554 และ 87.3%ในไตรมาส 2/2554
ด้านอัตราค่าเช่าเฉลี่ยมีการปรับขึ้นเล็กน้อยเป็น 172 บาท/ตร.ม./เดือน จากเดิม 170 บาท/ตร.ม./เดือน เมื่อรวมกับจำนวนโรงงานใหม่ที่เพิ่มขึ้น 35 โรง คิดเป็นพื้นที่ให้เช่า 8.59 หมื่นตารางเมตร จากการเพิ่มทุนซื้อโรงงานตั้งแต่กลางเดือน ต.ค. 2553 ทำให้ภาพรวมงวดไตรมาส2/2554คาดมีรายได้ค่าเช่าและบริการ 242 ล้านบาท เติบโต 36% yoy และ 2% qoq ทั้งนี้หากหักค่าใช้จ่ายของกองทุนซึ่งประเมินไว้ 49.4 ล้านบาท ฝ่ายวิจัยประเมินรายได้จากการลงทุนสุทธิเท่ากับ 194 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.8% yoy และ 2.4% qoq
ส่วนแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังจะเห็นการเติบโตของผลประกอบการต่อเนื่อง จากสถานการณ์การลงทุนที่มีทิศทางสดใสตามเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรม คาดจะผลักดันให้อัตราการเช่าเฉลี่ยยืนระดับสูงเหนือ 95% ขณะที่อัตราค่าเช่ามีโอกาสปรับตัวได้มากขึ้น ตามอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นนอกจากนี้แผนการซื้อโรงงานใหม่เข้ามาเพิ่มอีก 26 โรง คิดเป็นพื้นที่ 71,050 ตารางเมตร ซึ่งณ สิ้นเดือน เม.ย. 2554 มีอัตราการเช่าเต็ม 100% และค่าเช่าเฉลี่ย 173 บาท/ตร.ม./เดือน ผ่านการเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1.6 พันล้านบาท หรือ ไม่เกิน 160 ล้านหน่วย (ราคาเพิ่มทุนคาดไม่ต่ำกว่า10 บาท/หน่วย) ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (RO) และ บุคคลเฉพาะเจาะจง (PP) กลางเดือน พ.ย. 2554ถือเป็นอีกปัจจัยในการผลักดันการเติบโตของผลประกอบการงวดไตรมาส 4/2554ภาพรวมทั้งปี 2554 คงประเมินรายได้จากการลงทุนสุทธิ 768 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% yoy โดยประมาณการดังกล่าวยังไม่ได้รวมแผนการลงทุนเพิ่มเติมในโรงงานใหม่แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามแม้ระดับราคาปัจจุบันของ TFUND สูงกว่า NAV สิ้นเดือน พ.ค. 2554 ระดับ 10.88 และคาดการณ์ NAV สิ้นปี 2554 แต่ด้วยผลตอบแทนเงินปัลสม่ำเสมอต่อเนื่องทุกไตรมาส โดยงวด2Q54 คาดจะมีการจ่ายเงินปันผลเหมือนทุกครั้งระดับ 0.2 บาท/หน่วย หรือ คิดเป็น AnnualizedDiv Yield เกือบ 7% ต่อปี นอกจากนี้แผนลงทุนเพิ่มเติมในโรงงานใหม่ใน 4Q54 ซึ่งจะผลักดันการเติบโตของผลประกอบการและเงินปันผลมากขึ้นในอนาคต จึงคงแนะนำซื้อลงทุน เพื่อรับผลตอบแทนเงินปันผลเป็นหลัก
สำหรับการลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน เป็นการลงทุนที่กองทุนได้รับกรรมสิทธิโดยสมบูรณ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง(Free Hold Interest) เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม กองทุนสามารถขายหรือ จำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนเป็นเจ้าของออกไปได้โดยทั่วไปมูลค่าของที่ดินมักจะเพิ่มตามระยะเวลาที่ถือครอง ส่วนมูลค่าของสิ่งปลูกสร้างจะลดลงตามการเสื่อมค่าตามระยะเวลาที่ถือครอง แต่จะถูกชดเชยด้วยอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาค่าก่อสร้างทดแทนที่เพิ่มขึ้นมากน้อยตามปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้อง
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอนว่า สถานการณ์ธุรกิจให้เช่าโรงงานและคลังสินค้างวดไตรมาส2/2554 มีทิศทางสดใสต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการเมืองมีเสถียรภาพ ทำให้ 90% ของผู้เช่าโรงงานเดิมที่หมดสัญญาลงในไตรมาส2/2554จำนวนกว่า 10 โรง พื้นที่กว่า 3 หมื่นตารางเมตร ต่อสัญญาเช่า อีกทั้งยังมีผู้เช่าใหม่เข้ามาเพิ่ม ส่งผลให้อัตราการเช่าเฉลี่ยงวดไตรมาส2/2554 เพิ่มเป็น 95.4% จาก 94.7% ใน ไตรมาส1/2554 และ 87.3%ในไตรมาส 2/2554
ด้านอัตราค่าเช่าเฉลี่ยมีการปรับขึ้นเล็กน้อยเป็น 172 บาท/ตร.ม./เดือน จากเดิม 170 บาท/ตร.ม./เดือน เมื่อรวมกับจำนวนโรงงานใหม่ที่เพิ่มขึ้น 35 โรง คิดเป็นพื้นที่ให้เช่า 8.59 หมื่นตารางเมตร จากการเพิ่มทุนซื้อโรงงานตั้งแต่กลางเดือน ต.ค. 2553 ทำให้ภาพรวมงวดไตรมาส2/2554คาดมีรายได้ค่าเช่าและบริการ 242 ล้านบาท เติบโต 36% yoy และ 2% qoq ทั้งนี้หากหักค่าใช้จ่ายของกองทุนซึ่งประเมินไว้ 49.4 ล้านบาท ฝ่ายวิจัยประเมินรายได้จากการลงทุนสุทธิเท่ากับ 194 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.8% yoy และ 2.4% qoq
ส่วนแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังจะเห็นการเติบโตของผลประกอบการต่อเนื่อง จากสถานการณ์การลงทุนที่มีทิศทางสดใสตามเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรม คาดจะผลักดันให้อัตราการเช่าเฉลี่ยยืนระดับสูงเหนือ 95% ขณะที่อัตราค่าเช่ามีโอกาสปรับตัวได้มากขึ้น ตามอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นนอกจากนี้แผนการซื้อโรงงานใหม่เข้ามาเพิ่มอีก 26 โรง คิดเป็นพื้นที่ 71,050 ตารางเมตร ซึ่งณ สิ้นเดือน เม.ย. 2554 มีอัตราการเช่าเต็ม 100% และค่าเช่าเฉลี่ย 173 บาท/ตร.ม./เดือน ผ่านการเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1.6 พันล้านบาท หรือ ไม่เกิน 160 ล้านหน่วย (ราคาเพิ่มทุนคาดไม่ต่ำกว่า10 บาท/หน่วย) ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (RO) และ บุคคลเฉพาะเจาะจง (PP) กลางเดือน พ.ย. 2554ถือเป็นอีกปัจจัยในการผลักดันการเติบโตของผลประกอบการงวดไตรมาส 4/2554ภาพรวมทั้งปี 2554 คงประเมินรายได้จากการลงทุนสุทธิ 768 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% yoy โดยประมาณการดังกล่าวยังไม่ได้รวมแผนการลงทุนเพิ่มเติมในโรงงานใหม่แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามแม้ระดับราคาปัจจุบันของ TFUND สูงกว่า NAV สิ้นเดือน พ.ค. 2554 ระดับ 10.88 และคาดการณ์ NAV สิ้นปี 2554 แต่ด้วยผลตอบแทนเงินปัลสม่ำเสมอต่อเนื่องทุกไตรมาส โดยงวด2Q54 คาดจะมีการจ่ายเงินปันผลเหมือนทุกครั้งระดับ 0.2 บาท/หน่วย หรือ คิดเป็น AnnualizedDiv Yield เกือบ 7% ต่อปี นอกจากนี้แผนลงทุนเพิ่มเติมในโรงงานใหม่ใน 4Q54 ซึ่งจะผลักดันการเติบโตของผลประกอบการและเงินปันผลมากขึ้นในอนาคต จึงคงแนะนำซื้อลงทุน เพื่อรับผลตอบแทนเงินปันผลเป็นหลัก
สำหรับการลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน เป็นการลงทุนที่กองทุนได้รับกรรมสิทธิโดยสมบูรณ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง(Free Hold Interest) เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม กองทุนสามารถขายหรือ จำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนเป็นเจ้าของออกไปได้โดยทั่วไปมูลค่าของที่ดินมักจะเพิ่มตามระยะเวลาที่ถือครอง ส่วนมูลค่าของสิ่งปลูกสร้างจะลดลงตามการเสื่อมค่าตามระยะเวลาที่ถือครอง แต่จะถูกชดเชยด้วยอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาค่าก่อสร้างทดแทนที่เพิ่มขึ้นมากน้อยตามปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้อง
