ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ.กรุงศรี ขาย "กรุงศรีเงินหยวนคอมเพล็กซ์รีเทิร์น 1Y1" อายุ 1 ปี โอกาสสร้างผลตอบแทนสูงสุด 5% จากการแข็งค่าของเงินหยวน เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ขายไอพีโอ 18 - 25 กรกฎาคมนี้
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 18 - 25 กรกฎาคม 2554 บริษัทจะเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีเงินหยวนคอมเพล็กซ์รีเทิร์น 1Y1 (KFCYCR1Y1) ซึ่งมีนโยบายลงทุน 75% ในตราสารหนี้ในหรือต่างประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้(investment grade) และส่วนที่เหลืออีก 25%จะลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Structured Note) ที่มีสินทรัพย์อ้างอิงเป็นอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินหยวนเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่กองทุนจะจ่ายผลตอบแทนเป็นสกุลเงินบาท ในกรณีที่เงินหยวนแข็งค่าตามที่คาดการณ์ไว้เมื่อครบกำหนดอายุโครงการ
ทั้งนี้ นักลงทุนจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงสุด 5% ซึ่งสูงกว่าการฝากเงินแบบประจำ 12 เดือนที่ให้ผลตอบแทนประมาณ 2.00 - 2.30%ต่อปี (ที่มา :ธนาคารแห่งประเทศไทย ณ พ.ค. 54) สำหรับกรณีที่ค่าเงินหยวนไม่เปลี่ยนแปลงหรืออ่อนค่าลงนักลงทุนก็ยังคงได้รับเงินต้นคืนทั้งจำนวน
นายฉัตรพีกล่าวว่า บริษัทเชื่อมั่นว่าค่าเงินหยวนเมื่อเปรียบเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ (RMB/USD) จะมีแนวโน้มแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเงินหยวนจะแข็งค่าขึ้นเฉลี่ยประมาณ 6.70% ในปี 2012 (ที่มา : Bloomberg 7 มิ.ย. 54) เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศจีนยังขยายตัวดีในระดับที่มากกว่า 9% มีการเพิ่มปริมาณการบริโภคภายในประเทศซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนที่สำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ และมีการผลักดันเงินหยวนให้มีบทบาทในตลาดโลกมากขึ้นโดยมุ่งหวังให้เป็นสกุลเงินสากลทางการค้า (ที่มา : CEIC , DB estimates)
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นที่มีส่วนช่วยสนับสนุนให้เงินหยวนแข็งค่า เช่น การได้เปรียบดุลการค้าของจีนโดยเฉพาะกับสหรัฐฯ ที่กลายเป็นประเด็นทางการเมือง และเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจากอัตราค่าแรงและราคาอาหารที่สูงขึ้นต่อเนื่องกดดันให้รัฐบาลจีนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ปัจจัยเหล่านี้ล้วนสนับสนุนให้มีเงินทุนไหลเข้าประเทศจีน ส่งผลให้เงินสำรองของประเทศสูงขึ้น และเป็นที่มาของการแข็งค่าของเงินหยวนในระยะยาว
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 18 - 25 กรกฎาคม 2554 บริษัทจะเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีเงินหยวนคอมเพล็กซ์รีเทิร์น 1Y1 (KFCYCR1Y1) ซึ่งมีนโยบายลงทุน 75% ในตราสารหนี้ในหรือต่างประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้(investment grade) และส่วนที่เหลืออีก 25%จะลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Structured Note) ที่มีสินทรัพย์อ้างอิงเป็นอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินหยวนเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่กองทุนจะจ่ายผลตอบแทนเป็นสกุลเงินบาท ในกรณีที่เงินหยวนแข็งค่าตามที่คาดการณ์ไว้เมื่อครบกำหนดอายุโครงการ
ทั้งนี้ นักลงทุนจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงสุด 5% ซึ่งสูงกว่าการฝากเงินแบบประจำ 12 เดือนที่ให้ผลตอบแทนประมาณ 2.00 - 2.30%ต่อปี (ที่มา :ธนาคารแห่งประเทศไทย ณ พ.ค. 54) สำหรับกรณีที่ค่าเงินหยวนไม่เปลี่ยนแปลงหรืออ่อนค่าลงนักลงทุนก็ยังคงได้รับเงินต้นคืนทั้งจำนวน
นายฉัตรพีกล่าวว่า บริษัทเชื่อมั่นว่าค่าเงินหยวนเมื่อเปรียบเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ (RMB/USD) จะมีแนวโน้มแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเงินหยวนจะแข็งค่าขึ้นเฉลี่ยประมาณ 6.70% ในปี 2012 (ที่มา : Bloomberg 7 มิ.ย. 54) เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศจีนยังขยายตัวดีในระดับที่มากกว่า 9% มีการเพิ่มปริมาณการบริโภคภายในประเทศซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนที่สำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ และมีการผลักดันเงินหยวนให้มีบทบาทในตลาดโลกมากขึ้นโดยมุ่งหวังให้เป็นสกุลเงินสากลทางการค้า (ที่มา : CEIC , DB estimates)
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นที่มีส่วนช่วยสนับสนุนให้เงินหยวนแข็งค่า เช่น การได้เปรียบดุลการค้าของจีนโดยเฉพาะกับสหรัฐฯ ที่กลายเป็นประเด็นทางการเมือง และเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจากอัตราค่าแรงและราคาอาหารที่สูงขึ้นต่อเนื่องกดดันให้รัฐบาลจีนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ปัจจัยเหล่านี้ล้วนสนับสนุนให้มีเงินทุนไหลเข้าประเทศจีน ส่งผลให้เงินสำรองของประเทศสูงขึ้น และเป็นที่มาของการแข็งค่าของเงินหยวนในระยะยาว