xs
xsm
sm
md
lg

บอนด์ไทย6เดือนออก6.8ล้านล้าน คาดประชานิยมหนุนครึ่งหลังโตอีก7%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บัณฑิต  นิจถาวร
สมาคมตราสารหนี้โชว์ผลงาน 6 เดือนแรกบอนด์ออกใหม่กว่า 6.8 ล้านล้านบาท พันธบัตรธปท.มาวินออกเยอะสุดกว่า 5.8 ล้านบาท ขณะที่ภาคเอกชนมูลค่ารวมกว่า 1.11 แสนล้านบาท คาดสิ้นปีนี้โตเพิ่มอีก 7% แม้เศรษฐกิจชะลอดตัว เหตุภาครัฐมีการใช้จ่ายของประชานิยมและการปรับตัวของราคาน้ำมันเป็นปัจจัยหนุน

นายบัณฑิต นิจถาวร ประธานกรรมการ และคณะผู้บริหาร สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย หรือ Thai BMA เปิดเผยผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกว่า ภาวะตลาดตราสารหนี้ในช่งงครึ่งปีแรกตั้งแต่เดือนมกราคม - มิถุนายน 2554 ที่ผ่านมา มีการเติบโตอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ แม้ว่าตลาดโลกจะมีความผันผวนทั้งในยุโรปและอเมริกาก็ตาม ซีงการไหลเข้าของนักลงทุนต่างประเทศยังคงเข้ามาลงทุนในประเทศไทยและมีการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องไปได้

โดยในครึ่งปีแรกจะเห็นได้ว่ามูลค่าตราสารหนี้ที่ออกใหม่มีประมาณทั้งสิ้น 6.8 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 33% ซึ่งตราสารหนี้ที่มีมูลค่าการออกสูงสุดเป็นอันดับ 1 ได้แก่ พันธบัตรของธนาคารแห่งประเทศอยู่ที่ประมาณ 5.8 ล้านล้านบาท ขณะที่หุ้นกู้เอกชนมีมูลค่าการออกทั้งสิ้นประมาณ 111,145 ล้านบาท ส่วนตราสารหนี้ระยะสั้นอยู่ที่ 594,170 ล้านบาท

“หุ้นกู้ที่ออกใหม่สูงสุดในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาได้แก่ กลุ่มพลังงาน รองลงมาเป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เป็นกลุ่มที่ระดมด้วยการออกหุ้นกู้ค่อนข้างมากในช่วงเศรษฐกิจช่วงขาขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อนหน้านี้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าตราสารหนี้ระยะสั้นของภาคเอกชนจะมีมูลค่าการออกเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก”

นายบัณฑิต กล่าวต่อไปว่า ในช่วง 6 เดือนแรกตราสารหนี้ระยะสั้นมีการออกเพิ่มมากขึ้นโดยมีประมาณกว่า 594,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 92% ขณะที่กลุ่มธนาคารพาณิชย์เองมีการออกตราสารหนี้ระยะสั้นสุงถึง 63% ซึ่งธนาคารพาณิชย์หลายแห่งต่างออกตราสารหนี้ระยะสั้นเพื่อดึงนักลงทุนของธนาคารที่ดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น

นอกจากนี้แล้วถ้าประเมินดูในช่วง สัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม 2554 ที่ผ่านมา ตลาดตราสารหนี้มีการซื้อขายอย่างต่อเนื่องโดยมีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้าในตราสารหนี้ระยะสั้นกว่า 36,000 ล้านบาท ส่วนตราสารหนี้ที่มีอายุมากกว่า 1 ปีอยู่ที่ 5,200 ล้านบาท

ทั้งนี้การที่นักลงทุนต่างชาติไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับตลาดหุ้นและค่าเงินบาทที่ได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ตลาดตราสารหนี้ในครึ่งปีหลังมีการขับเคลื่อนต่อไป อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกเราจะเห็นได้ว่าเศรษฐกิจไทยมีการชะลอตัวลงไปบ้างในช่วง 2 - 3 เดือนที่ผ่านมาก่อนที่จะมีการเลือกตั้งก็ตาม แต่ถ้ามองดูแล้วเศรษฐกิจไทยยังมีการขับเคลื่อนไปได้ จากตัวราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวชะลอตัวลง ทำให้แรงกดดันลดลงไปได้บ้าง รวมถึงเงินทุนต่างประเทศที่มีไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องในส่วนของภาคเอกชน ขณะเดียวกันการใช้จ่ายของภาคเศรษฐกิจจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้ตลาดตราสารหนี้น่าจะมีการเติบโตเพิ่มมากขึ้นด้วย

ในส่วนของการซื้อขายตลาดรองตราสารหนี้ 6 เดือนที่ผ่านมา มีมูลค่าการซื้อขายที่ 9.4 ล้านล้านบาท ซึ่งจะกระจุกตัวอยู่ในตราสารหนี้ระยะสั้น ทั้งนี้การซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของตราสารหนี้ 6 เดือนแรกอยู่ที่ 9,400 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนประมาร 6%

นายบัณฑิต กล่าวว่า สำหรับครึ่งปีหลังยังคงมีการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเศรษฐกิจจะมีการชะลอตัวจากภาวะเศรษฐกิจโลกก็ตาม แต่ภาคส่งออกในไทยยังคงมีการเติบโต รวมถึงปัจจัยหลัก ๆ ที่มาสนับสนุนเพิ่มขึ้นอย่างเช่น ภาครัฐมีการใช้จ่ายของประชานิยม และภาคประชาชนมีการใช้สอย ขณะที่ราคาน้ำมันเองที่มีการปรับตัวลดลง รวมถึงมีเงินทุนหมุนเวียนเข้ามาของนักลงทุนต่างชาติที่จะกลับเข้ามา จึงถือว่าเป็นปัจจัยบวกที่จะเข้ามาช่วยโดยคาดว่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 7%

“แนวโน้มครึ่งปีหลังจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้จัดการจัดจำหน่ายและผู้ค้าตราสารหนี้มีแนวโน้มโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจากตัวเลขแล้วคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีมูลค่าคงค้างตราสารหนี้อยู่ที่ 7.2 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว”
กำลังโหลดความคิดเห็น