xs
xsm
sm
md
lg

แนะจับตามาตรการQE2หมดอายุ KTAMคาดตลาดหุ้น-ค่าเงินผันผวน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ฝ่ายวิจัยบลจ.กรุงไทย คาดสิ้นสุดมาตรการ QE2 อาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นและอัตราแลกเปลี่ยนเงินทั่วโลก พร้อมแนะนักลงทุนทยอยเก็บหุ้นเมื่อเห็นดัชนีฯปรับฐาน ชูหุ้นรายตัวที่คาดว่าผลประกอบการในไตรมาส2ดี รวมถึงหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลดีจากนโยบายการหาเสียงเลือกตั้ง

รายงานข่าวจากฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อัตราแลกเปลี่ยนมนเดือนมิถุนายนยังมีความผันผวนค่อนข้างมาก ซึ่งค่าเงินยูโรอาจจะแข็งค่าขึ้นในช่วงต้นเดือนจากความกังวลที่เริ่มลดลงต่อปัญหาหนี้สาธารณะ และจากแรงซื้อของนักลงทุนหลังจากที่ยูโรได้อ่อนค่ามาค่อนข้างมากในเดือนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งหลังของเดือนแนวโน้มอาจเปลี่ยนไปเนื่องจากเข้าใกล้ช่วงที่จะสิ้นสุดมาตรการ QE2 อาจทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอันจะเป็นปัจจัยบวกต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯได้ ซึ่งผลกระทบจากภายนอกนี้อาจทำให้ค่าเงินบาทยังมีความผันผวนค่อนข้างมาก อาจแข็งขึ้นในช่วงต้นเดือนแต่จะอ่อนตัวลงในช่วงครึ่งหลังของเดือนได้

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในหุ้นของเดือนนี้ ฝ่ายวิจัยบลจ.กรุงไทย คาดว่าดัชนีฯมีแนวโน้มแกว่งตัวปรับฐานต่อเนื่อง โดยดัชนีฯมีกรอบแกว่งตัวระหว่าง 1,035-1,100 จุด แนะนำซื้อเกร็งกำไรหุ้นรายตัวที่คาดว่าจะมีผลประกอบการดีในไตรมาสที่ 2/2554 รวมถึงหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลดีจากนโยบายการหาเสียงเลือกตั้ง โดยรอจังหวะในช่วงดัชนีฯปรับฐาน ซึ่งเรายังคงมีมุมมองในทางบวกต่อการลงทุนในระยะยาวโดยมีเป้าหมายของดัชนีฯอยู่ที่ 1,202 จุด ที่ PE 14 เท่า

ทั้งนี้ปัจจัยที่มีผลต่อการลงทุนได้แก่ การชะลอดูผลการเลือกตั้งในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ติดตามแนวโน้มการกำหนดนโยบายทางการเงินของเฟดในวันที่ 22 มิถุนายน การพิจารณาการให้ความช่วยเหลือครั้งใหม่แก่กรีซมูลค่า 1.2 หมื่นล้านยูโร จาก IMF ในวันที่ 29 มิถุนายน และการขยายเพดานหนี้เสียของรัฐบาลสหรัฐฯรวมถึงการติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศสำคัญหลักๆต่อเนื่อง

ขณะที่แนวโน้มการลงทุนในตราสารหนี้ของเดือนมิถุนายนนั้น คาดว่าอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุสั้นจะยังคงเพิ่มขึ้นจากแรงกดดันทางฝั่งอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าในเดือนนี้จะมีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลใหม่ที่เพิ่มขึ้นถึง 56.5% MoM ด้วยมูลค่าทั้งสิ้น 4.85 หมื่นล้านบาท แต่คาดว่าความต้องการทางฝั่งนักลงทุนมีเพียงพอที่จะดูดซับอุปทานที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเงินลงทุนที่ไหลกลับเข้ามาจากการลงทุนที่ไปลงทุนในตราสารหนี้ของประเทศเกาหลีใต้ที่จะทยอยครบอายุ

ฝ่ายวิจัยบลจ.กรุงไทย ระบุต่อว่า แนวโน้มราคาทองคำในเดือนนี้จะได้รับปัจจัยบวกจากความกังวลต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ฟื้นตัวช้า อีกทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ QE2 ที่จะหมดอายุสิ้นเดือนมิถุนายน คาดว่าจะทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆลดลง อีกทั้งปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปที่ยังคงมีปัญหา รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ยังคงหนุนราคาทองคำอย่างแข็งแกร่ง

ส่วนแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในเดือนนี้คาดว่าจะยังผันผวนไปตามข่าวและตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ประกาศออกมา โดยประเด็นที่ต้องจับตามองคือ ความคืบหน้าของสถานการณ์ปัญหาหนี้ในกรีซและตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ดัชนีภาคการผลิต และการจ้างงานนอกภาคเกษตร รวมถึงฤดูกาลท่องเที่ยวหน้าร้อนของสหรัฐฯที่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว นอกจากนี้คงติดตามการประชุมของโอเปกว่าจะมีการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีกหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น