ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ. ฟินันซ่า ระบุ เศรษฐกิจยูโรโซนมีแนวโน้มดีขึ้นจากดัชนีเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น ออกกองบอนด์โปรตุเกส 2 กอง ได้แก่ "FAM FFI5M1" อายุ 5 เดือน ให้ผลตอบแทน 3% และ FAM FFI10M1 อายุ 10 เดือน ผลตอบแทน 4% เปิดขาย 16 - 22 มี.ค. นี้
นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ฟินันซ่า จำกัด เผยว่าสภาพเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยูโรปโดยรวมยังมีแนวโน้มปรับตัวดี โดยดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นของนักลงทุนในกลุ่ม Eurozone เดือน มี.ค เพิ่มสู่ระดับ 17.1 จาก 16.70 ใน เดือน ก.พ 54 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ครึ่ง ดัชนีภาคการผลิตของสหภาพยุโรปเดือน ก.พ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 59 จากระดับ 57.3 ในเดือน ม.ค 54 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย 2543 ส่วนยอดค้าปลีกในกลุ่ม Eurozone ขยายตัว 0.40 % M-M และ 0.70 % Y-Y ในเดือน ม.ค นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือน ส.ค 2553 ที่ยอดค้าปลีกใน Eurozone ขยายตัว
ดังนั้นบลจ. ฟินันซ่าจึงออกกองทุนตราสารหนี้โปรตุเกสอีก 2 กอง ได้แก่กองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้ต่างประเทศ 5เดือน1 (FAM FFI5M1) และกองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้ต่างประเทศ 10เดือน1 (FAM FFI10M1) ขณะที่กูรูหลายสำนักระบุว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะขึ้นอีกจึงควรลงตราสารหนี้ระยะสั้น ๆ เพื่อรับนโยบายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น หรือว่าถ้ายาวหน่อยถ้าเห็นเลข 4 ก็ควรเก็บไว้ในพอร์ท
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรโปรตุเกสระยะสั้นที่ผ่านมามีการปรับตัวลง 0.20-0.30 %ต่อปี ขณะที่อัตราผลตอบแทนประเภทอายุเกินกว่า 1 ปี มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ทั้งนี้เพราะตลาดยังคงกังวลกับผลของการประชุมผู้นำยุโรป (ประชุมในเดือนมีนาคม 2554 ) ในการแก้ปัญหาวิกฤติหนี้สินในยุโรปในระยะยาว ว่าจะมีมาตรการที่เข้มงวดอะไรบ้าง
โดยล่าสุดที่ประชุมผู้นำยุโรปเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2554 ที่าผ่านมาได้แถลงการณ์เบื้องต้นเกี่ยวกับมาตรการที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับตลาดเงินที่สำคัญบางประการ ได้แก่ การเพิ่มวงเงินของกองทุนเสถียรภาพทางการเงินยุโรป (EFSF) เพื่อช่วยเหลือสภาพคล่องจำนวน 440 พันล้านยูโร แบบเต็มจำนวน (แต่ก่อนตั้งวงเงิน 440 พันล้านยูโรแต่สามารถปล่อยได้จริงเพียง 250 พันล้านยูโร) เพื่อให้มีวงเงินเพียงพอต่อการรองรับให้กับประเทศที่ต้องการความช่วยเหลือ
ขณะที่กองทุน EFSF สามารถเข้าไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลประเทศที่มีปัญหาการกู้ยืมเงินในตลาดแรกได้ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของประเทศนั้น ๆ มีต้นทุนที่ต่ำลงและลดความกดดันของราคาพันธบัตรในตลาดเงินด้วย รวมถึงการที่กลุ่ม EU จะให้ดอกเบี้ยที่ปล่อยกู้ให้กับประเทศกรีซ 1 % ถึง 5 % แต่ยังไม่ปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยให้กับประเทศไอร์แลนด์ เพราะยังไม่ปฏิบัติตามที่กลุ่มสมาชิกต้องการให้ขึ้นภาษีธุรกิจ
อย่างไรก็ตามมาตรการที่เป็นทางการจะมีการประชุมและแถลงการณ์อีกครั้งในช่วงวันที่ 24-25 มีนาคม 2554 นอกจากนี้เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลโปรตุเกสได้แสดงถึงความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาการขาดดุลงบประมาณของปี 2011 ให้อยู่ในระดับ 4.60 % ตามที่ได้ให้คำมั่นกับสมาชิกผู้นำยุโรป โดยการออกมาตรการเพิ่มเติม ซึ่งผู้นำยุโรปก็ได้แสดงความเชื่อมั่นถึงความตั้งใจดังกล่าวพร้อมให้การสนับสนุนมาตรการที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามมาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลโปรตุเกสได้ออกมาเพิ่มขึ้นก็อาจมีผลกับภาคประชาชนบ้างและอ้างมีความตึงเครียดของสังคมตามที่เคยเกิดขึ้นในประเทศต่าง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
สำหรับกองทุน FAM FFI5M1 มีอายุโครงการประมาณ 5 เดือน ให้ประมาณการผลตอบแทนถึง 3% ต่อปีและกองทุน FAM FFI10M1 มีอายุโครงการประมาณ 10 เดือน ให้ประมาณการผลตอบแทนถึง 4% ต่อปี ทั้งสองกองเสนอขาย 16 - 22 มีนาคม 2554 เน้นลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายในประเทศโปรตุเกส ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศและอยากได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากธนาคารหรือตราสารหนี้ระยะสั้น ๆ ภายในประเทศ โดยอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรของรัฐบาลโปรตุเกสถูกจัดอันดับอยู่สูงกว่าของไทยอีกด้วย (โปรตุเกส F1, ไทย BBB+, Fitch rating)
นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ฟินันซ่า จำกัด เผยว่าสภาพเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยูโรปโดยรวมยังมีแนวโน้มปรับตัวดี โดยดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นของนักลงทุนในกลุ่ม Eurozone เดือน มี.ค เพิ่มสู่ระดับ 17.1 จาก 16.70 ใน เดือน ก.พ 54 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ครึ่ง ดัชนีภาคการผลิตของสหภาพยุโรปเดือน ก.พ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 59 จากระดับ 57.3 ในเดือน ม.ค 54 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย 2543 ส่วนยอดค้าปลีกในกลุ่ม Eurozone ขยายตัว 0.40 % M-M และ 0.70 % Y-Y ในเดือน ม.ค นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือน ส.ค 2553 ที่ยอดค้าปลีกใน Eurozone ขยายตัว
ดังนั้นบลจ. ฟินันซ่าจึงออกกองทุนตราสารหนี้โปรตุเกสอีก 2 กอง ได้แก่กองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้ต่างประเทศ 5เดือน1 (FAM FFI5M1) และกองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้ต่างประเทศ 10เดือน1 (FAM FFI10M1) ขณะที่กูรูหลายสำนักระบุว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะขึ้นอีกจึงควรลงตราสารหนี้ระยะสั้น ๆ เพื่อรับนโยบายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น หรือว่าถ้ายาวหน่อยถ้าเห็นเลข 4 ก็ควรเก็บไว้ในพอร์ท
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรโปรตุเกสระยะสั้นที่ผ่านมามีการปรับตัวลง 0.20-0.30 %ต่อปี ขณะที่อัตราผลตอบแทนประเภทอายุเกินกว่า 1 ปี มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ทั้งนี้เพราะตลาดยังคงกังวลกับผลของการประชุมผู้นำยุโรป (ประชุมในเดือนมีนาคม 2554 ) ในการแก้ปัญหาวิกฤติหนี้สินในยุโรปในระยะยาว ว่าจะมีมาตรการที่เข้มงวดอะไรบ้าง
โดยล่าสุดที่ประชุมผู้นำยุโรปเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2554 ที่าผ่านมาได้แถลงการณ์เบื้องต้นเกี่ยวกับมาตรการที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับตลาดเงินที่สำคัญบางประการ ได้แก่ การเพิ่มวงเงินของกองทุนเสถียรภาพทางการเงินยุโรป (EFSF) เพื่อช่วยเหลือสภาพคล่องจำนวน 440 พันล้านยูโร แบบเต็มจำนวน (แต่ก่อนตั้งวงเงิน 440 พันล้านยูโรแต่สามารถปล่อยได้จริงเพียง 250 พันล้านยูโร) เพื่อให้มีวงเงินเพียงพอต่อการรองรับให้กับประเทศที่ต้องการความช่วยเหลือ
ขณะที่กองทุน EFSF สามารถเข้าไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลประเทศที่มีปัญหาการกู้ยืมเงินในตลาดแรกได้ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของประเทศนั้น ๆ มีต้นทุนที่ต่ำลงและลดความกดดันของราคาพันธบัตรในตลาดเงินด้วย รวมถึงการที่กลุ่ม EU จะให้ดอกเบี้ยที่ปล่อยกู้ให้กับประเทศกรีซ 1 % ถึง 5 % แต่ยังไม่ปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยให้กับประเทศไอร์แลนด์ เพราะยังไม่ปฏิบัติตามที่กลุ่มสมาชิกต้องการให้ขึ้นภาษีธุรกิจ
อย่างไรก็ตามมาตรการที่เป็นทางการจะมีการประชุมและแถลงการณ์อีกครั้งในช่วงวันที่ 24-25 มีนาคม 2554 นอกจากนี้เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลโปรตุเกสได้แสดงถึงความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาการขาดดุลงบประมาณของปี 2011 ให้อยู่ในระดับ 4.60 % ตามที่ได้ให้คำมั่นกับสมาชิกผู้นำยุโรป โดยการออกมาตรการเพิ่มเติม ซึ่งผู้นำยุโรปก็ได้แสดงความเชื่อมั่นถึงความตั้งใจดังกล่าวพร้อมให้การสนับสนุนมาตรการที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามมาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลโปรตุเกสได้ออกมาเพิ่มขึ้นก็อาจมีผลกับภาคประชาชนบ้างและอ้างมีความตึงเครียดของสังคมตามที่เคยเกิดขึ้นในประเทศต่าง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
สำหรับกองทุน FAM FFI5M1 มีอายุโครงการประมาณ 5 เดือน ให้ประมาณการผลตอบแทนถึง 3% ต่อปีและกองทุน FAM FFI10M1 มีอายุโครงการประมาณ 10 เดือน ให้ประมาณการผลตอบแทนถึง 4% ต่อปี ทั้งสองกองเสนอขาย 16 - 22 มีนาคม 2554 เน้นลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายในประเทศโปรตุเกส ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศและอยากได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากธนาคารหรือตราสารหนี้ระยะสั้น ๆ ภายในประเทศ โดยอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรของรัฐบาลโปรตุเกสถูกจัดอันดับอยู่สูงกว่าของไทยอีกด้วย (โปรตุเกส F1, ไทย BBB+, Fitch rating)