ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ.บัวหลวง เผยกอง “Bualuang Global Health Care” ต้องลงทุนระยะยาว สร้างผลตอบแทนเยี่ยม เหตุนวัตกรรมใหม่ทางการแพทย์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นเพื่อรองรับโรคต่างๆ ทำให้การลงทุนในกลุ่มนี้ได้รับประโยชน์โดยตรง ขณะเดียวกันได้ฤกษ์ไอพีโอกองบอนด์ “บัวหลวงตราสารหนี้ชนิดระบุวันครบกำหนด 12/11” รองรับดีมานด์ชอบลงทุนระยะสั้น ๆ ชูผลตอบแทน 2.9% ต่อปี
นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มจัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยถึงกองทุน Bualuang Global Health Care ที่มีผลประกอบการที่ดีว่า ทางทีมจัดการกองทุนดังกล่าวมีความมั่นใจในกลุ่ม Healthcare มาโดยตลอด ถึงแม้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจะได้ผลตอบแทนไม่มาก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตทางการเงินในปี 2008 จนส่งผลให้ผลตอบแทนลดลง
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในกลุ่มนี้เป็นการลงทุนในระยะยาวที่ได้ประโยชน์จากสัดส่วนของกลุ่มผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในประเทศที่พัฒนาแล้ว (Developed Market) และประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) รวมถึงคนมีอายุยืนยาวมากขึ้น มีโรคร้ายและโรคแปลกใหม่เกิดมากขึ้น ส่งผลให้มีวิวัฒนาการทางการแพทย์ใหม่ๆ เกิดขึ้นเพื่อรองรับโรคต่างๆ ทำให้การลงทุนในกลุ่มนี้ได้รับประโยชน์โดยตรง
“เรามีความเชื่อมั่นว่ากลุ่มนี้จะเป็น Super Sector สำหรับทศวรรษนี้ จึงอยากให้นักลงทุนที่สนใจทำความเข้าใจในกลุ่ม Healthcare ว่าอย่าคาดหวังกับผลตอบแทนที่สูงในระยะเวลาสั้นๆ แต่ต้องอดทนในการรอคอยที่จะได้รับผลตอบแทนที่ดีมากในระยะยาว” นายพีรพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวมีนโยบายการลงทุนเน้นการลงทุนเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน (Feeder Fund) ในหน่วยของกองทุนรวม Wellington Management Portfolios (Dublin) Plc.Global Health Care Equity Portfolio ซึ่งเป็นกองทุนรวมต่างประเทศที่มีลักษณะเป็นประเภท Retail Fund ที่มีนโยบายลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม Health Care ซึ่งบริหาร และจัดการโดย Wellington International Management Company Pte Ltd
ขณะเดียวกันรายงานข่าวจาก บลจ. บัวหลวง เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังเปิดขายกองทุนรวมบัวหลวงตราสารหนี้ชนิดระบุวันครบกำหนด 12/11 หรือ B-Fixterm 12/11 มีอายุการลงทุนสั้น ๆ ประมาณ 6 เดือน โดยให้ผลตอบแทนประมาณการที่ 2.9% ต่อปี นักลงทุนสามารถลงทุนขั้นต่ำได้ 10,000 บาท ซึ่งเริ่มเปิดขายไอพีโอแล้วตั้งแต่วันนี้ - 14 มิถุนายน 2554
โดยกองทุนจะเข้าไปลงทุนในพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ในสัดส่วนการลงทุนที่ 32% ซึ่งประมาณผลตอบแทนที่กองทุนจะได้รับ 0.98% ต่อปี ขณะเดียวกันกองทุนจะเข้าไปลงทุนในเงินฝาก หรือตราสารหนี้ของสถาบันทางการเงินในประเทศ ในสัดส่วนการลงทุนที่ 19% ซึ่งประมาณผลตอบแทนที่กองทุนจะได้รับ 0.59% ต่อปี ลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนอีกประมาณ 24% ซึ่งประมาณผลตอบแทนที่กองทุนจะได้รับ 0.77% ต่อปี รวมถึงเงินฝาก หรือตราสารหนี้ในต่างประเทศ ที่จะเข้าไปลงทุนอีกประมาณ 24% ซึ่งประมาณผลตอบแทนที่กองทุนจะได้รับ 0.86% ต่อปี และเงินฝากในสัดส่วนการลงทุนที่ 1% ผลตอบแทนที่กองทุนจะได้รับ 0.01% ต่อปี
นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มจัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยถึงกองทุน Bualuang Global Health Care ที่มีผลประกอบการที่ดีว่า ทางทีมจัดการกองทุนดังกล่าวมีความมั่นใจในกลุ่ม Healthcare มาโดยตลอด ถึงแม้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจะได้ผลตอบแทนไม่มาก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตทางการเงินในปี 2008 จนส่งผลให้ผลตอบแทนลดลง
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในกลุ่มนี้เป็นการลงทุนในระยะยาวที่ได้ประโยชน์จากสัดส่วนของกลุ่มผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในประเทศที่พัฒนาแล้ว (Developed Market) และประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) รวมถึงคนมีอายุยืนยาวมากขึ้น มีโรคร้ายและโรคแปลกใหม่เกิดมากขึ้น ส่งผลให้มีวิวัฒนาการทางการแพทย์ใหม่ๆ เกิดขึ้นเพื่อรองรับโรคต่างๆ ทำให้การลงทุนในกลุ่มนี้ได้รับประโยชน์โดยตรง
“เรามีความเชื่อมั่นว่ากลุ่มนี้จะเป็น Super Sector สำหรับทศวรรษนี้ จึงอยากให้นักลงทุนที่สนใจทำความเข้าใจในกลุ่ม Healthcare ว่าอย่าคาดหวังกับผลตอบแทนที่สูงในระยะเวลาสั้นๆ แต่ต้องอดทนในการรอคอยที่จะได้รับผลตอบแทนที่ดีมากในระยะยาว” นายพีรพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวมีนโยบายการลงทุนเน้นการลงทุนเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน (Feeder Fund) ในหน่วยของกองทุนรวม Wellington Management Portfolios (Dublin) Plc.Global Health Care Equity Portfolio ซึ่งเป็นกองทุนรวมต่างประเทศที่มีลักษณะเป็นประเภท Retail Fund ที่มีนโยบายลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม Health Care ซึ่งบริหาร และจัดการโดย Wellington International Management Company Pte Ltd
ขณะเดียวกันรายงานข่าวจาก บลจ. บัวหลวง เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังเปิดขายกองทุนรวมบัวหลวงตราสารหนี้ชนิดระบุวันครบกำหนด 12/11 หรือ B-Fixterm 12/11 มีอายุการลงทุนสั้น ๆ ประมาณ 6 เดือน โดยให้ผลตอบแทนประมาณการที่ 2.9% ต่อปี นักลงทุนสามารถลงทุนขั้นต่ำได้ 10,000 บาท ซึ่งเริ่มเปิดขายไอพีโอแล้วตั้งแต่วันนี้ - 14 มิถุนายน 2554
โดยกองทุนจะเข้าไปลงทุนในพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ในสัดส่วนการลงทุนที่ 32% ซึ่งประมาณผลตอบแทนที่กองทุนจะได้รับ 0.98% ต่อปี ขณะเดียวกันกองทุนจะเข้าไปลงทุนในเงินฝาก หรือตราสารหนี้ของสถาบันทางการเงินในประเทศ ในสัดส่วนการลงทุนที่ 19% ซึ่งประมาณผลตอบแทนที่กองทุนจะได้รับ 0.59% ต่อปี ลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนอีกประมาณ 24% ซึ่งประมาณผลตอบแทนที่กองทุนจะได้รับ 0.77% ต่อปี รวมถึงเงินฝาก หรือตราสารหนี้ในต่างประเทศ ที่จะเข้าไปลงทุนอีกประมาณ 24% ซึ่งประมาณผลตอบแทนที่กองทุนจะได้รับ 0.86% ต่อปี และเงินฝากในสัดส่วนการลงทุนที่ 1% ผลตอบแทนที่กองทุนจะได้รับ 0.01% ต่อปี
