พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์อีกหนึ่งเลือก สร้างผลตอบแทนให้นักลงทุน

โดยอัญชลี สบายสุข
anchalee1311@hotmail.com

ปัจจุบันทิศทางอัตราดอกเบี้ยปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกองทุนอสังหาริมทรัพย์เองถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการลงทุนของนักลงทุนในการกระจายการลงทุนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่ดี เพราะเราจะเห็นได้ว่ากองทุนดังกล่าวสามารถให้ผลตอบแทนที่อยู่ในระดับที่ค่อนสูงอยู่ที่ประมาณ 6- 7% ดังนั้นนักลงทุนควรจะแบ่งเงินออมมาลงทุนในกองทุนดังกล่าวประมาณ10-15% เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง

อนุสรณ์ บูรณกานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด บอกว่า ปัจจุบันทิศทางอัตราดอกเบี้ยเริ่มมีการปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เองคาดว่าจะมีการขายได้น้อยลงเนื่องจากประชาชนจะซื้อบ้านกันน้อยลง เพราะสู้อัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นไม่ค่อยได้มาก

ส่วนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอง ทางบริษัทฯ ได้มีการเตรียมแผนไว้ คือถ้าเราจะเปิดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์คงต้องให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นไปด้วย เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่นักลงทุนเพราะนักลงทุนจะแบ่งเงินออมมาลงทุนในกองทุนดังกล่าวประมาณ10-15% อยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม การลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ยังถือว่ายังใหม่ต่อนักลงทุน เพราะที่ผ่านมากว่านักลงทุนจะเข้าและเลือกเข้ามาลงทุนได้เราต้องใช้ระยะเวลาสำหรับนักลงทุนพอสมควร ที่นักลงทุนจะมีความไว้วางใจกล้าที่จะเข้ามาลงทุนในกองทุนดังกล่าว ซึ่งเมื่อเทียบกับต่างประเทศแล้วนักลงทุนในต่างประเทศจะมีความรู้ความเข้าใจมากกว่านักลงทุนไทยมาก บริษัทจึงต้องสร้างความเข้าใจต่อนักลงทุนให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการพัฒนา และขยายประเภทของทรัพย์ที่สามารถนำไปดำเนินการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวได้ ตลอดจนมีการพัฒนาในการนำทรัพย์หลาย ๆ ประเภทเข้ามาจัดตั้งกองทุน เพื่อกระจายความเสี่ยง และขยายขนาดของกองทุนเพื่อให้หน่วยลงทุนมีการกระจายไปสู่ผู้ลงทุนรายย่อยมากขึ้นด้วย ซึ่งจะส่งผลให้หน่วยลงทุนมีสภาพคล่องมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งการเพิ่มจำนวน และขนาดของกองทุนเข้าสู่ตลาดจะเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ตลาดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เติบโตได้ในอนาคต และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ลงทุนในการระดมทุนผ่านตลาดทุน

อนุสรณ์ บอกต่อว่า ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ของ บลจ. ซีไอเอ็มบีที่เปิดขายไปก่อนหน้านี้อย่าง กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แบบมีกรรมสิทธิ์ เมอร์เคียว สมุย (MSPF) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แบบมีกรรมสิทธิ์ 101 มนตรี สโตร์เรจ (MONTRI) สามารถจ่ายปันผลให้แก่นักลงทุนได้ ไม่มีปัญหาอะไร นอกจากนี้แล้วความต้องการของกองทุนที่จะเข้ามาลงทุนในกองทุนดังกล่าวยังมีอยู่ เนื่องจากที่ผ่านมาจากผลสำรวจทุกครั้งที่ออกกองทุนจะมีนักลงทุนพลาดโอกาสจากการลงทุนเป็นจำนวนมาก และล่าสุดที่บริษัทออกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัพย์ศรีไทย หรือ Sub Sri Thai Property Fund หรือ SSTPF ได้รับผลตอบรับจากนักลงทุนเต็มจำนวนเงินที่จัดตั้งกองทุนรวมทั้งสิ้น 675 ล้านบาท

ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะออกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ขึ้นต่อจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัพย์ศรีไทย ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรมที่สมุยระดับ 5 ดาว โดยมีขนาดกองทุน 1,200 ล้านบาท โดยบริษัทยังคงเน้นกองทุนที่มีลักษณะแบบมีกรรมสิทธิ์ หรือ Freehold เป็นหลัก ซึ่กองทุนดังกล่าวจะอยู่ทีเดียวกันกับกองทุนรวมอสังหาริทรัพย์แบบมีกรรมสิทธิ์ เมอร์เคียว สมุย (MSPF)

"ก่อนหน้านี้ที่บริษัทได้เปิดขายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์โรงแรมที่สมุย 1 กองทุน ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก และทำให้เราได้ศึกษารูปแบบการลงทุนของนักลงทุนว่ามีความชื่นชอบกับการลงทุนที่เป็นแบบกรรมสิทธิ์มากกว่าแบบไม่มีกรรมสิทธิ์ ส่งผลให้บริษัทเตรียมตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะออกแต่กองทุนที่เป็นแบบกรรมสิทธิ์เท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทได้ทำการสำรวจแล้วว่า การลงทุนแบบกรรมสิทธิ์นั้นมันจะดีกว่าและนักลงทุนจะชอบการลงทุนแบบนี้มากกว่า เพราะมันสามารถความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนได้ เสมือนเป็นเจ้าของโครงการเอง" อนุสรณ์ บอก

มนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด บอกว่า การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ถือว่าเป็นอีกทางเลือกให้แก่นักลงทุนที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูง และในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดไอพีโอกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ตรีนิตี้ หรือ Trinity Property Fund (TNPF) ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี

ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวมีจุดเด่นในเรื่องทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจและเป็นแหล่งที่ได้รับความนิยมในการช้อปปิ้งจับจ่ายใช้สอยมาโดยตลอด บวกกับความหนาแน่นของประชากรในแถบนี้สูงมาก และสามารถเดินทางเข้าออกสะดวกได้จากเส้นทางสีลม สาทรและนราธิวาสราชนครินทร์ จึงไม่ง่ายที่จะหาที่ดินที่อื่นมาเทียบเคียงทำเลทองในแถบนี้ได้

นอกจากนี้แล้วในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะเปิดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นอีก เพื่อรองรับกลุ่มนักลงทุนและเป็นทางเลือกให้แก่นักลงทุนต่อไป แต่ต้องดูความเหมาะสมแต่ทำเลที่ตั้งว่าตรงไหนจะสามารถจัดตั้งกองทุนได้และเป็นที่น่าสนใจ