บลจ.ซีไอเอ็มบี เผยเหตุการณ์น้ำท่วมสมุย ไม่กระทบกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แบบมีกรรมสิทธิ์เมอร์เคียว สมุย (MSPF) เตรียมคลอดต่อกองอสังหาฯ โรงแรมที่สมุยต่อเนื่อง คาดไอพีโอปลายพฤษภาคม นี้ ขณะที่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัพย์ศรีไทย ปิดยอดจองได้เต็มจำนวน 675 ล้านบาท
นายอนุสรณ์ บูรณกานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ซีไอเอ็มบี - พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่เกาะสมุย บริเวณเรียบชายหาดเฉวงว่า จากผลกระทบดังกล่าวเป็นผลกระทบระยะสั้น ๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวยังคงมีแผนที่จะเข้ามาเที่ยวอย่างต่อเนื่อง และโครงการของบริษัทที่เราเข้าไปจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แบบมีกรรมสิทธิ์เมอร์เคียว สมุย (MSPF)ยังคงไม่มีปัญหาแต่อย่างใด และจำนวนนักท่องเที่ยวยังคงเข้าพักอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ในไตรมาส 2 บริษัทเตรียมที่จะไอพีโอกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรมที่สมุยระดับ 5 ดาวต่ออีก 1 กองทุน มีขนาดกองทุน 1,200 ล้านบาท โดยบริษัทยังคงเน้นกองทุนที่มีลักษณะแบบมีกรรมสิทธิ์ หรือ Freehold เป็นหลัก
"ก่อนหน้านี้ที่บริษัทได้เปิดขายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์โรงแรมที่สมุย 1 กองทุน ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก และทำให้เราได้ศึกษารูปแบบการลงทุนของนักลงทุนว่ามีความชื่นชอบกับการลงทุนที่เป็นแบบกรรมสิทธิ์มากกว่าแบบไม่มีกรรมสิทธิ์ ส่งผลให้บริษัทเตรียมตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะออกแต่กองทุนที่เป็นแบบกรรมสิทธิ์เท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทได้ทำการสำรวจแล้วว่า การลงทุนแบบกรรมสิทธิ์นั้นมันจะดีกว่าและนักลงทุนจะชอบการลงทุนแบบนี้มากกว่า เพราะมันสามารถความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนได้ เสมือนเป็นเจ้าของโครงการเอง" นายอนุสรณ์ กล่าว
สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัพย์ศรีไทย หรือ Sub Sri Thai Property Fund หรือ SSTPF ที่ได้ปิดไอพีโอไปเมื่อวันที่ 26 เมษายน นี้ โดยกองทุนสามารถปิดขายได้เต็มจำนวนมูลค่าของโครงการ 675 ล้านบาท ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวมีมูลค่าโครงการ 675 ล้านบาท โดยกองทุน SSTPF ให้ผลตอบแทนที่ประกันโดยธนาคารพาณิชย์ใน 5 ปีแรก โดยในปีที่ 1 -5 กองทุนจะประกันจ่ายปันผลแบบปีต่อปี โดยมีหนังสือค้ำประกัน ซึ่งค่าเช่าขั้นต่ำปีแรกปีละ 50 ล้านบาท หรืออยู่ที่ประมาณ 6.5% ต่อปี ส่วนปีที่ 2 และ 3 จำนวนประมาณ 51.5 ล้านบาท หรืออยู่ที่ 6.75% ต่อปี ขณะที่ ปีที่ 4 และ 5 จำนวนประมาณ 53 ล้านบาท หรืออยู่ที่ 7% และในปีที่ 6 - 10 ค่าเช่าขั้นต่ำ 47 ล้านบาท โดยคิดผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 6.5% ต่อปี
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันทิศทางอัตราดอกเบี้ยเริ่มมีการปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เองคาดว่าจะมีการขายได้น้อยลงเนื่องจากประชาชนจะซื้อบ้านกันน้อยลง เพราะสู้อัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นไม่ค่อยได้มาก ส่วนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอง ทางบริษัทฯ ได้มีการเตรียมแผนไว้ คือถ้าเราจะเปิดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์คงต้องให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นไปด้วย เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่นักลงทุนเพราะนักลงทุนจะแบ่งเงินออมมาลงทุนในกองทุนดังกล่าวประมาณ10-15% อยู่แล้ว