บลจ.เอ็มเอฟซี จับจังหวะเศรษฐกิจประเทศพัฒนาฟื้น ส่ง "เอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล ดีเวลลอป มาร์เก็ต" ดักเก็บ เน้นบริหารแบบ Active ในหุ้นที่มีสภาพคล่องสูงและราคาน่าลงทุน ขายไอพีโอถึง 25 พ.ค.นี้
นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เอ็มเอฟซีอยู่ระหว่างการเสนอขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล ดีเวลลอป มาร์เก็ต หรือกองทุนเปิด I-Develop มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท โดยเป็นกองทุนผสมแบบไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนซึ่งจะลงทุนในต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ และเน้นการลงทุนในประเทศพัฒนาแล้ว หวังสร้างโอกาสผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีกว่า Benchmark (MSCI World Index) จากการคัดเลือกหลักทรัพย์และการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยกระจายน้ำหนักการลงทุนในแต่ละภูมิภาคของดัชนีมาตรฐาน
โดยกองทุนเปิด I-Develop มีการบริหารกองทุนแบบ Active โดยเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงและราคาน่าลงทุน ทำให้สามารถปรับพอร์ตการลงทุนตามสภาวการณ์ตลาดได้ทันท่วงที และยังสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนได้ตามสภาวะเศรษฐกิจทั้งตราสารทุน หน่วยลงทุนของกองทุนรวม (ETF) ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ของประเทศพัฒนาแล้วในภูมิภาคต่างๆ 24 ประเทศทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ เยอรมัน ฝรั่งเศส เป็นต้น ตราสารหนี้ต่างประเทศที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ และเงินฝากต่างประเทศ นอกจากนี้ กองทุนเปิด I-Develop ยังมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามความเหมาะสมกับสภาวการณ์ โดยขึ้นกับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน
ทั้งนี้ จากข้อมูล IMF World Economic Outlook เดือนเมษายนที่ผ่านมา มองว่าเศรษฐกิจโลกรักษาระดับการฟื้นตัวได้ดีสู่ระดับก่อนวิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐช่วงปี 2008-2009 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการผลิตของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วที่แข็งแกร่ง การจ้างงานที่สามารถปรับตัวขึ้นได้ซึ่งจะช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับการเติบโตของเศรษฐกิจ และธนาคารกลางส่วนใหญ่ในภูมิภาคยังรักษาระดับดอกเบี้ยต่ำ เพื่อรักษาสมดุลเศรษฐกิจ และกระตุ้นการลงทุน นอกจากนี้ บริษัทในภูมิภาคมีแนวโน้มการเติบโตของผลกำไรที่ดี และมีสภาพคล่องสูง จึงสนใจจะขยายการลงทุน และจ่ายเงินปันผลคืนให้ผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อราคาหุ้น
สำหรับสหรัฐอเมริกา ธนาคารกลางสหรัฐได้ยืนยันที่จะรักษาระดับดอกเบี้ยต่ำต่อไป เพื่อกระตุ้นการลงทุนตลาดทุน ส่วนเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศในยุโรปนำโดยฝรั่งเศสและเยอรมัน มีการฟื้นตัวค่อนข้างดี ด้านเอเชียแปซิฟิก เศรษฐกิจฮ่องกง สิงคโปร์ และออสเตรเลีย มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากอุปสงค์ในประเทศที่เติบโตต่อเนื่อง การส่งออกสินค้าตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจของจีนและฮ่องกงด้านการค้าและบริการ
โดยจากปัจจัยที่ดีดังกล่าวจะสนับสนุนให้เกิดโอกาสที่ดีในการลงทุนกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว แม้ว่าอาจจะเกิดปัจจัยเสี่ยง เช่น ระดับหนี้สาธารณะและมาตรการรัดเข็มขัดที่สหรัฐต้องดำเนินการท่ามกลางความเห็นที่แตกต่างของสองพรรคการเมือง หรือปัญหาหนี้สาธารณะของกลุ่มประเทศ PIGS (โปรตุเกส ไอร์แลนด์ กรีซ สเปน) ที่อาจมีผลกระทบต่อกลุ่มสหภาพยุโรป เป็นต้น แต่ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนจะสามารถเลือกลงทุนได้ทั้งแบบภูมิภาค ประเทศ ประเภทอุตสาหกรรม หรือขนาดธุรกิจตามช่วงเวลาที่เหมาะสม
สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล ดีเวลลอป มาร์เก็ต สามารถลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 10,000 บาท โดยจะเสนอขายตั้งแต่วันที่ 12-25 พฤษภาคมนี้ ซึ่งภายหลังการเสนอขายครั้งแรก จะเปิดให้ซื้อหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ และขายคืนได้ทุกวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์
นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เอ็มเอฟซีอยู่ระหว่างการเสนอขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล ดีเวลลอป มาร์เก็ต หรือกองทุนเปิด I-Develop มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท โดยเป็นกองทุนผสมแบบไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนซึ่งจะลงทุนในต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ และเน้นการลงทุนในประเทศพัฒนาแล้ว หวังสร้างโอกาสผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีกว่า Benchmark (MSCI World Index) จากการคัดเลือกหลักทรัพย์และการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยกระจายน้ำหนักการลงทุนในแต่ละภูมิภาคของดัชนีมาตรฐาน
โดยกองทุนเปิด I-Develop มีการบริหารกองทุนแบบ Active โดยเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงและราคาน่าลงทุน ทำให้สามารถปรับพอร์ตการลงทุนตามสภาวการณ์ตลาดได้ทันท่วงที และยังสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนได้ตามสภาวะเศรษฐกิจทั้งตราสารทุน หน่วยลงทุนของกองทุนรวม (ETF) ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ของประเทศพัฒนาแล้วในภูมิภาคต่างๆ 24 ประเทศทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ เยอรมัน ฝรั่งเศส เป็นต้น ตราสารหนี้ต่างประเทศที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ และเงินฝากต่างประเทศ นอกจากนี้ กองทุนเปิด I-Develop ยังมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามความเหมาะสมกับสภาวการณ์ โดยขึ้นกับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน
ทั้งนี้ จากข้อมูล IMF World Economic Outlook เดือนเมษายนที่ผ่านมา มองว่าเศรษฐกิจโลกรักษาระดับการฟื้นตัวได้ดีสู่ระดับก่อนวิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐช่วงปี 2008-2009 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการผลิตของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วที่แข็งแกร่ง การจ้างงานที่สามารถปรับตัวขึ้นได้ซึ่งจะช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับการเติบโตของเศรษฐกิจ และธนาคารกลางส่วนใหญ่ในภูมิภาคยังรักษาระดับดอกเบี้ยต่ำ เพื่อรักษาสมดุลเศรษฐกิจ และกระตุ้นการลงทุน นอกจากนี้ บริษัทในภูมิภาคมีแนวโน้มการเติบโตของผลกำไรที่ดี และมีสภาพคล่องสูง จึงสนใจจะขยายการลงทุน และจ่ายเงินปันผลคืนให้ผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อราคาหุ้น
สำหรับสหรัฐอเมริกา ธนาคารกลางสหรัฐได้ยืนยันที่จะรักษาระดับดอกเบี้ยต่ำต่อไป เพื่อกระตุ้นการลงทุนตลาดทุน ส่วนเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศในยุโรปนำโดยฝรั่งเศสและเยอรมัน มีการฟื้นตัวค่อนข้างดี ด้านเอเชียแปซิฟิก เศรษฐกิจฮ่องกง สิงคโปร์ และออสเตรเลีย มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากอุปสงค์ในประเทศที่เติบโตต่อเนื่อง การส่งออกสินค้าตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจของจีนและฮ่องกงด้านการค้าและบริการ
โดยจากปัจจัยที่ดีดังกล่าวจะสนับสนุนให้เกิดโอกาสที่ดีในการลงทุนกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว แม้ว่าอาจจะเกิดปัจจัยเสี่ยง เช่น ระดับหนี้สาธารณะและมาตรการรัดเข็มขัดที่สหรัฐต้องดำเนินการท่ามกลางความเห็นที่แตกต่างของสองพรรคการเมือง หรือปัญหาหนี้สาธารณะของกลุ่มประเทศ PIGS (โปรตุเกส ไอร์แลนด์ กรีซ สเปน) ที่อาจมีผลกระทบต่อกลุ่มสหภาพยุโรป เป็นต้น แต่ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนจะสามารถเลือกลงทุนได้ทั้งแบบภูมิภาค ประเทศ ประเภทอุตสาหกรรม หรือขนาดธุรกิจตามช่วงเวลาที่เหมาะสม
สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล ดีเวลลอป มาร์เก็ต สามารถลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 10,000 บาท โดยจะเสนอขายตั้งแต่วันที่ 12-25 พฤษภาคมนี้ ซึ่งภายหลังการเสนอขายครั้งแรก จะเปิดให้ซื้อหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ และขายคืนได้ทุกวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์