บลจ.กรุงไทย มองความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์และผลผลิตทางการเกษตรมีสูง แต่ซับพลายของโลกยังมีอยู่จำกัด ส่งผลให้ธุรกิจการเกษตรได้รับความสนใจจากนักลงทุน จับจังหวะส่งกองทุน "เคแทม เวิลด์ อะกริคัลเจอร์ ฟันด์" ลุยลงทุนหุ้นเกษตรทั่วโลก รวมถึงบริษัทปุ้ยและเครื่องมือทางการเกษตร ชูบริษัท BlackRock Inc. เป็นผู้บริหารกองทุนหลัก เตรียมเปิดขายไอพีโอตั้งแต่วันที่ 12 -25 พฤษภาคม 2554 นี้
มิสเตอร์วีเจย์ ศิวะรามัน ผู้อำนวยการฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ กล่าวว่า ปัจจัยขับเคลื่อนหลักของการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ ยังคงเป็นสภาพ คล่องที่อัดฉีดโดยธนาคารกลางประเทศอุตสาหกรรมหลัก (G10) โดยรวมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและ อัตราเติบโตสูงในประเทศเกิดใหม่ เงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่า และความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์เพื่อป้องกัน อัตราเงินเฟ้อ เป็นปัจจัยสนับสนุนต่อราคาสินค้าสินค้าโภคภัณฑ์ในระยะกลาง อย่างไรก็ดีความเสี่ยงก็คือ การยกเลิกนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในประเทศพัฒนาแล้วโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ซิตี้ยังคงชอบตลาดหุ้นและเชื่อว่าราคาหุ้นยังคงจะปรับตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เรามอง ว่าหุ้นโลกจะปรับตัวตามกำไรต่อหุ้นของหุ้นโลกในปี 2554 เช่นเดียวกับในไตรมาสที่ 1 แม้ว่าจะเกิดความกังวล ทางมหภาค ดัชนีหุ้นโลก MSCI World ยังคงปรับตัวไปตามเป้าหมายสิ้นปีที่ 360 ความผันผวนน่าจะเป็นโอกาส ของนักลงทุน อย่างไรก็ตามเราคาดว่าตลาดหุ้นน่าจะเกิดการปรับฐาน การปรับตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปใน ครั้งที่ผ่านมา เราได้เห็นตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นโดยเฉลี่ย 18% และเกิดการปรับฐานลงมา 9% "เรายังคงเชื่อว่า ตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นตามรูปแบบที่ผ่านมาการลงทุนในกลุ่มธุรกิจการเกษตร ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการมีส่วนร่วมกับการเติบโตในระยะยาว เพิ่มไปจากการลงทุนในตลาดหุ้นโดยรวม อย่างไรก็ดีนักลงทุนจะต้องมีวินัยในการสร้างพอร์ตที่มีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนและปรับให้สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายและสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป" มิสเตอร์วีเจย์กล่าว
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ อะกริคัลเจอร์ ฟันด์ (KTAM World Agriculture Fund (KT-AGRI) ระหว่างวันที่ 12 -25 พฤษภาคม 2554 โดยกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ อะกริคัลเจอร์ ฟันด์ เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิในกองทุนรวมหลัก BlackRock World Agriculture Fund บริหารโดย BlackRock Inc. บริษัทจัดการลงทุนที่มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการสูงถึง 3.56 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ (ข้อมูล ณ สิ้นเดือน ธันวาคม 2553)
โดยกองทุนรวมหลักมีนโยบายลงทุน อย่างน้อย 70% ของกองทุน ในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่ประกอบธุรกิจด้านการเกษตร สารเคมีทางการเกษตร อุปกรณ์และโครงสร้างพื้นฐานสินค้าโภคภัณฑ์ทางการเกษตรและอาหาร ซึ่งรวมถึงเชื้อเพลิงชีวภาพ วิทยาศาสตร์การเพาะปลูก ที่ดินทำการเกษตรและการป่าไม้ โดยทีมงานบริหารที่มีประสบการณ์เป็นที่ยอมรับอย่างสูงในระดับโลก
นายสุทยุต เชื้อพานิช ผู้จัดการฝ่ายการลงทุนตราสารทุน บลจ.กรุงไทย กล่าวว่า ความน่าสนใจของการลงทุนในกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ อะกริคัลเจอร์ ฟันด์ คือเป็นการลงทุนในหุ้นธุรกิจเกษตรทั่วโลก นอกจากจะเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อแล้ว ยังช่วยกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในสินค้าเกษตรแต่เพียงอย่างเดียว เนื่องจากมีธุรกิจการเกษตรหลากหลาย ซึ่งบางประเภทจะได้รับประโยชน์เมื่อราคาสินค้าเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น และบางประเภทอาจได้รับประโยชน์เมื่อราคาสินค้าเกษตรปรับตัวลดลง
นอกจากนี้การที่ประชากรโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่มีกำลังซื้อและความต้องการบริโภคเพิ่มมากขึ้นนั้นจะส่งผลให้ธุรกิจการเกษตรจะต้องเติบโตขึ้นในอัตราเร่งเพื่อรองรับความต้องการดังกล่าว อย่างไรก็ตามปัจจัยที่กล่าวมาแล้วนั้นยังมีปัจจัยในแง่ของสภาพภูมิอากาศก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกด้วย
นางสาวดาราบุษป์ ปภาพจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจ และการตลาด บลจ.กรุงไทย กล่าวเสริมว่า การเสนอขายกองทุนนี้ ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จที่ผ่านมาของกองทุนรวมรายอุตสาหกรรมที่บริษัทได้เสนอขายมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เอ็นเนอร์จี ฟันด์ (KT-ENERGY) ซึ่งบริหารโดย BlackRock เป็นกองทุนรวมรายอุตสาหกรรมกองทุนแรกของบริษัทที่ลงทุนในหุ้นพลังงานทั่วโลก ได้ให้ผลตอบแทนนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (วันที่ 3 กรกฏาคม 2552) สูงถึง 60.43% เทียบกับอัตราอ้างอิงที่ 38.11% (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2554) บริษัทคาดว่ากองทุน KT-AGRI จะเป็นอีกหนึ่งกองทุนที่ผู้ลงทุนมีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่น่าพอใจในระยะยาวเช่นเดียวกัน