xs
xsm
sm
md
lg

ชูผลตอบแทนสูงสู้ดอกเบี้ยขาขึ้น SCBAMโหมขายกองทุนบอนด์โกยเงิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.ไทยพาณิชย์เดินเกมรับดอกเบี้ยขาขึ้น ชูกลยุทธ์จัดสินทรัพย์ผสมตั้งกองทุนบอนด์เอาใจนักลงทุน พร้อมให้ผลตอบแทนสูงจูงใจ ล่าสุด เปิดขายอีก 4 กองทุน โกกยเงินเข้าพอร์ตต่อเนื่อง

นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอยู่ในภาวะขาขึ้น บริษัทจึงยังคงออกกองทุนระยะสั้นอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยใช้กลยุทธ์จัดสินทรัพย์การลงทุนผสมระหว่างพันธบัตรรัฐบาล สถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศในสัดส่วนที่เหมะสม ที่มีความมั่นคงสูงและมีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือสูงหรือเท่ากับ Investment Grade อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในประเทศคงจะปรับขึ้นไปอย่างช้าๆ ในขณะที่ทาง บลจ.ไทยพาณิชย์ยังคงสามารถเสนออัตราผลตอบแทนสุทธิที่สูงกว่า จากความหลากหลายและครบถ้วนกับระยะเวลาของการลงทุนที่เหมาะสม

ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์นี้ จะมีกองทุนใหม่ออกมาอีก 4 กองทุน มูลค่ารวม 22,000 ล้านบาท มีระยะเวลาลงทุน 3 - 6 เดือน ส่วนนโยบายการลงทุนจะมีให้เลือกทั้งที่เป็นเงินฝากธนาคารต่างประเทศผสมกับตราสารหนี้ระยะสั้นไทยเพื่อเพิ่มผลตอบแทน กับกองทุนที่ลงในตราสารระยะสั้นภายในประเทศอย่างเดียว ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ลงทุน
โดยกองทุนที่เปิดจำหน่ายประกอบด้วย กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ 4M1 (SCBFI4M1 ) อายุ 4 เดือน คาดผลตอบแทนประมาณ 2.75% ต่อปี มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอิสราเอล โดยมีอันดับความน่าเชื่อถือจากฟิทช์เรทติ้งส์ อยู่ที่ F1 มีสัดส่วนการลงทุน 55% เงินฝากธนาคาร Union National Bank ในสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรสต์ อันดับความน่าเชื่อถืออยู่ ที่ F1 สัดส่วน 24% และตั๋วแลกเงินธนาคารนครหลวงไทย สัดส่วน 21% อันดับความน่าเชื่อถืออยู่ ที่ F1+ พร้อมปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) เรียบร้อยแล้ว โดยเสนอขายตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 มีนาคม 2554

ส่วนอีก 3 กองทุน จะเสนอขายพร้อมกันระหว่างวันที่ 29 มีนาคม-4 เมษายน 2554 คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ 6M13(SCBFI6M13 ) อายุ 6 เดือน คาดผลตอบแทน 2.75% ต่อปี เน้นลงทุนในเงินฝากธนาคาร HSBC Middle East สัดส่วน 20% เงินฝากธนาคาร Union Nation Bank ในสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรสต์ 25% โดยมีอันดับความน่าเชื่อถือจากฟิทช์เรทติ้งส์ อยู่ที่ F1+/F1 ส่วนที่เหลือลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย 55% ซึ่งได้ปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) เรียบร้อยแล้วและอีก 2 กองทุนเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นในประเทศ อายุ 3 เดือน คือกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ในประเทศ 3M1 (SCBLFI3M1) คาดผลตอบแทน 2.25% ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล 30% เงินฝากธนาคารออมสิน 25% หุ้นกู้ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) 25% และตั๋วแลกเงินธนาคารนครหลวงไทย 20% มีอันดับความน่าเชื่อถือจากฟิทช์เรทติ้งส์อยู่ที่ F1+ และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์พันธบัตรรัฐบาล 3M45 (SCBGB3M45) คาดผลตอบแทน 2.15% ลงทุนในตั๋วเงินคลัง 99% ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากประจำธนาคารไทยพาณิชย์
กำลังโหลดความคิดเห็น