กรุงไทย-แอกซ่า ปัดIPOตลาดหลักทรัพย์ หลังมีข่าวกรุงไทยไฟเขียวแล้ว ระบุไม่ต้องการเงินทุนเพิ่ม แต่หากเป็นไปตามแนวทางของกระคลังก็สามารถทำได้ เชื่อเป็นผลดีในแง่การรับรู้แบรนด์ของบริษัทมากขึ้น ประธานกรรมการ ระบุมีการพิจารณาอยู่เช่นกัน แต่ต้องรอความชัดเจนปลายเดือนนี้
นายไมค์ แพล็กซ์ตัน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด เปิดเผยว่า การที่มีกระแสข่าวเรื่องการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และได้รับความเห็นชอบจากธนาคารกรุงไทยแล้ว ขณะนี้ยังไม่มีอะไรชัดเจน ซึ่งบริษัทเรายังมีเงินทุนที่แข็งแกร่งและไม่จำเป็นต้องระดมทุนเพิ่ม แต่หากเป็นไปตามแผนที่ทางคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) รวมถึงกระทรวงการคลังวางเป้าหมายเอาไว้ ทางบริษัทเชื่อว่าเป็นแนวทางที่ดีและทำให้กรุงไทยแอกซ่าเป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการปรึกษากันที่ประเทศออสเตรเลีย และคาดว่าน่าจะมีความคืบหน้าออกมาประมาณสิ้นเดือนนี้
"ตอนนี้เรายังไม่ความคืบหน้าแต่เรามีเงินทุนเพียงพอไม่จำเป็นต้องไอพีโอ แต่ถ้าต้องทำตามกฎหมายก็เป็นเรื่องดีที่จะได้มีคนรู้จักเรามากขึ้น ซึ่งบริษัทเรามีความโปร่งใส และมีการตรวจสอบดูและอยู่แล้ว แต่ซึ่งที่ต้องทำและคุยกันอยู่ตอนนี้คือการขยายฐานลูกค้ามากกว่า"นายไมค์กล่าว
สำหรับการขยายฐานลูกค้า ถึงแม้บริษัทจะมีการขายผ่านธนาคารกรุงไทยเพิ่มมากขึ้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการขยายฐานผ่านตัวแทนจำหน่ายเช่นกัน ซึ่งความรวมมือกับธนาคารกุรงไทยนับเป็นเรื่องดี เพราะทางธนาคารกรุงไทยนับเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ผลิตภัณฑ์การเงินครบวงจร และช่วยขยายฐานลูกค้าได้
อนึ่ง บริษัท กรุงไทยแอกซ่า ตั้งเป้าการขยายตัวแทนจำหน่าย และเพิ่มศักยภาพของตัวแทนจำหน่าย โดยล่าสุดได้ทำการเปิดศูนย์การอบรมใหม่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการพัฒนาฝ่ายจัดจำหน่ายทุกช่องทางให้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น และยังเป็นการสนับสนุนกลยุทธ์การขยายตลาดสู่ภูมิภาค รองรับการขยายตัวของธุรกิจ และการเพิ่มของจำนวนฝ่ายจัดจำหน่าย สถาบันฝึกอบรมและพัฒนาตัวแทนของกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จัดตั้งเพื่อเป็นศูนย์รวมในการประสานงานหลัก 3 ส่วน ได้แก่ เป็นแหล่งงาน การสรรหาบุคลากร การคัดเลือกฝ่ายขาย และการฝึกอบรม รวมไปถึงเพื่อสนับสนุนการเติบโตด้านการขายและการคงอยู่ของตัวแทนโดยมีการจัดกิจกรรมสรรหาตัวแทนทุกระดับ
โดยตั้งในปี2554 บริษัทกรุงไทย-แอกซ่า มีแผนเพิ่มจำนวนวิทยากรเป็น 80 ท่านเพื่อรองรับการขยายจำนวนของฝ่ายจัดจำหน่ายทั่วประเทศที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว และสนับสนุนให้ตัวแทนมีความรู้ด้านการขายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
นายไมค์ แพล็กซ์ตัน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด เปิดเผยว่า การที่มีกระแสข่าวเรื่องการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และได้รับความเห็นชอบจากธนาคารกรุงไทยแล้ว ขณะนี้ยังไม่มีอะไรชัดเจน ซึ่งบริษัทเรายังมีเงินทุนที่แข็งแกร่งและไม่จำเป็นต้องระดมทุนเพิ่ม แต่หากเป็นไปตามแผนที่ทางคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) รวมถึงกระทรวงการคลังวางเป้าหมายเอาไว้ ทางบริษัทเชื่อว่าเป็นแนวทางที่ดีและทำให้กรุงไทยแอกซ่าเป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการปรึกษากันที่ประเทศออสเตรเลีย และคาดว่าน่าจะมีความคืบหน้าออกมาประมาณสิ้นเดือนนี้
"ตอนนี้เรายังไม่ความคืบหน้าแต่เรามีเงินทุนเพียงพอไม่จำเป็นต้องไอพีโอ แต่ถ้าต้องทำตามกฎหมายก็เป็นเรื่องดีที่จะได้มีคนรู้จักเรามากขึ้น ซึ่งบริษัทเรามีความโปร่งใส และมีการตรวจสอบดูและอยู่แล้ว แต่ซึ่งที่ต้องทำและคุยกันอยู่ตอนนี้คือการขยายฐานลูกค้ามากกว่า"นายไมค์กล่าว
สำหรับการขยายฐานลูกค้า ถึงแม้บริษัทจะมีการขายผ่านธนาคารกรุงไทยเพิ่มมากขึ้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการขยายฐานผ่านตัวแทนจำหน่ายเช่นกัน ซึ่งความรวมมือกับธนาคารกุรงไทยนับเป็นเรื่องดี เพราะทางธนาคารกรุงไทยนับเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ผลิตภัณฑ์การเงินครบวงจร และช่วยขยายฐานลูกค้าได้
อนึ่ง บริษัท กรุงไทยแอกซ่า ตั้งเป้าการขยายตัวแทนจำหน่าย และเพิ่มศักยภาพของตัวแทนจำหน่าย โดยล่าสุดได้ทำการเปิดศูนย์การอบรมใหม่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการพัฒนาฝ่ายจัดจำหน่ายทุกช่องทางให้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น และยังเป็นการสนับสนุนกลยุทธ์การขยายตลาดสู่ภูมิภาค รองรับการขยายตัวของธุรกิจ และการเพิ่มของจำนวนฝ่ายจัดจำหน่าย สถาบันฝึกอบรมและพัฒนาตัวแทนของกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จัดตั้งเพื่อเป็นศูนย์รวมในการประสานงานหลัก 3 ส่วน ได้แก่ เป็นแหล่งงาน การสรรหาบุคลากร การคัดเลือกฝ่ายขาย และการฝึกอบรม รวมไปถึงเพื่อสนับสนุนการเติบโตด้านการขายและการคงอยู่ของตัวแทนโดยมีการจัดกิจกรรมสรรหาตัวแทนทุกระดับ
โดยตั้งในปี2554 บริษัทกรุงไทย-แอกซ่า มีแผนเพิ่มจำนวนวิทยากรเป็น 80 ท่านเพื่อรองรับการขยายจำนวนของฝ่ายจัดจำหน่ายทั่วประเทศที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว และสนับสนุนให้ตัวแทนมีความรู้ด้านการขายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
