บลจ.ทหารไทยระบุ นักลงทุนโยกเงินลงทุนเข้าตลาดสหรัฐและยุโรป เหตุราคาไม่แพง ขณะที่ตลาดเกิดใหม่ยังเจอแรงกดดันจากเงินเฟ้อ ระบุ หากปัจจัยเสี่ยงลดลง ตลาดน่าจะเดินต่อไปได้ในปีนี้
นายชัยพฤกษ์ กุลกาญจนาธร ผู้จัดการกองทุนอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บลจ. ทหารไทยจำกัด กล่าวว่า จากภาวะเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาและส่งผลต่อหลายภูมิภาคโดยเฉพาะประเทศเกิดใหม่อย่างจีนนั้น อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นมากขณะเดียวกันเศรษฐกิจของจีนมีอัตราการเติบโตที่สูง แม้ว่าทางรัฐบาลจีนจะออกมาตรการเข้มงวดควบคุมการเติบโตของเศรษฐกิจแล้ว โดยอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นนั้นทางรัฐบาลได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยและยังคงปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นของจีนอยู่
อย่างไรก็ตามมมองว่า มาตรการของรัฐบาลจีนยังเป็นมาตรการที่ดี เศรษฐกิจยังคงมีการเติบโตต่อไปได้ ซึ่งโดยภาพรวมแล้วหากปัจจัยเสี่ยงหมดลงไปตลาดหุ้นจีนน่าจะเดินหน้าต่อไปได้
ขณะเดียวกันในส่วนของตลาดเกิดใหม่นั้น อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นทำให้มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเนื่องจากในปีที่ผ่านมาการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ให้ตอบแทนที่ดี ทำให้ในปีนี้มีการถอนเงินลงทุนออกจากตลาดเกิดใหม่ไปลงทุนในตลาดอื่นอย่างสหรัฐฯและยุโรป ซึ่งขณะนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯและยุโรปในบางประเทศมีผลการดำเนินงานที่ดี เนื่องจากในปีที่ผ่านมาไม่ดีนัก และตอนนี้ราคาไม่แพง จึงมองว่าแนวโน้มในปีนี้น่าปรับตัวขึ้นต่อไปได้อีก
สำหรับ บลจ. ทหารไทย มีกองทุนที่ลงทุนอยู่ในสหรัฐฯและยุโรป คือกองทุนเปิดทหารไทย World Equity Index ต้นปีมานี้กองทุนมีผลการดำงานปรับตัวบวกขึ้น โดน ณ วันที่ 11 มีนาคม ที่ผ่านมากองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 6.52% เทียบกับดัชนี MSCI World (สกุลเงินยูโร)อยู่ที่ 0.91% และย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 13.58% เทียบกับดัชนีอยู่ที่ 6.67% และเมื่อเทียบกับ ดัชนี MSCI World (สกุลเงินบาท) อยู่ที่ 6.28% และ13.95% ตามลำดับ
"การที่เงินทุนเข้าไปลงทุนในสหรัฐฯและยุโรปนั้น เป็นการย้ายเงินไปลงทุนในที่ที่ถูกกว่า ซึ่งถ้าปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจลดลงไปตลาดหุ้นก็น่าจะไปต่อได้" นายชัยพฤกษ์ กล่าว
ทั้งนี้ประเทศฝรั่งเศสออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจฝรั่งเศสจะสามารถขยายตัวได้ตามเป้าในปีนี้ โดยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของประเทศจะขยายตัว 2% ในปีนี้ จากระดับ 1.5% ในปีที่แล้วและตั้งเป้าเพิ่มการขยายตัวของเศรษฐกิจขึ้นสู่ระดับ 2.5% ในระหว่างปี 2555 - 2557 ขณะที่ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อเศราฐกิจของฝรั่งเศส แม้ว่าปัจจุบันราคาน้ำมันปิโตรเลียมมีราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.5 ยูโร (2 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อลิตร
นายชัยพฤกษ์ กุลกาญจนาธร ผู้จัดการกองทุนอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บลจ. ทหารไทยจำกัด กล่าวว่า จากภาวะเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาและส่งผลต่อหลายภูมิภาคโดยเฉพาะประเทศเกิดใหม่อย่างจีนนั้น อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นมากขณะเดียวกันเศรษฐกิจของจีนมีอัตราการเติบโตที่สูง แม้ว่าทางรัฐบาลจีนจะออกมาตรการเข้มงวดควบคุมการเติบโตของเศรษฐกิจแล้ว โดยอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นนั้นทางรัฐบาลได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยและยังคงปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นของจีนอยู่
อย่างไรก็ตามมมองว่า มาตรการของรัฐบาลจีนยังเป็นมาตรการที่ดี เศรษฐกิจยังคงมีการเติบโตต่อไปได้ ซึ่งโดยภาพรวมแล้วหากปัจจัยเสี่ยงหมดลงไปตลาดหุ้นจีนน่าจะเดินหน้าต่อไปได้
ขณะเดียวกันในส่วนของตลาดเกิดใหม่นั้น อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นทำให้มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเนื่องจากในปีที่ผ่านมาการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ให้ตอบแทนที่ดี ทำให้ในปีนี้มีการถอนเงินลงทุนออกจากตลาดเกิดใหม่ไปลงทุนในตลาดอื่นอย่างสหรัฐฯและยุโรป ซึ่งขณะนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯและยุโรปในบางประเทศมีผลการดำเนินงานที่ดี เนื่องจากในปีที่ผ่านมาไม่ดีนัก และตอนนี้ราคาไม่แพง จึงมองว่าแนวโน้มในปีนี้น่าปรับตัวขึ้นต่อไปได้อีก
สำหรับ บลจ. ทหารไทย มีกองทุนที่ลงทุนอยู่ในสหรัฐฯและยุโรป คือกองทุนเปิดทหารไทย World Equity Index ต้นปีมานี้กองทุนมีผลการดำงานปรับตัวบวกขึ้น โดน ณ วันที่ 11 มีนาคม ที่ผ่านมากองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 6.52% เทียบกับดัชนี MSCI World (สกุลเงินยูโร)อยู่ที่ 0.91% และย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 13.58% เทียบกับดัชนีอยู่ที่ 6.67% และเมื่อเทียบกับ ดัชนี MSCI World (สกุลเงินบาท) อยู่ที่ 6.28% และ13.95% ตามลำดับ
"การที่เงินทุนเข้าไปลงทุนในสหรัฐฯและยุโรปนั้น เป็นการย้ายเงินไปลงทุนในที่ที่ถูกกว่า ซึ่งถ้าปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจลดลงไปตลาดหุ้นก็น่าจะไปต่อได้" นายชัยพฤกษ์ กล่าว
ทั้งนี้ประเทศฝรั่งเศสออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจฝรั่งเศสจะสามารถขยายตัวได้ตามเป้าในปีนี้ โดยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของประเทศจะขยายตัว 2% ในปีนี้ จากระดับ 1.5% ในปีที่แล้วและตั้งเป้าเพิ่มการขยายตัวของเศรษฐกิจขึ้นสู่ระดับ 2.5% ในระหว่างปี 2555 - 2557 ขณะที่ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อเศราฐกิจของฝรั่งเศส แม้ว่าปัจจุบันราคาน้ำมันปิโตรเลียมมีราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.5 ยูโร (2 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อลิตร
