บลจ.อเบอร์ดีน ระบุ เงินเฟ้อในจีนแผ่นดินใหญ่กระทบตลาดฮ่องกงเล็กน้อยขณะที่กองหุ้นจีนโตไปตามเศรษฐกิจโลก เผย ทิศทางดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าไม่กระทบกอง FIF
นายชัยเกษม วัฒนศิริพงษ์ หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อในประเทศจีนที่อยู่ในระดับสูงนั้น เป็นการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อที่มีอยู่ในเฉพาะประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ขณะที่ประเทศฮ่องกงนั้นเงินเฟ้อไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้นมากแต่อย่างใด จึงไม่ส่งผลกระทบต่อกองทุนของอเบอร์ดีนที่ลงทุนในประเทศจีนมากแต่อย่างใด เนื่องจากลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกง และบริษัทที่ลงทุนนั้นได้รับอานิสงส์จากการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ดังนั้นหากเศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯและยุโรป เติบโตกองทุนก็จะเติบโตตามไปด้วย
โดยผลกระทบจากเรื่องของเงินเฟ้อและมาตรการลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจประเทศจีนนั้น อาจจะส่งผลกระทบกระทบต่อฮ่องกงบ้าง แต่น้อยกว่าในจีนแผ่นเดินใหญ่
"เศรษฐกิจของฮ่องกงผูกติดกับเศรษฐกิจโลก ดังนั้นกองหุ้นจีนที่อเบอร์ดีนลงทุนอยู่นั้น จึงได้อานิงสงส์เติบโตไปตามเศรษฐกิจโลก" นายชัยเกษม กล่าว
สำนักงานวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจของจีน เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า ภาวะเงินเฟ้อในเดือนกุมภาพันธ์ ได้ชะลอตัวลง หลังจากนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า แถลงว่า การควบคุมราคาสินค้าเป็นภารกิจหลักของรัฐบาลในปีนี้ ซึ่งในเดือนธันวาคมและมกราคมที่ผ่านมา อัตราราคาสินค้าเพิ่มขึ้นต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย แต่ตัวเลขในเดือนกุมภาพันธ์ยังไม่ปรากฏออกมา ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคหรือซีพีไอในเดือนกุมภาพันธ์อาจลดต่ำลง
ทั้งนี้ จีนประกาศเมื่อเดือนที่แล้วว่า ภาวะเงินเฟ้อในเดือนมกราคม ยังคงอยู่ระดับสูงที่ร้อยละ 4.9 แม้ว่าจะใช้หลายมาตรการในการควบคุมราคาสินค้าก็ตาม ขณะที่ ทางการฮ่องกงได้แก้ปัญหาเงินเฟ้อโดยประกาศว่าจะงดเว้นการเก็บค่าเช่าบ้านการเคหะฯ เป็นเวลา 2 เดือน พร้อมกับสนับสนุนเงินค่าไฟฟ้าให้กับผู้พักอาศัย และแถมเงินสดเข้ากองทุนเลี้ยงชีพ 6,000 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อหัวหลังจากอัตราเงินเฟ้อได้ปรับตัวสูงขึ้นถึงระดับ 4.5% ที่รัฐบาลประเมินไว้ในปีนี้
สำหรับ เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวดีขึ้นและมีเงินทุนกลับเข้าไปลงทุน แต่ยังมีตัวเลขการว่างงานที่สูงรวมทั้งเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง โดยกองทุน ต่างประเทศของอเบอร์ดีนลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มองว่าไม่ได้เป็นผลกระทบหลักต่อกองทุนแต่อย่างใดแต่เป็นในเรื่องของราคาหุ้นที่ลงทุนอยู่มากกว่า อย่างไรก็ตามมองว่า เมื่อเทียบตราสารทางการเงินระหว่างสหรัฐฯกับประเทศในเอเชียแล้วตราสารทางการเงินในเอเชียมีความน่าสนใจและยังอยู่ในทิศทางที่ดี
นายชัยเกษม วัฒนศิริพงษ์ หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อในประเทศจีนที่อยู่ในระดับสูงนั้น เป็นการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อที่มีอยู่ในเฉพาะประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ขณะที่ประเทศฮ่องกงนั้นเงินเฟ้อไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้นมากแต่อย่างใด จึงไม่ส่งผลกระทบต่อกองทุนของอเบอร์ดีนที่ลงทุนในประเทศจีนมากแต่อย่างใด เนื่องจากลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกง และบริษัทที่ลงทุนนั้นได้รับอานิสงส์จากการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ดังนั้นหากเศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯและยุโรป เติบโตกองทุนก็จะเติบโตตามไปด้วย
โดยผลกระทบจากเรื่องของเงินเฟ้อและมาตรการลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจประเทศจีนนั้น อาจจะส่งผลกระทบกระทบต่อฮ่องกงบ้าง แต่น้อยกว่าในจีนแผ่นเดินใหญ่
"เศรษฐกิจของฮ่องกงผูกติดกับเศรษฐกิจโลก ดังนั้นกองหุ้นจีนที่อเบอร์ดีนลงทุนอยู่นั้น จึงได้อานิงสงส์เติบโตไปตามเศรษฐกิจโลก" นายชัยเกษม กล่าว
สำนักงานวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจของจีน เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า ภาวะเงินเฟ้อในเดือนกุมภาพันธ์ ได้ชะลอตัวลง หลังจากนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า แถลงว่า การควบคุมราคาสินค้าเป็นภารกิจหลักของรัฐบาลในปีนี้ ซึ่งในเดือนธันวาคมและมกราคมที่ผ่านมา อัตราราคาสินค้าเพิ่มขึ้นต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย แต่ตัวเลขในเดือนกุมภาพันธ์ยังไม่ปรากฏออกมา ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคหรือซีพีไอในเดือนกุมภาพันธ์อาจลดต่ำลง
ทั้งนี้ จีนประกาศเมื่อเดือนที่แล้วว่า ภาวะเงินเฟ้อในเดือนมกราคม ยังคงอยู่ระดับสูงที่ร้อยละ 4.9 แม้ว่าจะใช้หลายมาตรการในการควบคุมราคาสินค้าก็ตาม ขณะที่ ทางการฮ่องกงได้แก้ปัญหาเงินเฟ้อโดยประกาศว่าจะงดเว้นการเก็บค่าเช่าบ้านการเคหะฯ เป็นเวลา 2 เดือน พร้อมกับสนับสนุนเงินค่าไฟฟ้าให้กับผู้พักอาศัย และแถมเงินสดเข้ากองทุนเลี้ยงชีพ 6,000 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อหัวหลังจากอัตราเงินเฟ้อได้ปรับตัวสูงขึ้นถึงระดับ 4.5% ที่รัฐบาลประเมินไว้ในปีนี้
สำหรับ เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวดีขึ้นและมีเงินทุนกลับเข้าไปลงทุน แต่ยังมีตัวเลขการว่างงานที่สูงรวมทั้งเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง โดยกองทุน ต่างประเทศของอเบอร์ดีนลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มองว่าไม่ได้เป็นผลกระทบหลักต่อกองทุนแต่อย่างใดแต่เป็นในเรื่องของราคาหุ้นที่ลงทุนอยู่มากกว่า อย่างไรก็ตามมองว่า เมื่อเทียบตราสารทางการเงินระหว่างสหรัฐฯกับประเทศในเอเชียแล้วตราสารทางการเงินในเอเชียมีความน่าสนใจและยังอยู่ในทิศทางที่ดี