บลจ. ทหารไทย ระบุ หุ้นครึ่งปีแรกโดนเงินเฟ้อกดดันแต่ครึ่งปีหลังวิ่งต่อไปได้ถึงปีหน้า คาดบริษัทจดทะเบียนปีนี้ผลประกอบยังดีโตได้ประมาณ 14-16% ขณะที่ราคาน้ำมันระยะสั้นยังไม่กระทบเศรษฐกิจโลก
นายชัยพฤกษ์ กุลกาญจนาธร ผู้จัดการกองทุนอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มขึ้นมา รวมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อคุมเงินเฟ้อนั้น ยังเป็นปัจจัยกดดันต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีแรกนี้ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาครวมถึงตลาดเกิดใหม่ที่แบงก์ชาติมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แต่ในช่วงครึ่งปีหลัง แนวโน้มของตลาดหุ้นไทยน่าปรับตัวขึ้นมาได้จากเงินเฟ้ออาจไม่สูงขึ้นมาก และอาจจะโตต่อเนื่องไปถึงปีหน้า ขณะที่ บริษัทจดทะเบียน คาดว่าในปีนี้น่าจะมีผลประกอบการเติบโตอยู่ที่ระดับ 14 -16% และเติบโตต่อเนื่องในปีหน้าที่ระดับ 16-18%
ทั้งนี้ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นมานั้น มองว่า หากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวราคาน้ำมันก็จะเพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจที่เติบโตรวมถึงเงินเฟ้อด้วยเช่นกัน แต่ราคาน้ำมันในช่วงนี้ปรับตัวแพงเกินไป ซึ่งเป็นผลมาจากการประท้วงของประเทศในตะวันออกกลาง แต่หากสถานการณ์การประท้วงจบลง ราคาน้ำมันอาจโดนแรงเทขายกำไรออกมา ทำให้ราคาน้ำมันอาจปรับตัวลดลงได้ อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันในช่วงระยะสั้นนี้ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อออกไป อาจทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวได้ไม่ดีนักและยังส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นด้วย
นายชัยพฤกษ์ กล่าวว่า ในส่วนของกองทุนเปิด MTrack Energy ETF นั้น ในปีที่ผ่านมาผลการดำเนินงานปรับตัวต่ำกว่าตลาด จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง แต่ในปีนี้พลังงานได้ปรับตัวขึ้นมาผลส่งผลให้ราคาหุ้นพลังงานขณะนี้ถือว่าไม่ถูกแต่ไม่แพง หากนักลงทุนมองว่าราคาน้ำมันน่าจะปรับตัวขึ้นต่อไปได้อีกก็ถือเป็นจังหวะที่ดี
"แนวโน้มราคาน้ำมันในปีนี้คงไม่ปรับตัวลดลงไปมาก เพราะอยู่ในช่วงที่ราคาเป็นขาขึ้นดังนั้นหุ้นกลุ่มพลังงานน่าจะวิ่งใกล้เคียงกับตลาดได้" นายชัยพฤกษ์ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุนเปิด MTrack Energy ETF ล่าสุด ณ วันที่ 9 มีนาคม 2554 กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 3.40% เทียบกับดัชนี SET Energy & Utilities Sector Index อยู่ที่ 2.86% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 22.03% เทียบกับดัชนีอยู่ที่ 23.00% และ ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 39.41% เทียบกับดัชนีอยู่ที่ 39.18%
นายชัยพฤกษ์ กุลกาญจนาธร ผู้จัดการกองทุนอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มขึ้นมา รวมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อคุมเงินเฟ้อนั้น ยังเป็นปัจจัยกดดันต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีแรกนี้ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาครวมถึงตลาดเกิดใหม่ที่แบงก์ชาติมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แต่ในช่วงครึ่งปีหลัง แนวโน้มของตลาดหุ้นไทยน่าปรับตัวขึ้นมาได้จากเงินเฟ้ออาจไม่สูงขึ้นมาก และอาจจะโตต่อเนื่องไปถึงปีหน้า ขณะที่ บริษัทจดทะเบียน คาดว่าในปีนี้น่าจะมีผลประกอบการเติบโตอยู่ที่ระดับ 14 -16% และเติบโตต่อเนื่องในปีหน้าที่ระดับ 16-18%
ทั้งนี้ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นมานั้น มองว่า หากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวราคาน้ำมันก็จะเพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจที่เติบโตรวมถึงเงินเฟ้อด้วยเช่นกัน แต่ราคาน้ำมันในช่วงนี้ปรับตัวแพงเกินไป ซึ่งเป็นผลมาจากการประท้วงของประเทศในตะวันออกกลาง แต่หากสถานการณ์การประท้วงจบลง ราคาน้ำมันอาจโดนแรงเทขายกำไรออกมา ทำให้ราคาน้ำมันอาจปรับตัวลดลงได้ อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันในช่วงระยะสั้นนี้ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อออกไป อาจทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวได้ไม่ดีนักและยังส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นด้วย
นายชัยพฤกษ์ กล่าวว่า ในส่วนของกองทุนเปิด MTrack Energy ETF นั้น ในปีที่ผ่านมาผลการดำเนินงานปรับตัวต่ำกว่าตลาด จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง แต่ในปีนี้พลังงานได้ปรับตัวขึ้นมาผลส่งผลให้ราคาหุ้นพลังงานขณะนี้ถือว่าไม่ถูกแต่ไม่แพง หากนักลงทุนมองว่าราคาน้ำมันน่าจะปรับตัวขึ้นต่อไปได้อีกก็ถือเป็นจังหวะที่ดี
"แนวโน้มราคาน้ำมันในปีนี้คงไม่ปรับตัวลดลงไปมาก เพราะอยู่ในช่วงที่ราคาเป็นขาขึ้นดังนั้นหุ้นกลุ่มพลังงานน่าจะวิ่งใกล้เคียงกับตลาดได้" นายชัยพฤกษ์ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุนเปิด MTrack Energy ETF ล่าสุด ณ วันที่ 9 มีนาคม 2554 กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 3.40% เทียบกับดัชนี SET Energy & Utilities Sector Index อยู่ที่ 2.86% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 22.03% เทียบกับดัชนีอยู่ที่ 23.00% และ ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 39.41% เทียบกับดัชนีอยู่ที่ 39.18%
