บลจ.ทหารไทยเผย ยังไม่ได้หนังสือฟ้องจากบริษัทป่าเกาะ ตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ ล่าสุด เดินหน้าจ่ายปันผลกว่า 69.34 ล้านบาทไปแล้ว โดย 10.59 ล้านบาทมาจากหน่วยลงทุนจำนวน 30 ล้านหน่วยที่ป่าเกาะจำนำไว้ พร้อมส่งหนังสือแจ้งไปยัง "ป่าเกาะ" ให้มาไถ่ถอนหน่วยลงทุน ภายใน 15 วัน ก่อนจะบังคับจำนำโดยการขายทอดตลาดหน่วยลงทุน
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ (LUXF) ชี้แจงว่า กรณีที่บริษัทป่าเกาะจะฟ้องร้องกองทุนรวมและบริษัทจัดการนั้น ทางบลจ.ยังไม่ได้รับหมายใดๆจากการฟ้องร้องดังกล่าวจึงยังไม่สามารถให้ความเห็นใดเกี่ยวกับข่าวสารดังกล่าวให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนได้ ณ ขณะนี้
อย่างไรก็ตาม บลจ.ได้ดำเนินการจ่ายเงินปันผลจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 69.34 ล้านบาท สำหรับงวดการดำเนินการ 1 กรกฎาคม 2553 - 31 ธันวาคม 2553 ตามกำหนด เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2554 โดยได้โอนเงินปันผล และ/หรือจัดส่งเช็คจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยตามสิทธิและความประสงค์ที่ได้แจ้งไว้กับนายทะเบียนของกองทุนรวมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยในจำนวนเงินปันผล 69.34 ล้านบาทข้างต้น บลจ.ได้ดำเนินการนำเงินปันผลจำนวนประมาณ 10.59 ล้านบาทของหน่วยลงทุนจำนวน 30 ล้านหน่วย ที่บริษัท โรงแรม ป่าเกาะ จำกัด (ป่าเกาะ) ได้จำนำไว้กับกองทุนรวมเข้าบัญชีเงินสดหลักประกันภายในวันเดียวกัน ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามข้อตกลงภายใต้สัญญาจำนำ
นอกจากนี้ ในวันเดียวกันบลจ.ทหารไทยได้เริ่มกระบวนการบังคับจำนวนหน่วยลงทุนโดยให้ทนายความส่งหนังสือบอกกล่าวไปยังป่าเกาะในฐานะผู้จำนำหน่วยลงทุน แจ้งให้ป่าเกาะนำเงินจำนวนประมาณ 53.38 ล้านบาท มาไถ่ถอนหน่วยลงทุนในราคาที่ตราไว้ 10 บาทต่อหน่วย ภายในเวลา 15วันทำการนับตั้งแต่ได้รับหนังสือทวงถาม โดยเมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวบริษัทจัดการจะดำเนินการบังคับจำนำโดยการขายทอดตลาดหน่วยลงทุนในวันและสถานที่ที่บริษัทจัดการจะกำหนดภายหลัง
รายงานข่าวจากบลจ.ทหารไทย ระบุต่อว่า ทั้งนี้ควบคู่กับการบังคับจำนำดังกล่าว บริษัทจัดการจะยังคงดำเนินการฟ้องร้องให้ ป่าเกาะ ปฎิบัติตามสัญญาและเรียกร้องความเสียหายและค่าใช้จ่ายใดๆที่เกิดขึ้นกับกองทุนและบริษัทจัดการจากการผิดนัดตามสัญญาตกลงกระทำการของป่าเกาะ
อย่างไรก็ตาม บลจ.ยินดีจะพิจารณารับข้อเสนอใดๆ จากป่าเกาะ ในการเยียวยาและชดใช้ผลจากการผิดสัญญาที่เกิดขึ้นโดยจะพิจารณาบนพื้นฐานของความเป็นธรรมและคำนึงผลประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นสำคัญ อย่างไรก็ดี บริษัทจัดการยังไม่ได้รับข้อเสนอในการเยียวยาใดๆ จากป่าเกาะแต่ประการใด หลังจากการจ่ายเงินปันผลตามข้อ 1 และ นำเงินปันผลภายใต้สัญญาจำนำเข้าบัญชีเงินสดหลักประกันตามข้อ 2 ข้างต้น จะทำให้กองทุนรวมมีเงินจำนวนทั้งสิ้น 35,507,649.92 บาท ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554