นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) (TMB) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการของธนาคารเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบในการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2553 ให้กับผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.015 บาทต่อหุ้น ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะต้องนำเสนอเรื่องดังกล่าวให้กับที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2553 ของธนาคารที่จะจัดขึ้นในวันที่ 8 เมษายนนี้
โดยวันที่ 20 เมษายน 2554 จะเป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิจะได้รับเงินปันผล ( Record Date) และวันที่ 21 เมษายน 2554 เป็นวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้น โดยจะมีการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 4 พฤษภาคม 2554
"ที่ประชุมบอร์ดอนุมัติให้ธนาคารจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ในอัตราหุ้นละ 0.015 บาทซึ่งจะถือเป็นการจ่ายเงินปันผลของธนาคารเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540"
ทั้งนี้ ในงวดการดำเนินงานปี 2553 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 3,202 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 64.6 % จากปีก่อนหน้า เทียบเท่ากับกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.06 บาท และในไตรมาสที่ 2/2553 ธนาคารยังได้ดำเนินการปรับปรุงทางบัญชีเพื่อล้างขาดทุนสะสมให้เสร็จสิ้นลง นับเป็นการเปิดโอกาสให้ธนาคารพิจารณาที่จะจ่ายเงินปันผลได้
อนึ่ง ธนาคารมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 41 , 352 ล้านบาท จำนวนหุ้นสามัญจดทะเบียน 43 ,529 ล้านหุ้น ในราคาพาร์หุ้นละ 0.95 บาท มีจำนวนผู้ถือหุ้นรวม ประมาณ 65 ,000 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยประมาณ 56,000 ราย ผู้ถือหุ้นหลักของธนาคารประกอบด้วยกระทรวงการคลัง และไอเอ็นจี
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์สุทธิ 589 ,592 ล้านบาท และดำรงฐานะเงินกองทุนตามเกณฑ์ Basel II ที่ 16.6 % โดยสูงกว่าเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยที่กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ดำรงอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงไม่ต่ำกว่า 8.5 %
โดยวันที่ 20 เมษายน 2554 จะเป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิจะได้รับเงินปันผล ( Record Date) และวันที่ 21 เมษายน 2554 เป็นวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้น โดยจะมีการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 4 พฤษภาคม 2554
"ที่ประชุมบอร์ดอนุมัติให้ธนาคารจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ในอัตราหุ้นละ 0.015 บาทซึ่งจะถือเป็นการจ่ายเงินปันผลของธนาคารเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540"
ทั้งนี้ ในงวดการดำเนินงานปี 2553 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 3,202 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 64.6 % จากปีก่อนหน้า เทียบเท่ากับกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.06 บาท และในไตรมาสที่ 2/2553 ธนาคารยังได้ดำเนินการปรับปรุงทางบัญชีเพื่อล้างขาดทุนสะสมให้เสร็จสิ้นลง นับเป็นการเปิดโอกาสให้ธนาคารพิจารณาที่จะจ่ายเงินปันผลได้
อนึ่ง ธนาคารมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 41 , 352 ล้านบาท จำนวนหุ้นสามัญจดทะเบียน 43 ,529 ล้านหุ้น ในราคาพาร์หุ้นละ 0.95 บาท มีจำนวนผู้ถือหุ้นรวม ประมาณ 65 ,000 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยประมาณ 56,000 ราย ผู้ถือหุ้นหลักของธนาคารประกอบด้วยกระทรวงการคลัง และไอเอ็นจี
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์สุทธิ 589 ,592 ล้านบาท และดำรงฐานะเงินกองทุนตามเกณฑ์ Basel II ที่ 16.6 % โดยสูงกว่าเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยที่กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ดำรงอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงไม่ต่ำกว่า 8.5 %