xs
xsm
sm
md
lg

เศรษฐกิจมังกรดันตลาดหุ้นร้อนแรง กูรูแนะทยอยเก็บกองทุนจีนเข้าพอร์ต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นักวิเคราะห์กองทุนรวมมองเศรษฐกิจของจีนยังโตต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนยังร้อนแรงแม้จะมีมาตรการควบคุมเงินเฟ้อออกมาในระยะสั้น แต่ระยะยะยาวตลาดหุ้นจีนยังน่าสนใจ แนะนักลงทุนทยอยเก็บกองทุนหุ้นจีนเข้าพอร์ต พร้อมเตือนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด

นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การลงทุนในเดือนมกราคม เราคาดว่าการลงทุนจะเริ่มกลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้งหลังช่วงปลายปีเห็นการชะลอตัวลงก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวและ จากการขายเพื่อปรับพอร์ตการลงทุนก่อนสิ้นปีของนักลงทุนสถาบันในหลายๆตลาด โดยในเดือนมกราคม ประเด็นที่คาดว่าจะสร้างความผันผวนให้กับตลาดได้ก็ยังหนีไม่พ้นประเด็นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ, ปัญหาหนี้ในยุโรป และสถานการณ์ที่ยืดเยื้อในคาบสมุทรเกาหลี นอกจากนี้จีนยังเป็นอีกประเทศที่สร้างความผันผวนได้ไม่น้อยในช่วงที่ผ่านมาจากความกังวลเกี่ยวกับการออกมาตรการชะลอเงินเฟ้อ เป็นต้น

อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจของจีน นั้นเป็นสิ่งที่ตลาดทั่วโลกจับตาที่สุดก็หนีไม่พ้นเรื่องเงินเฟ้อและการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่เป็นผลจากการควบคุมระดับราคา ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์สำหรับปี 2553-25554 ของจีนอยู่ที่ 3.3% และ 4.0%ตามลำดับ ซึ่งยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำเมื่อเทียบกับการขยายตัวอย่างร้อนแรงในช่วงปี 2550-51 ที่ 4.8% และ 5.9% ในแง่การเติบโต เรามองว่าพื้นฐานของจีนยังคงแข็งแกร่ง โดยจากตัวเลขประมาณการของ IMF เศรษฐกิจจีนในปี 2553-54 จะขยายตัวได้ในระดับ 10.5%, 9.6% และ 9.5%ตามลำดับ ซึ่งชะลอตัวลงจากการเติบโตเฉลี่ย 5 ปีในช่วง 2548-2552 ที่ 11.4% เล็กน้อย ซึ่งเรามองว่า การชะลอลงดังกล่าวสะท้อนความพยามในการลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจ

ขณะเดียวกันอัตราการเติบโตที่ระดับ 9-10% นั้นก็ยังถือเป็นการเติบโตที่สูง จีนจึงเหมาะที่จะเป็น แหล่งลงทุนสำหรับนักลงทุนที่มีเป้าหมายการลงทุนระยะกลาง-ยาวและสามารถรับความผันผวนระยะสั้นได้กองทุนหุ้นจีนที่เราแนะนำ ได้แก่ ABCG หรือ Aberdeen China Gateway Fund ของบลจ.Aberdeenโดยกอง ABCG จะไปลงทุนในกองทุนหลัก Aberdeen Global-Chinese Equity Fund เพียงกองเดียวสำหรับกองทุนหลักนั้นเป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นจีนผ่านตลาดหุ้นฮ่องกง

นอกเหนือจากการเลือกหุ้นกลุ่มที่สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตและแผนพัฒนาเศรษฐกิจของจีนไม่ว่าจะเป็นด้านการบริโภคภายในประเทศ การพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน และการยกระดับเทคโนโลยีแล้ว กองทุนหลักยังเน้นเลือกหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำ จึงช่วยลดความเสี่ยงจาก downside risk ได้ค่อนข้างดี เหมาะกับภาวะตลาดจีนที่ค่อนข้างผันผวน ซึ่งจะเห็นว่าในช่วงที่ตลาดปรับตัวลดลง โดยอัตราการลดลงของNAV ของกองทุน ABCG มีแนวโน้มต่ำกว่าอัตราการลดลงของดัชนีฮ่องกง Hang Seng (HSKI) อย่างไรก็ตามกองทุน ABCG ไม่มีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน นักลงทุนควรรับความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน และศึกษาผลกระทบให้ดีก่อนการลงทุน แต่หากดูจากผลการดำเนินงานย้อนหลังที่ได้รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว เรายังเชื่อว่ากองทุนยังสามารถสร้างผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจได้ในภาวะที่อัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวน

ทั้งนี้ในช่วงปลายเดือนมค. 54 อาจเห็นการชะลอตัวของตลาดหุ้นจีนรวมถึงฮ่องกงได้อีกครั้งในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีนเพราะอาจมีการขายทำกำไรก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวของนักลงทุน นอกจากนี้ในระยะสั้น คาดว่าตลาดจะยังเผชิญกับเเรงกดดันด้านเงินเฟ้อจากผลของฤดูหนาวและการจับจ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่อาจทำให้ราคาสินค้าเร่งตัวขึ้น ดังนั้นตลาดหุ้นอาจผันผวนตามความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นเพดานกันสำรองของธนาคารพาณิชย์หรืออัตราดอกเบี้ยได้ ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าตลาดหุ้นจีนมีแนวโน้มปรับตัวลดลงตามข่าวหรือความกังวลเกี่ยวกับการใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดเพื่อควบคุมสภาพคล่อง

"เรามองว่านี่เป็นเพียงความผันผวนระยะสั้น ในทางกลับกัน ช่วงที่ตลาดปรับตัวลดลงด้วยความกังวลดังกล่าวกลับถือเป็นจังหวะที่น่าเข้าสะสมเพื่อการลงทุนระยะยาว นักลงทุนจึงควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยสามารถติดตามภาวะตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงเพื่อหาจังหวะในการเข้าสะสม รวมถึงสถานหารณ์ตลาดหลักอื่นๆ"นายสานุพงศ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น