บลจ.ทหารไทย ชี้ แนวโน้มการลงทุนปี 54 เม็ดเงินต่างชาติยังวิ่งเข้าเอเชีย - ละติน ขณะที่กองทุนตราสารหนี้ในประเทศไทยยังน่าลงทุน เล็งเพิ่มทุนกองทุน Global Bond Fund อีกในปีนี้
นายไพศาล ครุฑดำรงชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในยุโรปและสหรัฐฯนั้นซึ่งในขณะนี้ก็ยังไม่ได้เข้าสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้แนวโน้มของการลงทุนในปีนี้ยังคงเป็นไปในแบบเดียวกับปีที่ผ่านมา นั่นคือ เม็ดเงินลงทุนจะยังไหลเข้ามาลงทุนในภูมิภาคเอเชียกับละตินอเมริกาเหมือนในกับในปี 2553 ที่ผ่านมา และจะส่งผลให้ค่าเงินในภูมิภาคเอเชียรวมทั้งค่าเงินบาทอาจปรับตัวแข็งค่าขึ้นด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ แนวโน้มการลงทุนของนักลงทุนตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้มองว่านักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยงก็ยังคงลงทุนอยู่ในกองทุนรวมตลาดเงินรวมถึงลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเนื่องจากกผลตอบแทนที่สูงขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้น ขณะเดียวกันจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นยังทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มขึ้น และส่งผลให้ทางแบงก์ต่างๆมีการระดมเงินฝากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นจึงแนะนำนักลงทุนว่า ให้เปรียบเทียบความน่าสนใจระหว่างการลงทุนในเงินฝากและกองทุนรวมด้วยเช่นกัน
นายไพศาล ยังกล่าวว่า ในช่วงปี 2553 ที่ผ่านมาการลงทุนในตราสารหนี้ได้รับความน่าสนใจมาก โดยเฉพาะการลงทุนในกองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Fund ที่มีการเพิ่มทุนเพื่อรองรับความต้องการจากนักลงทุนเข้ามาลงทุนกันมาก ซึ่งมองว่าในปีนี้กองทุนดังกล่าวยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องจึงมีแนวโน้มว่ากองทุนอาจมีการเพิ่มขึ้นอีกครั้งเพื่อรองรับดีมานด์จากนักลงทุน
สำหรับ ผลการดำเนินงานของกองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Fund ณ วันที่ 7 มกราคม 2554 กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 1.15% เทียบกับดัชนี JP Morgan Global Government Bond Index (สกุลเงินบาท) อยู่ที่ -4.31% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 5.58% เทียบกับดัชนี JP Morgan Global Government Bond Index (สกุลเงินบาท) อยู่ที่ -4.30% และเมื่อเทียบกับดัชนี JP Morgan Global Government Bond Index (สกุลดอลล่าร์สหรัฐ) -5.12% 2.56% ตามลำดับ
นายไพศาล ครุฑดำรงชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในยุโรปและสหรัฐฯนั้นซึ่งในขณะนี้ก็ยังไม่ได้เข้าสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้แนวโน้มของการลงทุนในปีนี้ยังคงเป็นไปในแบบเดียวกับปีที่ผ่านมา นั่นคือ เม็ดเงินลงทุนจะยังไหลเข้ามาลงทุนในภูมิภาคเอเชียกับละตินอเมริกาเหมือนในกับในปี 2553 ที่ผ่านมา และจะส่งผลให้ค่าเงินในภูมิภาคเอเชียรวมทั้งค่าเงินบาทอาจปรับตัวแข็งค่าขึ้นด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ แนวโน้มการลงทุนของนักลงทุนตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้มองว่านักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยงก็ยังคงลงทุนอยู่ในกองทุนรวมตลาดเงินรวมถึงลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเนื่องจากกผลตอบแทนที่สูงขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้น ขณะเดียวกันจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นยังทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มขึ้น และส่งผลให้ทางแบงก์ต่างๆมีการระดมเงินฝากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นจึงแนะนำนักลงทุนว่า ให้เปรียบเทียบความน่าสนใจระหว่างการลงทุนในเงินฝากและกองทุนรวมด้วยเช่นกัน
นายไพศาล ยังกล่าวว่า ในช่วงปี 2553 ที่ผ่านมาการลงทุนในตราสารหนี้ได้รับความน่าสนใจมาก โดยเฉพาะการลงทุนในกองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Fund ที่มีการเพิ่มทุนเพื่อรองรับความต้องการจากนักลงทุนเข้ามาลงทุนกันมาก ซึ่งมองว่าในปีนี้กองทุนดังกล่าวยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องจึงมีแนวโน้มว่ากองทุนอาจมีการเพิ่มขึ้นอีกครั้งเพื่อรองรับดีมานด์จากนักลงทุน
สำหรับ ผลการดำเนินงานของกองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Fund ณ วันที่ 7 มกราคม 2554 กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 1.15% เทียบกับดัชนี JP Morgan Global Government Bond Index (สกุลเงินบาท) อยู่ที่ -4.31% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 5.58% เทียบกับดัชนี JP Morgan Global Government Bond Index (สกุลเงินบาท) อยู่ที่ -4.30% และเมื่อเทียบกับดัชนี JP Morgan Global Government Bond Index (สกุลดอลล่าร์สหรัฐ) -5.12% 2.56% ตามลำดับ
