xs
xsm
sm
md
lg

ธนชาตลุยหุ้นกู้ด้อยสิทธิ ตั้งกองทุนยาว10ปี-บอนด์เกาหลี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.ธนชาต ตามกระแสแบงก์แห่ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ ส่งกองทุน "ธนชาตตราสารหนี้ระยะยาว" เก็บ ล๊อกเงินยาว 10 ปี ขายคู่บอนด์กิมจิ ด้าน บลจ.กรุงไทย มองอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเกาหลีใต้ อาจแกว่งตัวหลังเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว แต่ยิลด์ยังสูงกว่าการลงทุนตราสารนี้ในประเทศ พร้อมเปิดขายกองใหม่ถึง 7 เมษายน 53 นี้


นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังเปิดขายกองทุนตรสารหนี้เพิ่มอีก 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ระยะยาว (TFixLT) เริ่มไอพีโอแล้วตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 5 เมษายน 2553 และกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 43 (T-FixFIF43) เริ่มเปิดขายแล้ววันนี้ถึง 7 เมษายน 2553

โดยกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ระยะยาวมีอายุโครงการประมาณ 10 ปี โดยมีมูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท และนักลงทุนสามารถลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท โดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีนโยบายการลทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) โดยจะพิจารณาลงทุนในหุ้นกู้ด้อยสิทธิ ( Subordinated Bond) ที่เป็น investment grade ด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาและในระยะนี้ มีหุ้นกู้ด้อยสิทธิทะยอยเสนอขายเป็นระยะ ๆ และได้รับความสนใจจากตลาด นอกจากนี้ กองทุนยังสามารถลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและหรือเงินฝากหรือตราสารที่เทียบเท่าเงินสด หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการก.ล.ต.กำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้

"สำหรับกองทุนนี้จะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูงเพียงบางส่วนหรือทั้งหมด เช่น ตราสารหนี้ด้วยสิทธิหรือหุ้นกู้ด้วยสิทธิ ซึ่งเป็นหุ้นกู้ที่หากผู้ออกตราสารไม่สามารถชำระคืนเงินต้น หรือดอกเบี้ยให้แก่กองทุนได้ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดก็ได้ ส่วนสาเหตุที่กองทุนนี้มีอายุโครงการ 10 ปี เนื่องจากว่ายังมีกลุ่มนักลงทุนบางรายที่อยากจะเข้ามาลงทุนบ้าง เราเลยจัดตั้งขึ้นมา โดยคาดว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนแน่นอน" นายบุญชัย กล่าว

ขณะที่ กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 43 มีอายุโครงการ 11 เดือน และมีมูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท ทั้งนี้ กองทุนมีเป้าหมายที่จะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐของประเทศเกาหลีใต้ เช่น พันธบัตรธนาคารแห่งชาติเกาหลีใต้ พันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้

ด้านนายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรเกาหลีใต้ยังมีการแกว่งตัว โดยเกิดจากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ตัวเลขชี้วัดต่างๆ แสดงสัญญาณการฟื้นตัวต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินที่มีผลมาจากความกังวลในเรื่องของภาวะเงินเฟ้อในประเทศและความเสี่ยงในเรื่องของฟองสบู่ อย่างไรก็ตาม การไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศ ซึ่งเป็นเม็ดเงินจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด และการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ โดยเป็นแนวโน้มเดียวกันทั้งภูมิภาครวมทั้งประเทศไทยผลดังกล่าวกระทบต่อต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และทำให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรเกาหลีเมื่อแปลงกลับเป็นสกุลเงินบาทปรับลดลงจึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการล็อกผลตอบแทน

อย่างไรก็ตาม การลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ ยังให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนพันธบัตรในประเทศ โดยการลงทุนในพันธบัตรในประเทศที่อายุใกล้คียงกันอยู่ที่1.60%ต่อปี

ทั้งนี้ บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้เอฟไอเอฟ 5 (KTFF5 ) เสนอขายระหว่างวันที่ 31 มีนาคม ถึง 7 เมษายน อายุโครงการ 23 เดือน มูลค่า 700 ล้านบาท ผลตอบแทนประมาณการที่ 2.25% ต่อปี โดยไม่เสียภาษี หัก ณ ที่จ่าย และมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน โดยกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้เอฟไอเอฟ 5 มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนจะพิจารณาความมั่นคงของผู้ออกตราสารเป็นหลัก และเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนเหมาะสม เมื่อเทียบกับระดับความเสี่ยงส่วนที่เหลืออาจพิจารณาลงทุนในเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก ทั้งนี้กองทุนจะลงทุนในพันธบัตรภาครัฐประเทศเกาหลีใต้ ทั้ง 100% เครดิตเรตติ้งที่ AA โดยฟิทซ์และเป็นกองทุนที่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุก3 เดือน

นอกจากนี้บลจ.กรุงไทย กำลังเปิดขายหน่วยลงทุนกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือนคุ้มครองเงินต้น 1โดยกองทุนดังกล่าวจะลงทุนในตราสารภาครัฐไทย ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือบัตรเงินฝาก ที่บริษัทเงินทุน หรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ เป็นผู้ออกเพื่อการกู้ยืมหรือรับเงินจากประชาชน เงินฝากในธนาคารพาณิชย์หรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออก หริอทรัพย์สินอื่นที่มีความเสี่ยงต่ำหรือมีความเสี่ยงเทียบเคียงได้กับตราสารภาครัฐไทย โดยได้รับความเห็นชอบจากสำนักคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยประมาณการผลตอบเเทนอยู่ที่ 0.90% ต่อปี โดยสามารถซื้อและขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุกระยะ 3 เดือนอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น