บลจ.เอ็มเอฟซี โชว์ผลงานกองทุนต่างประเทศ รอบปี 2552 พลิกกำไรกว่า 98.21 ล้านบาท หลังได้อานิสงส์หุ้นทั่วโลกเด้งกลับ พร้อมเตรียมจ่ายเงินปันผลกอง I-ASIA INFRA หน่วยลงทุนละ 1.13 บาท
นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล อิควิตี้ ฟันด์ (MGE) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของกองทุน สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2552 ว่า กองทุนมีกำไนสุทธิ 98.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิไปถึง 317.56 ล้านบาท
ซึ่งผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น 98.21 ล้านบาท หรือ 1.57 บาทต่อหน่วยนั้น มีจำนวนเพิ่มขึ้น 415.77 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากราคาตลาดของหลักทรัพย์ที่ลงทุนในต่างประเทศมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นไปตามสภาวการณ์ของตลาดหุ้นทั่วโลก
นอกจากนี้ บลจ.เอ็มเอฟซีเตรียมจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเวสท์ เอเชีย อินฟราสทรัคเจอร์ ฟันด์ หรือ I-ASIA INFRA ในอัตราหน่วยลงทุนละ 1.13 บาท สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2552 - 28 กุมภาพันธ์ 2553 โดยจ่ายเงินปันผลในวันที่ 30 มีนาคม 2553 สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อในวันปิดสมุดทะเบียนวันที่ 19 มีนาคม 2553
ทั้งนี้ กองทุนเปิด I-ASIA INFRA เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน INVESCO Asia Infrastructure Fund-C Share Class (Master Fund) เพียงกองทุนเดียว ซึ่งลงทุนในหุ้นธุรกิจสาธารณูปโภคทั่วเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่น และเป็นกองทุนเปิดสกุลดอลลาร์สหรัฐ ที่จดทะเบียนในประเทศลักเซมเบิร์ก โดยกองทุนมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละครั้งในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ในแต่ละงวดหรือจากกำไรสะสม
นายพิชิตกล่าวว่า ในปีนี้ เอ็มเอฟซีได้จ่ายเงินปันผลของกองทุนภายใต้การจัดการให้ผู้ถือหน่วยลงทุนไปแล้ว 18 กองทุน รวมเป็นเงินกว่า 445 ล้านบาท ซึ่งครอบคลุมทุกประเภทกองทุน ได้แก่ กองทุนตราสารทุน กองทุนตราสารหนี้ กองทุนผสมแบบยืดหยุ่น กองทุนหุ้นระยะยาว กองทุนต่างประเทศ และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ โดยมีกองทุนเปิดเอ็มเอฟซีเฟล็กซิเบิลฟันด์ (MFX) ทำสถิติจ่ายเงินปันผลมากสุด หน่วยลงทุนละ 2 บาท