บลจ.ไทยพาณิชย์ เบียดแซงคู่แข่ง ขึ้นแท่นเบอร์ 1 อุตสาหกรรมจัดการกองทุน ด้วยสินทรัพย์รวมกว่า 495,300 ล้านบาท "โชติกา" เผย การเมืองร้อนไม่กระทบการลงทุน เงินไหลเข้าต่อเนื่อง
นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ นักลงทุนยังคงมีความมั่นใจในการลงทุนผ่านธุรกิจกองทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่เชื่อว่าจะสามารถผ่านพ้นไปด้วยดี โดยบริษัทฯ มีเม็ดเงินลงทุนใหม่ไหลเข้าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาประมาณ 9,000 ล้านบาท ส่งผลให้มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (ณ วันที่ 12 มี.ค.53) ทั้งสิ้น 495,300 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 20.7% หรือสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรมทั้งระบบ
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า เมื่อมีสถานการณ์ทางการเมืองไม่ปกติเกิดขึ้น นักลงทุนจะมีการลงทุนอย่างระมัดระวัง ซึ่งการลงทุนในกองทุนรวมเอง ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่นักลงทุนให้ความมั่นใจเช่นเดียวกับการฝากเงิน จึงทำให้มีเงินไหลเข้ามาในระบบมากยิ่งขึ้น ประกอบกับเมื่อพิจารณาความมั่นใจจากนักลงทุนต่างประเทศที่มีการลงทุนเพิ่มมากขึ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯในช่วงดังกล่าวแล้ว ก็ทำให้มั่นใจว่าความเชื่อมั่นต่อระบบเศรษฐกิจการเงินไทยยังคงมีอยู่ และการลงทุนในประเทศไทยจะยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนในระยะยาว
นางโชติกากล่าวว่า บริษัทฯ ยังได้เตรียมจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยที่ลงทุนในกองทุนหุ้นที่มีผลดำเนินงานอยู่ในระดับที่ดีมาก ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุนปันผล ที่มีนโยบายการลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีความมั่นคงและจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปสูง ซึ่งบริษัทฯจะคำนึงถึงระดับความเสี่ยงที่ไม่สูงเกินไปถึงแม้จะมีความผันผวนของตลาดแต่ก็เป็นช่วงระยะสั้น โดยจะใช้กลยุทธ์การลงทุนที่เน้นระยะกลางถึงระยะยาวและการผสานสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมทำให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีไม่ว่าตลาดจะขึ้นหรือลง
โดยผลดำเนินงานของกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุนปันผล ในรอบระยะเวลาระหว่างวันที่ 1 พ.ค. 52 – 15 มี.ค. 53 มีสินทรัพย์สุทธิเพิ่มขึ้น 223.68 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ จะจ่ายปันผลในอัตราหน่วยละ 1.77 บาท แต่เนื่องจากมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้วเมื่อวันที่ 16 ก.ค.52 หน่วยละ 0.57 บาท จึงเหลือเงินปันผลที่จะจ่ายในวันที่ 25 มี.ค.นี้ ที่อัตราหน่วยละ 1.20 บาท คิดเป็นเงินปันผลเมื่อเทียบกับราคา NAV ณ วันที่ 30 เม.ย. 52 ที่อัตรา 23.01% ต่อปี
