ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ.อเบอร์ดีน โชว์ผลการดำนเนินกองหุ้น "สมอลแค็พ" 1 ปีพุ่งขึ้นกว่า 70% ระบุ เน้นลงทุนในหุ้นขนาดเล็กที่แข็งแกร่งมีความผันผวนน้อยกว่าหุ้นขนาดใหญ่ เผย ทางบริษัทอาจจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยได้ในปีนี้
นายชัยเกษม วัฒนศิริพงษ์ หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด กล่าวถึงผลการดำเนินงานกองทุนหุ้นในปีที่ผ่านมาว่า กองทุนเปิดอเบอร์ดีนสมอลแค็พในปีที่ผ่านมามีผลการดำเนินงานที่ดีมากโดย 1 ปีที่ผ่านมา ณ วันที่ 15 มีนาคม 2553 กองทุนให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 72.50% เทียบกับดัชนีมาตรฐานอยู่ที่ 73.06% ถือว่าให้ผลตอบแทนที่ดีมากสำหรับกองทุนที่ลงทุนในหุ้นขนาดเล็ก
ทั้งนี้ เนื่องจากทางบริษัทได้ลงทุนอยู่หุ้นบริษัทที่แข็งแกร่งและมีผลประกอบการที่ดี ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนให้กองทุนมีผลการดำเนินงานที่ดี ขณะเดียวกันยังเป็นกองทุนที่น่าลงทุนเมื่อเทียบกับกองทุนที่ลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ซึ่งมีความผันผวนที่มากกว่า
นายชัยเกษม ยังแนะนำว่า ในภาวะที่ตลาดหุ้นค่อนข้างจะมีความผันผวนรวมทั้งมีปัจจัยต่างๆเข้ามากระทบตลาดหุ้นนั้น การลงทุนในหุ้นขนาดเล็กที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีและมีความผันผวนน้อย ซึ่งยังเป็นการลงทุนตามสไตล์ของบลจ.อเบอร์ดีนเมื่อตลาดหุ้นเป็นแบบไซด์เวย์กองทุนก็จะมีผลการดำเนินงานที่ดี
นอกจากนี้ ยังกล่าวด้วยว่า ในปีนี้บลจ.อเบอร์ดีนน่าจะมีการจ่ายเงินปันผลกองทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้ เพราะในช่วงที่ผ่านมากองทุนมีผลการดำเนินงานที่ดี
สำหรับกองทุนเปิดอเบอร์ดีนสมอลแค็พ มีนโยบายการลงทุนระยะปานกลางและระยะยาวในหลักทรัพย์ของบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานดีโดยจะลงทุนในหุ้นทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนและเน้นหนักการลงทุนหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีมูลค่าการตลาดไม่เกิน 20,000 ล้านบาท (ณ วันที่ ลงทุน ครั้งแรก)
โดยลงทุนในหลักทรัพย์ต่างได้แก่ บมจ. สยาม แม็ค โคร บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป บมจ. บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ บมจ. กรุงเทพประกันภัย บมจ. เมืองไทยประกันภัย บมจ. ไทยรับประกันภัยต่อ บมจ. ฮานาไมโครอิเล็คโทรนิคส บมจ. เสริมสุข บมจ. อิออนธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) บมจ. หลักทรัพย์ภัทร
นายชัยเกษม วัฒนศิริพงษ์ หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด กล่าวถึงผลการดำเนินงานกองทุนหุ้นในปีที่ผ่านมาว่า กองทุนเปิดอเบอร์ดีนสมอลแค็พในปีที่ผ่านมามีผลการดำเนินงานที่ดีมากโดย 1 ปีที่ผ่านมา ณ วันที่ 15 มีนาคม 2553 กองทุนให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 72.50% เทียบกับดัชนีมาตรฐานอยู่ที่ 73.06% ถือว่าให้ผลตอบแทนที่ดีมากสำหรับกองทุนที่ลงทุนในหุ้นขนาดเล็ก
ทั้งนี้ เนื่องจากทางบริษัทได้ลงทุนอยู่หุ้นบริษัทที่แข็งแกร่งและมีผลประกอบการที่ดี ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนให้กองทุนมีผลการดำเนินงานที่ดี ขณะเดียวกันยังเป็นกองทุนที่น่าลงทุนเมื่อเทียบกับกองทุนที่ลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ซึ่งมีความผันผวนที่มากกว่า
นายชัยเกษม ยังแนะนำว่า ในภาวะที่ตลาดหุ้นค่อนข้างจะมีความผันผวนรวมทั้งมีปัจจัยต่างๆเข้ามากระทบตลาดหุ้นนั้น การลงทุนในหุ้นขนาดเล็กที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีและมีความผันผวนน้อย ซึ่งยังเป็นการลงทุนตามสไตล์ของบลจ.อเบอร์ดีนเมื่อตลาดหุ้นเป็นแบบไซด์เวย์กองทุนก็จะมีผลการดำเนินงานที่ดี
นอกจากนี้ ยังกล่าวด้วยว่า ในปีนี้บลจ.อเบอร์ดีนน่าจะมีการจ่ายเงินปันผลกองทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้ เพราะในช่วงที่ผ่านมากองทุนมีผลการดำเนินงานที่ดี
สำหรับกองทุนเปิดอเบอร์ดีนสมอลแค็พ มีนโยบายการลงทุนระยะปานกลางและระยะยาวในหลักทรัพย์ของบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานดีโดยจะลงทุนในหุ้นทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนและเน้นหนักการลงทุนหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีมูลค่าการตลาดไม่เกิน 20,000 ล้านบาท (ณ วันที่ ลงทุน ครั้งแรก)
โดยลงทุนในหลักทรัพย์ต่างได้แก่ บมจ. สยาม แม็ค โคร บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป บมจ. บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ บมจ. กรุงเทพประกันภัย บมจ. เมืองไทยประกันภัย บมจ. ไทยรับประกันภัยต่อ บมจ. ฮานาไมโครอิเล็คโทรนิคส บมจ. เสริมสุข บมจ. อิออนธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) บมจ. หลักทรัพย์ภัทร
