xs
xsm
sm
md
lg

ฟันธงเม.ย.อาร์/พีขยับ0.25%ชี้"ศก.-เงินเฟ้อ"ส่งสัญญาณ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อาสา อินทรวิชัย
บลจ.อยุธยา ประเมินรอบนี้ อาร์/พีขยับแน่ 0.25% หลังตัวเลขเศรษฐกิจ-เงินเฟ้อ ส่งสัญญาณปรับขึ้น ด้านบลจ.ยูโอบี ประเมินเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยปลายปีนี้ หลังมั่นใจเศรษฐกิจมากขึ้น ขณะเดียวกัน มองค่าเงินบาท แนวโน้มแข็งค่าขึ้นหลังเม็ดเงินไหลเข้าเอเชีย


นายอาสา อินทรวิชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานกองทุนตราสารหนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด หรือเอวายเอฟ กล่าวว่า ขณะนี้ผลตอบแทนตลาดตราสารหนี้ในประเทศมีการปรับขึ้นไปบ้างแล้วประมาณ 0.25% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นล่วงหน้า ตามการคาดการณ์ของตลาดว่าในรอบนี้ (เม.ย.) ธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอาร์/พี 1 วันอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ มองว่าขณะนี้ปัจจัยที่เอื้อต่อการขึ้นดอกเบี้ยมีสูงพอสมควร โดยเฉพาะการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยจีดีพีไตรมาสแรกที่กำลังจะจบนั้น เอวายเอฟเองคาดการณ์ว่าจะขยายตัวได้ถึง 8.2% เพราะเป็นการเพิ่มขึ้นจากฐานที่ติดลบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะเดียวกัน การที่รัฐบาลไม่ต่ออายุมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ น่าจะส่งผลให้ตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวเร็วขึ้น ซึ่งจะเห็นชัดเจนในช่วงไตรมาส 2

"จาก 2 ปัจจัยดังกล่าว เชื่อว่าการพิจารณาดอกเบี้ยนโยบายในเดือนเมษายนนี้ ธปท.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยแน่นอน ในอัตรา 0.25% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด เพราะปัจจุบันพันธบัตรรัฐบาลที่อายุต่ำกว่า 4 ปี เริ่มปรับขึ้นแล้วประมาณ 0.25%" นายอาสากล่าว

สำหรับแนวโน้มผลตอบแทนพันธบัตรเกาหลี นายอาสากล่าวว่า ขณะนี้ถึงแม้ผลตอบแทนจากตัวพันธบัตรจะลดลง แต่ต้นทุนสวอปเองก็ลดลงด้วย ดังนั้น จึงทำให้ผลตอบแทนของกองทุนที่ออกไปลงทุนในพันธบัตรเกาหลียังจูงใจอยู่ โดยสูงกว่าผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยในช่วงอายุเดียวกันอยู่ประมาณ 0.5% อย่างไรก็ตาม หากมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในประเทศ การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลก็อาจจะได้รับความสนใจมากขึ้น

ล่าสุด เอวายเอฟเองก็อยู่ระหว่างการเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดกรุงศรีพันธบัตรเกาหลี 9M8 ซึ่งออกไปลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้อายุประมาณ 9 เดือน โดยตราสารที่จะไปลงทุนนั้น ได้แก่ MSB หมายถึง พันธบัตร Monetary Stabilization Bond และ KTB หมายถึง พันธบัตร Korea Treasury Bond ซึ่งเป็นตราสารภาครัฐของเกาหลีใต้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศผู้ออกตราสาร F-1 จาก Fitch Rating โดยกองทุนจะเสอนขายหน่วยลงทุนไปจนถึงวันที่ 29 มีนาคมนี้ คาดการณ์ผลตอบแทน 1.60% ต่อปี

นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่คณะกรรมการกำกับนโยบายธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดมีมติ ให้ตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ร้อยละ 0-0.25 เหมือนเดิมนั้น เป็นไปตามที่ได้คาดการณ์กันเอาไว้ แต่เนื่องจากมติการประชุมในครั้งล่าสุดเริ่มมีเสียงที่แสดงความเห็นให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้นมาแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเริ่มมีความมั่นใจต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯขึ้นมาแล้ว ดั้งนั้นมีความเป็นไปได้ว่าในปีนี้เฟดน่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งน่าจะปรับขึ้นในช่วงปลายปีนี้อย่างน้อย 0.25%

ทั้งนี้ จากการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น ไม่ได้ส่งผลอย่างไรต่อกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศของบลจ.ยูโอบีแต่อย่างใด เพราะได้เลือกลงทุนอยู่ในภูมิภาคที่ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ แต่อย่างไรทางบริษัทก็ยังให้ความสนใจกับการลงทุนในสหรัฐฯ แต่ยังรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐฯจะมีโอกาสที่ดีในช่วงเวลาใด

นายวนา กล่าวต่อว่า แม้เศรษฐกิจของสหรัฐฯจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นมา แต่เนื่องจากเม็ดเงินต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในภูมิภาคเอเชียมากขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินในภูมิภาครวมทั้งค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมา ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบเศรษฐกิจของสหรัฐฯกับเอเชียแล้วมีแนวโน้มว่าเงินจะไหลเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียอย่างแน่นอนและจะส่งผลให้ค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นอีก

อย่างไรก็ตามแนวโน้มค่าเงินในภูมิภาคเอเชียแข็งค่าขึ้นนั้น ทางบลจ.ยูโอบี ก็คงเน้นลงทุนอยู่ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งมีกองทุนที่ลงทุนอยู่ในเอเชียอยู่แล้ว ได่แก่ กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท อินเตอร์เนชันแนล โกรว์ธ กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ทเอเชีย กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ทเอเชียแอคทีฟอโลเคชัน และกองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ทเกรธเธอร์ไชน่า
กำลังโหลดความคิดเห็น