ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ.วรรณ รับอานิสงส์หุ้นวิ่ง โชว์ผลงานกองทุนเปิด" ONE-TRIGGER" ทำกำไรครึ่งทางแล้ว 10% ลุ้นตลาดหุ้นไทยพุ่งต่อ คาดอีกไม่นานเข้าเป้าหมาย 20%
นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม(บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยถึงดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ตลาดหุ้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก หากสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันยังไม่มีเหตุการณ์ที่รุนแรงเกิดขึ้น โดยยังมีมุมมองในเชิงบวก ถึงแม้ว่าบางขณะอาจมีความผันผวนอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานในรอบเดือนกว่าที่ผ่านมานั้น มูลค่าต่อหน่วยลงทุน (NAV) ของกองทุนเปิด ONE-TRIGGER เพิ่มขึ้นจากช่วงเปิดเสนอขายครั้งแรก 10 บาท เป็น 11.0771 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.77 โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดที่ระดับ 765.54 จุด หรือเพิ่มขึ้น 13.34 จุด (ข้อมูล ณ วันที่ 17 มี.ค.53)
ทั้งนี้ การที่กองทุนเปิด ONE-TRIGGER สามารถสร้างผลตอบแทนมาได้ครึ่งทางของเป้าหมายนั้น เป็นผลมาจาก 3 ส่วน ส่วนแรกคือ การวางน้ำหนักการลงทุนทั้งในส่วนของอุตสาหกรรมและรายหุ้นได้เหมาะสมกับช่วงเวลาที่กระแสเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติไหลเข้ามา โดยกุญแจสำคัญคือ การทำ Stock Pick ส่วนที่สองคือ การที่ทีมฝ่ายตราสารทุนมีการบริหารจัดการแบบ Active Management โดยมีการประเมิน Risk-Return ของหุ้นรายตัวอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา รวมถึงการทำ Best Execution จากทีม Dealer (บริหารคำสั่งซื้อขาย) และส่วนสุดท้ายคือ ทีมฝ่ายตราสารทุนและฝ่ายวิจัยได้ทำการบ้านอย่างสม่ำเสมอในการคัดเลือกหุ้น หมายถึง คัดเลือกเข้าพอร์ต และคัดเลือกออกจากพอร์ต โดยการทำ Company Visit หุ้นใน Radar Screen อย่างใกล้ชิด
นายมนรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุนเปิด ONE-TRIGGER มีการบริหารพอร์ตโดยใช้กลยุทธ์บริหารแบบ Bottom up Approach และใช้กลยุทธ์ล็อคกำไร (Lock in profit) โดยไม่ได้เปรียบเทียบกับ Benchmark ซึ่งผู้จัดการกองทุนและทีมงานของบลจ.วรรณ ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญด้านการลงทุนจะเน้นการทำกำไรเป็นหลัก โดยพิจารณาเลือกหุ้นตัวที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดี และเมื่อกองทุนสามารถทำกำไรได้ ก็จะนำเงินมาเก็บไว้ เหมือนค่อยๆ หยอดกำไรใส่กระปุกไว้จนครบ 20% ซึ่งหากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงเป็นบวกต่อไป โอกาสที่ NAV จะเข้าใกล้ 12 บาท ก็คงใช้เวลาไม่นาน
"การลงทุนนั้นมีความเสี่ยงทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง แต่สิ่งที่ทางทีมงานของ บลจ.วรรณ ยึดถือปฏิบัติเสมอมา คือ การบริหารจัดการเพื่อให้ผลตอบแทนที่สูงสุดภายใต้ความเสี่ยงที่รับได้ของผู้ถือหน่วย ถึงเราจะมีขนาดกองทุนที่เล็กเมื่อเปรียบเทียบกับ บลจ.ที่เป็นบริษัทลูกของธนาคารพาณิชย์ แต่ผมก็มั่นใจในศักยภาพของทีมงานทุกท่านที่ได้ทุ่มเทและรับผิดชอบต่อเงินทุกบาทของผู้ถือหน่วย"นายมนรัฐ กล่าว
สำหรับ กองทุนเปิด วรรณ อิควิตี้ 20% ทริกเกอร์ ฟันด์ เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีความมั่นคง และให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับระดับความเสี่ยง โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนนี้มีลักษณะพิเศษ คือเมื่อครบกำหนดอายุประมาณ 1 ปี 6 เดือน หรือเมื่อกองทุนมีมูลค?าหน?วยลงทุนตั้งแต? 12.00 บาท หรือเพิ่มขึ้น 20% ของมูลค่าหน่วยลงทุนที่เสนอขายครั้งแรก เป?นเวลา 3 วันทําการติดต?อกัน บริษัทจัดการจะดําเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งหมดให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนทุกราย
นอกจากนี้ ในส่วนของกองทุนเปิดวรรณตราสารหนี้ 4Y/1 (1FIX4Y/1) ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน ซึ่งได้เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกระหว่างวันที่ 15-23 มีนาคม 2553 นั้น ได้มีนักลงทุนสนใจจองซื้อกองทุนเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้กองทุนต้องปิดการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกก่อนกำหนด โดยหลังจากนี้ บลจ.วรรณ ยังมีโครงการที่จะออกกองทุนใหม่ที่มีนโยบายการลงทุนที่คล้ายกัน เพื่อรองรับความต้องการที่ยังมีอีกเป็นจำนวนมาก โดยจะพยายามเลือกตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีคุณภาพ และมีระดับความน่าเชื่อถือที่ดีต่อไป
นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม(บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยถึงดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ตลาดหุ้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก หากสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันยังไม่มีเหตุการณ์ที่รุนแรงเกิดขึ้น โดยยังมีมุมมองในเชิงบวก ถึงแม้ว่าบางขณะอาจมีความผันผวนอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานในรอบเดือนกว่าที่ผ่านมานั้น มูลค่าต่อหน่วยลงทุน (NAV) ของกองทุนเปิด ONE-TRIGGER เพิ่มขึ้นจากช่วงเปิดเสนอขายครั้งแรก 10 บาท เป็น 11.0771 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.77 โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดที่ระดับ 765.54 จุด หรือเพิ่มขึ้น 13.34 จุด (ข้อมูล ณ วันที่ 17 มี.ค.53)
ทั้งนี้ การที่กองทุนเปิด ONE-TRIGGER สามารถสร้างผลตอบแทนมาได้ครึ่งทางของเป้าหมายนั้น เป็นผลมาจาก 3 ส่วน ส่วนแรกคือ การวางน้ำหนักการลงทุนทั้งในส่วนของอุตสาหกรรมและรายหุ้นได้เหมาะสมกับช่วงเวลาที่กระแสเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติไหลเข้ามา โดยกุญแจสำคัญคือ การทำ Stock Pick ส่วนที่สองคือ การที่ทีมฝ่ายตราสารทุนมีการบริหารจัดการแบบ Active Management โดยมีการประเมิน Risk-Return ของหุ้นรายตัวอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา รวมถึงการทำ Best Execution จากทีม Dealer (บริหารคำสั่งซื้อขาย) และส่วนสุดท้ายคือ ทีมฝ่ายตราสารทุนและฝ่ายวิจัยได้ทำการบ้านอย่างสม่ำเสมอในการคัดเลือกหุ้น หมายถึง คัดเลือกเข้าพอร์ต และคัดเลือกออกจากพอร์ต โดยการทำ Company Visit หุ้นใน Radar Screen อย่างใกล้ชิด
นายมนรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุนเปิด ONE-TRIGGER มีการบริหารพอร์ตโดยใช้กลยุทธ์บริหารแบบ Bottom up Approach และใช้กลยุทธ์ล็อคกำไร (Lock in profit) โดยไม่ได้เปรียบเทียบกับ Benchmark ซึ่งผู้จัดการกองทุนและทีมงานของบลจ.วรรณ ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญด้านการลงทุนจะเน้นการทำกำไรเป็นหลัก โดยพิจารณาเลือกหุ้นตัวที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดี และเมื่อกองทุนสามารถทำกำไรได้ ก็จะนำเงินมาเก็บไว้ เหมือนค่อยๆ หยอดกำไรใส่กระปุกไว้จนครบ 20% ซึ่งหากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงเป็นบวกต่อไป โอกาสที่ NAV จะเข้าใกล้ 12 บาท ก็คงใช้เวลาไม่นาน
"การลงทุนนั้นมีความเสี่ยงทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง แต่สิ่งที่ทางทีมงานของ บลจ.วรรณ ยึดถือปฏิบัติเสมอมา คือ การบริหารจัดการเพื่อให้ผลตอบแทนที่สูงสุดภายใต้ความเสี่ยงที่รับได้ของผู้ถือหน่วย ถึงเราจะมีขนาดกองทุนที่เล็กเมื่อเปรียบเทียบกับ บลจ.ที่เป็นบริษัทลูกของธนาคารพาณิชย์ แต่ผมก็มั่นใจในศักยภาพของทีมงานทุกท่านที่ได้ทุ่มเทและรับผิดชอบต่อเงินทุกบาทของผู้ถือหน่วย"นายมนรัฐ กล่าว
สำหรับ กองทุนเปิด วรรณ อิควิตี้ 20% ทริกเกอร์ ฟันด์ เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีความมั่นคง และให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับระดับความเสี่ยง โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนนี้มีลักษณะพิเศษ คือเมื่อครบกำหนดอายุประมาณ 1 ปี 6 เดือน หรือเมื่อกองทุนมีมูลค?าหน?วยลงทุนตั้งแต? 12.00 บาท หรือเพิ่มขึ้น 20% ของมูลค่าหน่วยลงทุนที่เสนอขายครั้งแรก เป?นเวลา 3 วันทําการติดต?อกัน บริษัทจัดการจะดําเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งหมดให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนทุกราย
นอกจากนี้ ในส่วนของกองทุนเปิดวรรณตราสารหนี้ 4Y/1 (1FIX4Y/1) ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน ซึ่งได้เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกระหว่างวันที่ 15-23 มีนาคม 2553 นั้น ได้มีนักลงทุนสนใจจองซื้อกองทุนเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้กองทุนต้องปิดการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกก่อนกำหนด โดยหลังจากนี้ บลจ.วรรณ ยังมีโครงการที่จะออกกองทุนใหม่ที่มีนโยบายการลงทุนที่คล้ายกัน เพื่อรองรับความต้องการที่ยังมีอีกเป็นจำนวนมาก โดยจะพยายามเลือกตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีคุณภาพ และมีระดับความน่าเชื่อถือที่ดีต่อไป
