ออมเงินก่อนเกษียณอายุ ยิ่งรู้จักออมยิ่งมีเก็บมาก

ท่านที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว ช่วงอายุ 20 – 35 ปี อาจจะมองข้ามบทความนี้ไป เพราะเห็นว่าไกลตัว อีกตั้งหลาย
ปีกว่าจะอายุครบ 60 ปี ยังไม่ถึงเวลาต้องคิดเรื่องเกษียณอายุกัน

หารู้ไม่ว่า การออมเพื่อวัยเกษียณนั้น เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำเสียแต่เนิ่น ๆ ยิ่งเริ่มก่อนยิ่งได้เปรียบ ที่จริงแล้ว
การออมเพื่อวัยเกษียณ เราควรเริ่มตั้งแต่เข้าทำงานด้วยซ้ำ

ที่เราต้องหันมาสนใจเรื่องนี้ ก็ไม่ใช่เพื่อใครอื่น เพื่อตัวเราเอง ถ้าท่านผู้อ่านอยู่ในวัยที่มีอายุประมาณ 30 – 35 ปี
ลองสังเกตดูว่า คนไทยในสมัยคุณพ่อคุณแม่ของเรานั้นอยู่กันแบบครอบครัวใหญ่ มีพี่น้องหลายคน หลายครอบครัวมีพี่น้อง 5 – 10 คน การที่เป็นครอบครัวใหญ่ทำให้ภาระการดูแลคนรุ่นคุณตาคุณยายของพวกเราในด้านการเงินไม่ค่อยมีปัญหามากนัก ลูกๆ สามารถแบ่งเบาภาระกันได้ และสังคมไทยเองก็เชิดชูคุณธรรมในเรื่องความกตัญญูด้วย จึงไม่ค่อยมีปัญหาอะไร

ไล่มาอีกรุ่นหนึ่ง คนไทยรุ่นเดียวกับเราเกิดมาในครอบครัวขนาดเล็ก มีพี่น้องไม่กี่คน ท่านผู้อ่านที่อยู่ในวัยเดียว
กับผมจะเริ่มมีคุณพ่อคุณแม่ที่เกษียณจากการทำงานแล้วหรือไม่ก็ใกล้เกษียณ ท่านได้ลองถามตัวเองหรือยังครับว่า หากคุณพ่อคุณแม่ของท่านเกษียณ ท่านจะดูแลอย่างไร ท่านกับพี่หรือน้องของท่านจะรับภาระทางการเงินไหวหรือไม่ความกังวลตรงนี้มีมากขึ้นเมื่อเราคิดถึงตัวเราเองบ้าง ท่านที่อยู่ในวัยนี้จะสังเกตว่า คนรุ่นราวคราวเดียวกันในปัจจุบันมีการแต่งงานช้าลง เมื่อแต่งแล้วก็มีลูกน้อยลง มีจำนวนมากที่เลือกจะอยู่เป็นโสด ไม่แต่งงานด้วยซ้ำ เมื่อเราเกษียณแล้วมีลูกแค่ 1 – 2 คน หรือไม่มีลูกเลย เราจะดูแลตัวเราเองอย่างไร จะเอาเงินที่ไหนมาใช้

คำถาม สมมติว่าท่านจะเกษียณเมื่ออายุ 60 ปี และคาดว่าจะมีอายุยืนไปจนถึง 80 ปี หากคิดว่า ชีวิตหลังเกษียณ ท่านสามารถดำรงอยู่ได้อย่างสบายๆ ด้วยเงิน 10,000 บาทต่อเดือน ด้วยการถอนเงินออกมาใช้จากบัญชีเงินฝากธนาคาร สมมติว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเท่ากับระดับปัจจุบันคือประมาณ 1.00% ต่อปี ท่านคิดว่าจะต้องมีเงินออม ณ วันที่เกษียณเท่าใดครับจึงจะมีเงินใช้เดือนละ 10,000 บาทหลังเกษียณ?

คำตอบ 2,000,000 บาท

น่าคิดไหมว่า ตลอดชีวิตการทำงานของเรา ประมาณ 30 – 35 ปี เราจะหาเงิน 2 ล้านบาทได้อย่างไร
สิ่งที่น่ากลัวมากกว่านั้น คือเงิน 10,000 บาทต่อเดือนนั้นน่าจะแค่พอยังชีพได้ คนเราเมื่อเกษียณแล้วก็คงอยากหาความสุขใส่ตัวบ้าง ด้วยการไปพักผ่อน ท่องเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ หรืออาจจะต้องการเครื่องอำนวยความสะดวกเก๋ๆ เช่น LCD TV, Iphone, BlackBerry, กล้องดิจิตอล ฯลฯ เหมือนอย่างที่คนหนุ่มสาวเค้ามีกัน ไหนจะต้องมีเงินเก็บไว้ส่วนหนึ่งสำหรับค่ารักษาพยาบาล เพราะเมื่ออายุมากขึ้น การเจ็บป่วยก็ตามมาเป็นเรื่องธรรมดา เราอาจจะต้องการมีเงินใช้ 20,000 – 30,000 บาทต่อเดือน ซึ่งก็แปลว่า ณ วันที่เกษียณ ท่านจะต้องมีเงินออม 4 – 6 ล้านบาท

ก่อนที่ท่านจะกังวลไปมากกว่านี้ เรามีเคล็ดลับมาบอกว่า การจะมีเงิน 2 ล้านบาท ณ วันที่เกษียณนั้น ไม่ยากเลย
เคล็ดลับก็คือว่า ท่านจะต้องเริ่มเสียแต่วันนี้

หากเรามีเป้าหมายว่า ณ วันที่เกษียณ เราจะต้องมีเงิน 2 ล้านบาท และสมมติว่าท่านออมด้วยการฝากธนาคาร
เพียงอย่างเดียว อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 1% เท่ากับในปัจจุบัน ท่านที่อายุ 20 ปีในวันนี้จะต้องออมเงินเพียงเดือนละ 3,390 บาทเท่านั้น ส่วนท่านที่อายุ 30 ปี จะต้องออมเงินเพิ่มขึ้นอีกหน่อย เป็นเดือนละ 4,766 บาท สังเกตได้ว่า ยิ่งเริ่มก่อนยิ่งได้เปรียบ

ข่าวดีก็คือว่า หากท่านสามารถวางแผนจัดการเงินออมของท่านให้ดีขึ้น ด้วยการกระจายการลงทุนอย่างเหมาะสม ทำให้ได้ผลตอบแทนมากขึ้นเป็น 5% ต่อปี เงินที่ต้องออมต่อเดือนน้อยลงมาก ท่านที่อายุ 20 ปีในวันนี้ จะต้องออมเพียงเดือนละ 1,311 บาทเท่านั้น ส่วนท่านที่อายุ 30 ปีจะต้องออมเพิ่มเป็น 2,403 บาท สังเกตได้ว่า หากท่านเริ่มออมช้า ตัวเลขเงินที่ต้องออมต่อเดือนแทบไม่ต่างกัน ตอกย้ำความจริงว่า ยิ่งเริ่มก่อนยิ่งได้เปรียบ

ส่วนท่านที่อยู่ในวัย 40 – 50 ปีก็ไม่ต้องกังวล ถ้าจะเริ่มออมเสียแต่วันนี้ก็ยังไม่สายเกินไป ท่านอาจจะต้องออมมากกว่าในแต่ละเดือน แต่เชื่อว่าเมื่อท่านอยู่ในวัย 40 – 50 ปี ท่านน่าจะมีรายได้ค่อนข้างมากแล้วด้วยหน้าที่การงาน ท่านที่อายุ 50 ขึ้นไปที่มีครอบครัวน่าจะมีภาระน้อยลงเพราะลูกๆ น่าจะเรียนจบทำงานแล้ว การจะต้องกัดฟันออมเงินให้ได้สักเดือนละ 15,000 บาทต่อเดือนน่าจะไม่เกินกำลังความสามารถ

ข่าวดียิ่งไปกว่านี้ก็คือว่า ท่านผู้อ่านจำนวนมากอาจจะได้ออมอยู่บ้างแล้วผ่านระบบการออมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนประกันสังคมกรณีชราภาพ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ฯลฯ ซึ่งหากมีอยู่แล้วก็จะช่วยแบ่งเบาภาระการออมของท่านไปได้มาก

ในสัปดาห์หน้า เราจะมาดูวิธีการออมเพื่อให้มีเงินพอใช้หลังเกษียณ

ท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลสิทธิประโยชน์กองทุนประกันสังคมเพิ่มเติมได้ที่ www.sso.go.th หากท่านมี ข้อสงสัยเกี่ยวกับการออมเงินกับกองทุนประกันสังคมเพื่อให้ได้รับบำเหน็จหรือบำนาญชราภาพหลังเกษียณ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคม เขตพื้นที่/จังหวัด/สาขาทั่วประเทศ หรือที่สายด่วนประกันสังคม 1506 ติดต่อระบบโทรศัพท์ตอบรับอัตโนมัติ ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง ให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุด ตั้งแต่เวลา 07.00 – 19.00 น.

ที่มา : วิน พรหมแพทย์ สำนักบริหารการลงทุน สำนักงานประกันสังคม