โบรกเกอร์กองทุนรวม เเนะนำนักลงทุน พักเงินในกองทุนรวมตลาดเงิน พร้อมประเมินสถานการณ์ ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ก่อนลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง
นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund Super Mart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์การลงทุนในช่วงที่ศาลจะมีการพิจรณาคดียคดทรัพย์ พตท.ทักษิณ ชินวัตร ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ นี้ อาจจะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น ตลาดหุ้นไทยอาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบ แต่หลังจากวันที่ 26 กพ. ไปเเล้วนั้นคงต้องรอดูสถานการณ์ต่อว่าจะมีการเคลื่อนไหวหรือไม่
ซึ่งเราเองอยากแนะนำให้นักลงทุนพักเงินในกอทุนรวมตลาดเงิน หรือ มันนี่มาร์เก็ตไปก่อน เพื่อประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วจึงค่อยทยอยลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่น
สำหรับอัตราเงินเฟ้อในช่วงนี้ค่อยๆปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้การลงทุนในตราสารหนี้นั้นอาจจะไม่ใช่การลงทุนที่สารมารถชนะอัตราเงินเฟ้อได้ ซึ่งหากมีทางคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นักลงทุนที่ลงทุนอยู่ในตราสารหนี้ก็อาจจะเสียโอกาสจากส่วนต่างกำไรที่ได้รับหรือ แคปปิตอล เกน เนื่องจากราคาตราสารหนี้ลดลง
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น เช่นกองทุนรวมตลาดเงิน น่าจะช่วยให้ผลตอบเเทนที่ดีกว่า ในช่วงที่พักรอเพื่อหาจังหวะเข้าลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงประเภทอื่น
นอกจากนี้สินค้าคอมมอนีตี ก็เป็นสินทรัพย์อีกประเภทหนึ่งที่ให้ผลตอบเเทนที่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ เเต่ทั้งนี้คงต้องดูจังหวะในการเข้าลงทุน เนื่องจากราคาทองคำ ยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาหนุน ขณะที่ราคาน้ำมัน นั้นราคาค่อนข้างสูงในช่วงนี้
นอกจากนี้ บรรยากาศการลงทุนยังคงมีความไม่แน่นอนสูงแม้ว่าปัญหาหนี้ในยูโรโซนจะได้รับความช่วยเหลือ
แต่รายละเอียดยังไม่ชัดเจนทำให้ยังคงมีความกังวลกันอยู่ดังจะเห็นได้จากค่าเงินยูโรยังคงผันผวน US Dollar Index ยังคงอยู่ในระดับสูง
นอกจากนี้จีนยังคงออกมาตรการควบคุมการปล่อยสินเชื่อและการเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ระยะสั้นคาดว่าจะยังคงเห็นความผันผวนในตลาดหุ้นเอเชียแม้ว่าเราจะยังคงมองมาตรการต่างๆ เป็นมาตรการที่ดีทำให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
ทั้งนี้ เรายังคงต้องเฝ้าจับตามองจังหวะการลงทุนอย่างใกล้ชิดต่อไป ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเรายังคงแนะนำให้พักเงินไว้ในกองทุนตลาดเงินตามเดิมกองทุนตลาดเงินที่แนะนำคือ กองทุนเปิดฟิลลิปบริหารเงินของ บลจ.ซึ่งหลักทรัพย์ที่ลงทุนมีเป็นตราสารหนี้ภาครัฐ และเงินฝากกว่า 98% ผลการดำเนินงานมีความสม่ำเสมอแต่ขนาดของกองทุนยังเป็นข้อจำกัด
สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้นั้นระยะยาวเรายังเชื่อว่ากลุ่ม Emerging market สภาพเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งกว่าประเทศพัฒนาแล้ว แต่ระยะสั้นยังคงมีความผันผวนจากการออกมาตรการและแนวโน้มการเปลี่ยนนโยบายการเงินการลงทุนช่วงนี้จึงควรติดตามอย่างใกล้ชิด และเลือกจังหวะการลงทุนอย่างเหมาะสม