บลจ.ทิสโก้ ชี้โอกาสทองลุยหุ้นกลุ่มละตินอเมริกา หลังพบสัญญาณเศรษฐกิจโตต่อเนื่อง จากปัจจัยบวกทั้งภายใน และเงินทุนไหลเข้า ล่าสุดเตรียมเปิดขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ ละติน อเมริกา" หวังให้นักลงทุนใช้กระจายความเสี่ยงมากขึ้น "ธีรนาถ"คาดผลตอบแทนปีนี้ประมาณ 15-20% แถมเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการหนีความผันผวนจากหุ้นไทย
นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ภูมิภาคละติน อเมริกา ถือเป็นกลุ่มตลาดเกิดใหม่ที่มีความน่าสนใจในการลงทุนเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะเมื่อดูจากตัวเลขผลตอบแทนแล้ว อัตราผลตอบแทนในภูมิภาคละติน อเมริกา ถือว่าอยู่ในระดับที่สูงที่สุด
นอกจากนี้ยังเป็นภูมิภาคที่เศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งและโดดเด่น สวนกระแสประเทศอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาวิกฤตการเงินโลกในช่วงที่ผ่านมา
เนื่องจากเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติสำคัญของโลกและเป็นที่ต้องการของตลาด เช่น แร่ธาตุ น้ำมัน และทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ ซึ่งนำไปใช้เป็นวัตถุดิบและผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) โดยเฉพาะ บราซิล ที่เป็นแหล่งส่งออกน้ำตาล เพื่อใช้ในการผลิตเอทานอลใหญ่ที่สุดในโลก
ด้านนายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า นอกจากความแข็งแกร่งและการขยายตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ เชื่อว่าเงินทุนไหลจะเป็นปัจจัยบวกอีกประการที่ทำให้หุ้นในกลุ่มภูมิภาคนี้มีการปรับตัวสูงขึ้น
"จะสังเกตได้ว่าตอนนี้มีเม็ดเงินจำนวนมากที่ยังเหลืออยู่อยู่ในพันธบัตรสหรัฐ ซึ่งรอเวลากลับเข้ามาลงทุนอีกครั้งหนึ่ง และนอกจากเอเชียแล้ว กลุ่มละตินอเมริกาจะเป็นอีกแห่งที่เม็ดเงินเหล่านี้จะไหลกลับเข้ามาลงทุน นอกจากนี้ประเทศในกลุ่มนี้ยังเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่ต้องเร่งสร้างสาธารณูปโภครองรับ และเชื่อว่าหากเศรษฐกิจโลกฟื้น การส่งออกของกลุ่มละตินอเมริกาก็จะกลับมาดีขึ้นด้วย และปัจจัยเหล่านี้ก็น่าจะส่งผลดีให้การลงทุนในกองทุนนี้มีผลตอบแทนที่ดีได้"นายสาห์รัชกล่าว
นอกจากนี้ราคาหุ้นในภูมิภาคละติน อเมริกายังอยู่ในระดับที่น่าสนใจลงทุนหากเทียบกับราคาหุ้นในภูมิภาคอื่น จึงเป็นโอกาสเหมาะที่จะเข้าไปลงทุน
อีกทั้งในส่วนของประเทศบราซิล ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลรายใหญ่ของโลก ยังได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพในการจัดกีฬาโอลิมปิกปี 2559 จึงจะเป็นส่วนช่วยกระตุ้นการค้าและการลงทุนในภูมิภาคนี้ได้เป็นอย่างดี
นายธีรนาถ กล่าวต่อว่า ล่าสุดบริษัทได้เตรียมจะทำการเสนอขาย“กองทุนเปิด ทิสโก้ ละติน อเมริกา (TISCO Latin America Fund : TISCOLAF )” ที่ลงทุนในกองทุนต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) เน้นลงทุนใน 5 ประเทศ ประกอบด้วย บราซิล ชิลี เม็กซิโก โคลอมเบีย และเปรู และคาดว่าจะสามารถเสนอขายครั้งแรกประมาณวันที่ 22 กุมภาพันธ์ - 5 มีนาคม 2553
โดยขณะนี้ “กองทุนเปิด ทิสโก้ ละติน อเมริกา อยู่ในระหว่างการพิจารณาคำขออนุมัติจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
"กองทุนนี้มีจุดเด่นอยู่ที่การมีสภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ โดยปัจจุบันมีสัดส่วนการลงทุนอยู่ในประเทศบราซิลประมาณ 70% แม็กซิโก 20% ซึ่งจะมีน้ำหนักการลงทุนตามขนาดมาร์เก็ตแคปของแต่ละประเทศ ที่มีสัดส่วนเดียวกับดัชนี MSCI ละตินอเมริกา"นายธีรนาถ กล่าว
สำหรับนโยบายการลงทุนของ “กองทุนเปิด ทิสโก้ ละติน อเมริกา (TISCO Latin America Fund : TISCOLAF )” จะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Lyxor ETF MSCI EM Latin America (กองทุนหลัก) ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟ (Exchange Traded Fund) ประเภทกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์
มีนโยบายการลงทุนในตราสารแห่งทุนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี MSCI EM Latin America บริหารและจัดการโดย Lyxor International Asset Management
ส่วนสาเหตุที่เลือกลงทุนในภูมิภาคนี้ เพราะเชื่อว่าเป็นกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ที่น่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยการบริโภคภายในประเทศที่อยู่ในอัตราที่สูง
ซึ่งแม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะยังมีความผันผวนก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภูมิภาคละติน อเมริกา มากนัก แต่จากสัญญาณที่เศรษฐกิจโลกเริ่มมีการฟื้นตัวอยู่ในขณะนี้ จึงเป็นปัจจัยบวกต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลัก ให้มีราคาสูงขึ้นตามไปด้วย
"กองทุนนี้น่าจะเหมาะและเป็นทางเลือกในการ กระจายความเสี่ยงจากการลงทุนหุ้นไทย และภูมิภาคนี้ก็เป็นภูมิภาคที่น่าสนใจและคาดว่าในปีนี้น่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ในระดับ 15-20% บวกกับความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ แล้ว จึงน่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายผลตอบแทนจากการลงทุนได้เป็นอย่างดี”