นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด กล่าวถึง ภาพรวมของเศรษฐกิจประเทศเกาหลีใต้ในช่วงนี้ว่า ตัวเลขทางเศรษฐกิจต่างๆ ของเกาหลีใต้ยังแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวต่อเนื่องตลอดช่วงที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าตัวเลข GDP ไตรมาส 4 แม้ว่าชะลอตัวลง โดยเติบโตที่ระดับ 0.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2552 (qoq) แต่ยังถือว่าเศรษฐกิจเกาหลีใต้ยังคงขยายตัวได้ในระดับสูงที่ 6% (yoy) ขณะที่ตัวเลขเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือน ม.ค. อยู่ที่ 2.73 แสนดอลลาร์สหรัฐ ปรับขึ้นต่อเนื่องตลอดตั้งแต่ช่วงปลายปี 2551 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงฐานะทางการเงินระหว่างประเทศที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ ภาพรวมของภาวะเศรษฐกิจและการส่งออกที่ดีขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินวอนแข็งค่าขึ้นอยู่ที่ระดับ 1,130-1,150 วอนต่อดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบาย ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 2% ก็เชื่อว่า ธนาคารกลางจะยังไม่มีความจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วนักตามการคาดการณ์ของหลายฝ่ายเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในขณะนี้ยังอยู่ในระดับเงินเฟ้อเป้าหมาย
ส่วนภาพรวมผลตอบแทนของพันธบัตรเกาหลีใต้ และค่า Swap Rate ในช่วงนี้ นายวันกล่าวว่า ยังคงผันผวน และไม่น่าจะปรับตัวขึ้นได้มากในระยะนี้ จากการที่แนวโน้มของค่าเงินดอลลาร์ในระยะสั้นน่าจะมีโอกาสอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนเทขายเงินดอลล่าร์สหรัฐออกไป อีกทั้งมาตรการระดมทุนของรัฐบาลเกาหลีใต้ที่เปิดกว้างมากขึ้น ส่งผลให้แนวโน้มความต้องการดอลลาร์สหรัฐลดลง จึงอาจส่งผลต่อผลตอบแทนโดยรวมของพันธบัตรเกาหลีใต้ที่จะปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนโดยรวมของการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีในขณะนี้ ยังคิดว่ามีความน่าสนใจ เนื่องจากยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลในประเทศอายุเฉลี่ยใกล้เคียงกัน เช่น พันธบัตรรัฐบาลไทย อายุ 6 เดือน ผลตอบแทนถึงผู้ถือหน่วยหลังจากหักค่าใช้จ่ายปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1% ต่อปี ส่วนพันธบัตรเกาหลีใต้ อายุ 6 เดือน ผลตอบแทนอยู่ที่ 1.5-1.6% ต่อปี ซึ่งส่วนต่างที่ระดับ 0.5-0.6% ต่อปี
ทั้งนี้ บลจ.แอสเซท พลัส ยังคงมีกองทุนเสนอขายอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันนี้ถึง 10 กุมภาพันธ์นี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างเสนอขาย IPO กองทุนเปิดเอฟไอเอฟตราสารหนี้ระยะสั้น 5/6M ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ที่เปิดเสนอขายครั้งเดียว โดยรอบการลงทุนนี้ จะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ อายุประมาณ 6 เดือน โดยคาดว่ากองทุนจะสามารถให้ผลตอบแทนหลังจากทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงเต็มจำนวนและหักค่าใช้จ่ายกองทุนแล้ว อยู่ที่ประมาณ 1.625% ต่อปี
ด้านบลจ.ธนชาต เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายกองทุน กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 37 (T-FixFIF37) อายุโครงการประมาณ 11 เดือน มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท เสนอขายเพียงครั้งเดียว (IPO) ระหว่างวันที่ 5 - 11 ก.พ. 53 ลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท โดยกองทุน T-FixFIF37 เป็นกองทุนที่มีเป้าหมายที่จะลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐของประเทศเกาหลีใต้ เช่น พันธบัตรธนาคารแห่งชาติเกาหลีใต้ พันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ และกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวนสำหรับมูลค่าตราสารหนี้ประเทศเกาหลีใต้ที่กองทุนลงทุน
ทั้งนี้ ภาพรวมของภาวะเศรษฐกิจและการส่งออกที่ดีขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินวอนแข็งค่าขึ้นอยู่ที่ระดับ 1,130-1,150 วอนต่อดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบาย ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 2% ก็เชื่อว่า ธนาคารกลางจะยังไม่มีความจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วนักตามการคาดการณ์ของหลายฝ่ายเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในขณะนี้ยังอยู่ในระดับเงินเฟ้อเป้าหมาย
ส่วนภาพรวมผลตอบแทนของพันธบัตรเกาหลีใต้ และค่า Swap Rate ในช่วงนี้ นายวันกล่าวว่า ยังคงผันผวน และไม่น่าจะปรับตัวขึ้นได้มากในระยะนี้ จากการที่แนวโน้มของค่าเงินดอลลาร์ในระยะสั้นน่าจะมีโอกาสอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนเทขายเงินดอลล่าร์สหรัฐออกไป อีกทั้งมาตรการระดมทุนของรัฐบาลเกาหลีใต้ที่เปิดกว้างมากขึ้น ส่งผลให้แนวโน้มความต้องการดอลลาร์สหรัฐลดลง จึงอาจส่งผลต่อผลตอบแทนโดยรวมของพันธบัตรเกาหลีใต้ที่จะปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนโดยรวมของการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีในขณะนี้ ยังคิดว่ามีความน่าสนใจ เนื่องจากยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลในประเทศอายุเฉลี่ยใกล้เคียงกัน เช่น พันธบัตรรัฐบาลไทย อายุ 6 เดือน ผลตอบแทนถึงผู้ถือหน่วยหลังจากหักค่าใช้จ่ายปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1% ต่อปี ส่วนพันธบัตรเกาหลีใต้ อายุ 6 เดือน ผลตอบแทนอยู่ที่ 1.5-1.6% ต่อปี ซึ่งส่วนต่างที่ระดับ 0.5-0.6% ต่อปี
ทั้งนี้ บลจ.แอสเซท พลัส ยังคงมีกองทุนเสนอขายอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันนี้ถึง 10 กุมภาพันธ์นี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างเสนอขาย IPO กองทุนเปิดเอฟไอเอฟตราสารหนี้ระยะสั้น 5/6M ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ที่เปิดเสนอขายครั้งเดียว โดยรอบการลงทุนนี้ จะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ อายุประมาณ 6 เดือน โดยคาดว่ากองทุนจะสามารถให้ผลตอบแทนหลังจากทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงเต็มจำนวนและหักค่าใช้จ่ายกองทุนแล้ว อยู่ที่ประมาณ 1.625% ต่อปี
ด้านบลจ.ธนชาต เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายกองทุน กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้ต่างประเทศ 37 (T-FixFIF37) อายุโครงการประมาณ 11 เดือน มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท เสนอขายเพียงครั้งเดียว (IPO) ระหว่างวันที่ 5 - 11 ก.พ. 53 ลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท โดยกองทุน T-FixFIF37 เป็นกองทุนที่มีเป้าหมายที่จะลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐของประเทศเกาหลีใต้ เช่น พันธบัตรธนาคารแห่งชาติเกาหลีใต้ พันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ และกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวนสำหรับมูลค่าตราสารหนี้ประเทศเกาหลีใต้ที่กองทุนลงทุน